โควิด-19 ที่วัดไทยในอเมริกา / รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

โควิด-19

ที่วัดไทยในอเมริกา

 

ถึงวันนี้ 30 มกราคม 2021 โควิด-19 ในอเมริกามีคนติดเชื้อสะสม 26.2 ล้านคน เปรียบเทียบกับทั้งโลก 103 ล้านคน

มีคนติดเชื้อตายในอเมริกา 441,000 คน เปรียบเทียบกับคนติดเชื้อตายทั้งโลก 2 ล้าน 2 แสน 3 หมื่นคน

อเมริกาเป็นประเทศที่มีคนติดเชื้อมากที่สุดในโลก

อเมริกาเป็นประเทศที่มีคนตายมากที่สุดในโลก

น.ส.พ.Siamtown US หนังสือพิมพ์ภาษไทยออกที่แอลเอ แคลิฟอร์เนีย ฉบับ 23 มกราคม 2021 ได้รายงานว่า

เมื่อบ่ายวันที่ 21 มกราคม 2021 ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโน เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา เมืองโพโนม่า แคลิฟอร์เนีย ได้จัดรายการธรรมะหลายมิติ เผยแพร่สดทางเฟซบุ๊กของวัดพุทธปัญญา เพื่อเล่าเรื่องการมรณภาพของหลวงพ่ออมโรญาโณ พระลูกวัด

ดร.พระมหาจรรยาเล่าว่า หลวงพ่ออมโรญาโณ หรือที่ญาติโยมเรียกขานว่า “หลวงพ่อเกาหลี” เพราะเป็นชาวเกาหลี เคยอยู่ที่วัดเกาหลีมาก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่วัดพุทธปัญญาตั้งแต่เริ่มวางศิลาฤกษ์สร้างวัดเมื่อ 11 ปีที่แล้ว

หลวงพ่ออมโรญาโณบวชเป็นพระมากว่า 50 ปี โดยบวชเป็นศิษย์ของสมเด็จวัดปากน้ำภาษีเจริญ เคยจำพรรษาที่วัดเบญจมบพิตร เคยฝึกปฏิบัติแบบเข้มข้นที่พม่าเป็นเวลา 6 เดือนก่อนจะเดินทางมาอยู่ที่รัฐเท็กซัส อเมริกาในปี 1972 และเดินทางไปหลายรัฐก่อนจะมาจำพรรษาที่วัดเกาหลีในแคลิฟอร์เนีย แล้วย้ายมาวัดพุทธปัญญาในที่สุด

ดร.พระมหาจรรยาเล่าว่า หลวงพ่อเกาหลีอายุ 83 ปี เริ่มมีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 9 มกราคม ต้องเข้าห้องน้ำมากกว่า 20 ครั้ง ถึงขนาดล้มลงหมดสติขณะกวาดใบไม้ที่ลานวัด

ญาติโยมจึงพาเข้าพักที่ในกุฏิ แล้วนำส่งโรงพยาบาลโพโมน่า แวลเลย์ หมอตรวจอาการแล้วบอกว่าขาดเกลือแร่ จึงให้ยามากินที่วัด

2-3 วันต่อมา อาการของหลวงพ่อเกาหลียังไม่ดีขึ้น ญาติโยมที่เป็นพยาบาลจึงตัดสินใจเรียก 911 (รถพยาบาลฉุกเฉินในอเมริกา มาพร้อมรถดับเพลิงและทีมช่วยเหลือ) นำส่งโรงพยาบาลโพโมน่า แวลเลย์ คราวนี้แพทย์รับตัวไว้รักษาในห้องฉุกเฉิน และทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ซึ่งผลตรวจเป็นบวก

เมื่อถึงวันที่ 20 มกราคม ทางแพทย์ได้โทร.มาบอกว่าหลวงพ่อมีอาการหนักมาก ทางโรงพยาบาลได้ทำดีที่สุดแล้ว แล้วหลวงพ่อเกาหลีก็จากไปอย่างสงบ

ดร.พระมหาจรรยายังเล่าอีกว่า ที่วัดพุทธปัญญามีพระหนุ่มอีกรูปชื่อพระจักรกฤษณ์ ธีรธมโม (พระโจ) เมื่อวันที่ 7 มกราคม ได้มารายงานหลวงพ่อว่า ตนเองเกิดอาการไม่สบาย วันรุ่งขึ้นไปตรวจโควิด-19 อีกสองวันต่อมาพบว่าติดเชื้อ

ญาติโยมได้จัดทีมพยาบาลดูแลพระโจตั้งแต่บัดนั้น

พระโจกินยาลดไข้ พักรักษาตัวอยู่ที่วัด ตอนนี้อาการดีขึ้น ออกมากวาดลานวัดได้แล้ว

น.ส.พ. SiamtownUS ได้ออกคลิปรายการ “เก้าอี้รับแขก” สัมภาษณ์หลวงพ่อ ดร.พระมหาจรรยาเล่าถึงเรื่องติดเชื้อที่เกิดขึ้นในวัดว่า

