E-DUANG : ยุทธการ อภิปราย ของฝ่ายค้าน ปฏิบัติการ ปักชะนัก กลางหลัง

หากถือว่าปฏิบัติการของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ดำเนินไปในลักษณะของการปัก”ชะนัก”ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การปล่อยถ้อยคำผ่านรูปประโยคแห่งการบรรยายออกมาว่า

“ไม่ยึดมั่นและศรัทธาในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำลายและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย

ทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน นำสถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเกราะปิดบังความผิดพลาด

ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของตนเอง ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรมและสิทธิมนุษยชน ทำลายระบบคุณธรรมในระบบ ราชการ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”

ถือได้ว่าเป็นการปัก”ชะนัก”ลงกลางหลังอย่างรุนแรง ล้ำลึก

เพียงปล่อยรูปประโยคออกมาก็ก่อให้เกิด”อาการ”ดิ้นพราดๆขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐอย่างมิอาจปิดบังอำพรางได้

 

มีความพยายามจะสกัดขัดขวางปรากฏขึ้นอย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกระบวนการ เริ่มจากการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการประสาน งานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)

เรียกร้องผ่านประธานรัฐสภาเพื่อให้พรรคร่วมฝ่ายค้านปรับแก้ถ้อยคำเสียใหม่ แต่เมื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันไม่ปรับแก้

ประธานรัฐสภาก็มิอาจทำอะไรได้นอกจากเตือนให้ระมัดระวัง

ขณะเดียวกัน คำขู่อันมาจากพรรคพลังประชารัฐที่จะป่วนผ่านการประท้วงกระทั่งมิให้การอภิปรายทั่วไปดำเนินได้โดยราบรื่น ในอีกด้านหนึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ต้องรับผิดชอบ

ยิ่งมี ส.ส.บางคนดิ้นถึงขนาดจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะฟ้องร้องต่อศาลสถิตยุติธรรมว่า ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติทำผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ยิ่งทำให้ภาพความหวาดพรั่น ตื่นตระหนกปรากฏขึ้นตั้งแต่ยังมิได้เริ่มอภิปรายทั่วไปในทางเป็นจริง

 

การเคลื่อนไหวจากซีกทางด้านรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภายในพรรคพลังประชารัฐ จึงสะท้อนให้เห็นความเกรงกลัวต่อญัตติอย่างรุนแรง ลึกซึ้ง

ในอีกด้านก็เรียกร้องให้การอภิปรายทั่วไปของพรรคร่วมฝ่ายค้านดำเนินไปอย่างมีคุณภาพ สร้างสรรค์ อย่างเต็มเปี่ยม

ยุทธการปัก”ชะนัก”กลางหลังจึงจะสำแดง”ประสิทธิภาพ”