เกิดตั้งแต่งานวันปีใหม่ที่วัด แต่ทางวัดพยายามบอกญาติโยมทางบ้านว่า ไม่จำเป็นไม่ต้องมา เพราะทางวัดจัดส่งพรทางออนไลน์มา 3 เดือนแล้ว

แต่หลวงพ่อรู้ว่าอย่างไรก็มีคนมา

จึงจัดเตรียมข้าวขาหมูไว้ 100 กล่อง ก๋วยเตี๋ยว และกล้วย แจกจนหมด

ทางวัดจัดงานแบบ New Normal คนมางานที่วัดอยู่ห่างจากพระ 6 ฟุต จัดในที่โล่งไม่ใช่ในอาคาร พอถวายของแล้วให้พรเสร็จก็รับอาหารแล้วกลับบ้าน เสร็จงานตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง

ตัวหลวงพ่อเองเล่าว่าในวันงาน ตัวท่านมีอาการไข้ปวดหัวมาก แต่ต้องบัญชางานจนเสร็จ

แล้วปลีกวิเวกไปพักยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง 6 วัน ฉลองวันเกิด 62 ปี

พร้อมดื่มน้ำสมุนไพร ขิง ข่า กระเทียม ตะไคร้ ดื่มทั้งวันพร้อมกินยา Tylenol และยาลดไข้อื่น

ยังมีสูตรสมุนไพรคือ ดื่มน้ำมะนาวใส่ใบมะกรูด และเคี้ยวขิงหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ กับมะนาวหั่นชิ้นเล็กๆ พร้อมดื่มน้ำวันละ 6 แก้ว

ตัวหลวงพ่อยังได้กลิ่นและรู้รสอาหาร จึงยังไม่ตรวจโควิด

(แต่ผมเชื่อว่าหลวงพ่อติดเชื้อก่อนเพื่อน)

หลวงพ่อเล่าว่า ทีมที่ดูแลอาการหลวงพ่อเจ้าอาวาส หลวงพ่อเกาหลีและพระโจ รวมทั้งทีมทำขาหมู ทีมทำก๋วยเตี๋ยว

“ล้วนติดโควิดระเนระนาด ”

แสดงว่า วิกฤตโควิดเกิดที่วัดไทยแห่งนี้

หลวงพ่อ ดร.พระมหาจรรยาบอกว่า ตอนนี้วัดพุทธปัญญาอยู่ในโซนสีแดง ติดเชื้อรุนแรง จึงต้องปิดวัด

มีศาสนสถานต่างๆ ในเขตนี้ 22 แห่ง ทุกแห่งทางการให้ปิดกิจกรรมทั้งหมด

ล่าสุด หลวงพ่อพระมหาจรรยาได้ออกเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจที่ญาติธรรมผู้หญิงคนไทยที่สนิทกับวัดพุทธปัญญาคนหนึ่งได้เสียชีวิตเพราะติดโควิด-19

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมนั่งรถไฟ Amtrak จากแอลเอนานหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ไปเยี่ยมเพื่อนบัญชี จุฬาฯ ที่เมืองโพโนม่า พักอยู่ด้วยหลายวัน ได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดพุทธปัญญา 3 ครั้ง ได้ร่วมสวดมนต์ ทำสมาธิพร้อมรับพรจากหลวงพ่อ ดร.พระมหาจรรยา ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง

ยังจำพระที่วัดนี้ได้ทุกรูป โดยเฉพาะหลวงพ่อเกาหลี

หลวงพ่ออนุญาตให้ผมเก็บลูกพลับจากต้นที่วัดมากิน เป็นลูกพลับที่หวานอร่อยมาก

ผมเคยเจอพระไทยรูปหนึ่งบนรถบัสที่เมืองลองบีช แคลิฟอร์เนีย คุยกันได้ความว่า ท่านมาจากวัดโพธิ์เมืองไทย จำวัดที่วัดญวนในเมืองลองบีช

เมืองลองบีชเป็นถิ่นพำนักของเวียดนามอพยพ บนรถบัสมีป้ายภาษาญวน

การที่พระจะพำนักในวัดต่างชาติจึงไม่ใช่เรื่องแปลกในอเมริกา

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า สุภาพสตรีคนหนึ่งเป็นเจ้าของตลาดไทยในเมืองฮอลลีวู้ด ไปทำบุญที่วัดป่าธรรมชาติในแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2020 พอวันรุ่งขึ้นก็มีอาการไข้ ไม่สบาย ไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 พอต้นเดือนมกราคม หลังปีใหม่ไม่กี่วันก็เสียชีวิต

คนไทยในแอลเอเข้าใจว่าเธอติดเชื้อเพราะไปทำบุญที่วัด

จนทางวัดป่าธรรมชาติต้องออกแถลงการณ์ว่า ทางวัดไม่มีพระ, ชีหรือญาติโยมที่มาทำบุญแล้วติดเชื้อในวันนั้น ส่วนเธอคนนี้มาทำบุญแล้วเกิดไม่สบายในวันรุ่งขึ้นทันที ซึ่งที่จริงจะต้องมีอาการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาติดเชื้อที่วัด

มีคนใกล้ชิดผมที่ติดเชื้อในช่วงปีใหม่ที่ควรบันทึกไว้ดังนี้

คนแรกเป็นรุ่นน้อง สมาชิกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นวิศวกรอายุ 65 ปี ตอนก่อนวันคริสต์มาสไปร่วมร้องเพลงคริสต์มาสอัดคลิปในโบสถ์ที่แอลเอเมื่อวันเสาร์

พอถึงวันพุธก็เริ่มเจ็บคอ ไอ มีไข้ ที่ทำงานให้หยุดไม่ต้องไปทำงาน ให้ work from home อย่างเดียว พออีก 2 วันก็เริ่มไม่รู้รสอาหาร ไม่ได้กลิ่น ไปตรวจโควิด-19 ผลเป็นบวก ติดเชื้อ

แยกห้องนอน ห้องน้ำกับภรรยา

ภรรยาเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลแอลเอ ไปตรวจ ผลติดเชื้อเหมือนกัน มีอาการคล้ายกัน

ทั้งคู่กินยา Tylenol ลดไข้ และกินสมุนไพรจีน เป็นสมุนไพรที่มีส่วนผสมของฟ้าทะลายโจรและกระชายขาว

ภรรยาฟื้นหายไข้หลังสิบวันต่อมา

ส่วนวิศวกรฟื้นหายไข้หลังจากนั้นอีก 3-4 วัน

ทีมคนไทยที่ร่วมร้องเพลงคริสต์มาสในโบสถ์ติดเชื้ออีก 7-8 คน

อีกรายเป็นหมอไทยอยู่เมืองเดียวกับผม สนิทกันมากเพราะที่เมืองนี้คนไทยหายาก หมอเคยเล่าว่า ในออฟฟิศมีหมอ 13 คนติดโควิดไป 2 คน พยาบาลติดโควิด 6 คน พนักงานติดโควิด 20 กว่าคน ที่ออฟฟิศมี 2 วอร์ด ต้องยุบเหลือวอร์ดเดียว

กลางเดือนธันวาคม หมอโทร.มาบอกว่าตื่นเช้ามามีอาการเจ็บคอ แสบคอมาก มีไข้ เริ่มไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ต้องหยุดทำงาน กิน Tylenol รักษาตัวอยู่บ้าน

ไวรัสโจมตีแบบจู่โจม ผลตรวจเป็นบวกใน 2 วันต่อมา

หมอคนนี้อยู่บ้านคนเดียว ไม่มีครอบครัว เราบังคับให้เขาตอบรับโทรศัพท์หรือรับเท็กซ์ทุกครั้ง ถ้าไม่ตอบรับจะเรียก 911 ไปรับจากบ้านส่งโรงพยาบาล

เพราะเกรงว่าเขาอาจจะเกิดโคม่า นอนหมดสติไม่มีใครรู้เรื่อง ช่วยไม่ทัน

หมอรักษาตัวอยู่ที่บ้าน กินยาลดไข้เหมือนคนอเมริกันทั่วไป พอถึงประมาณวันที่เก้า เขาไปโรงพยาบาลฉีด Monoclonal Antibody เข้าทางเส้นเลือด เพื่อให้ภูมิคุ้มกันโดยตรงต่อเชื้อโควิดในร่างกาย

ยาตัวนี้คือตัวเดียวกับที่ฉีดรักษาประธานาธิบดีทรัมป์

หมอเริ่มฟื้นตัวในวันรุ่งขึ้น

ส่วนคนใกล้ชิดอีกคน เป็นสมาชิกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ แห่งแคลิฟอร์เนีย เขาอายุ 55 ปี เป็นสถาปนิกผู้มีชื่อเสียง มีผลงานออกแบบสร้างตึกสูงในดูไบ แอฟริกาใต้ และในอเมริกา

เขาอยู่บ้านคนเดียวในแอลเอ ไม่มีครอบครัว ช่วงก่อนคริสต์มาส เขาหายเงียบไป จนมีผู้พบนอนเสียชีวิตในบ้านมา 8 วันแล้ว

เข้าใจว่าโดนโควิด-19 ปลิดชีพ

พี่น้องจากสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ แห่งแคลิฟอร์เนียเป็นเจ้าภาพพิธีสวดชื่อให้เขาในวาระสุดท้าย (ศพเอาไปไว้สุสานแล้ว)

ตอนนี้มีคำแนะนำให้คนที่อยู่บ้านคนเดียว ควรหา “คู่หู” (buddy) ไว้คอยตรวจสอบกัน พร้อมให้เบอร์รหัสเข้าบ้านไว้ต่อกัน

จะได้ไม่นอนตายโดดเดี่ยวคนเดียวไม่มีใครรู้เห็น เพราะ

โควิด-19 ไม่เคยปรานีใคร