ในประเทศ

 

‘บิ๊กแป๊ะ’ ปะทะ ‘นกหวีด’

จับตารอยร้าวใน พปชร.

เช็กกำลังศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.

เดือดตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม!

 

เริ่มเห็นเค้าลางชัดเจนมากขึ้นสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าฯ กทม. ที่ว่างเว้นห่างหายไปนาน 8 ปีเต็ม เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งสัญญาณพร้อมจัดเลือกตั้งปลายปี 2564

ทำให้บรรดาว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งเจ้าเมืองกรุง ต่างออกมาขยับแข้งขาเตรียมเข้าสู่จุดสตาร์ต

หยั่งกระแสเปิดตัวโยนหินกันคนละก้อนสองก้อน ทั้งต่างพรรค และพรรคเดียวกันแต่คนละพวก

โดยเฉพาะบรรดาพรรคใหญ่ต่างเฟ้นหาตัวบุคคลมาช่วงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ฐานเสียงใหญ่ในเมืองกรุง

ที่น่าจับตาตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม หนีไม่พ้นพรรคพลังประชารัฐ เมื่อมีกระแสพรรคเตรียมดันบิ๊กแป๊ะž พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.คนล่าสุดเข้าท้าชิง โดยได้แรงหนุนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ แกนนำพรรค

หวังใช้ภาพลักษณ์ผลงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ทั้งกรณี 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย และภารกิจนำทีมตำรวจเข้าระงับเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา มาเป็นจุดขายในการเรียกเสียงคนกรุง

แต่แล้วสัญญาณความไม่ราบรื่นก็ปรากฏ เมื่อนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ภรรยาของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตแกนนำ กปปส. แสดงเจตนารมณ์ต้องการลงสมัครชิงตำแหน่งนี้เช่นกัน

ด้วยความมั่นใจว่าตนเองมีประสบการณ์บริหารงาน กทม.มาก่อน รวมทั้งมีฐานเสียงจากม็อบนกหวีดเมื่อครั้งชุมนุมชัตดาวน์ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์

ที่สำคัญยังมีความพร้อมเรื่องทุน และ ส.ก.อีก 35 เขตเป็นแรงหนุน ยิ่งทำให้ทั้งนางทยาและนายณัฏฐพลผู้เป็นสามี มั่นใจว่ามีโอกาสคว้าชัยชนะในศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. เหนือกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

ทำให้สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.รอบนี้ สะท้อนถึงรอยร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ไก่โห่

ที่สำคัญยังต้องจับตา สุดท้ายแล้วพรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุนใคร

อดีต ผบ.ตร. หรืออดีตแกนนำม็อบนกหวีด?

บรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐคุกรุ่น

เมื่อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เปิดเกมเดินหน้าชนด้วยการเรียกประชุม ส.ส.กทม.ของพรรคบางส่วน และ ส.ก. 35 เขต ที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงเพื่อเช็กขุมกำลังสนับสนุนนางทยาผู้เป็นภรรยา

วันที่ 21 มกราคม มีรายงานข่าว นายณัฏฐพลดอดเข้าทำเนียบรัฐบาล ขอพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อเจรจาโน้มน้าวให้หันมาสนับสนุนนางทยาลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เพราะมั่นใจว่าโอกาสชนะมีสูง โดยใช้เวลาพูดคุยนานราว 20 นาที

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ทุบโต๊ะว่าจะสนับสนุนใคร

ระหว่างนั้นเกิดกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐอาจใช้สูตรเดียวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา คือการส่งผู้สมัครลงในนามอิสระ เพื่อตัดปัญหาขัดแย้งภายใน อีกทั้งไม่เสี่ยงต่อข้อกฎหมาย และหวังดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มประชาชนที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล

ทุกอย่างเริ่มชัด เมื่อในการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 26 มกราคม พล.อ.ประวิตรเรียก ส.ส.กทม.ของพรรคเกือบทั้งหมด เข้าพบทีละคน

การพบแบบตัวต่อตัวครั้งนี้ย่อมมีนัยยะสำคัญ ข่าวระบุ พล.อ.ประวิตรสั่งการให้ ส.ส.กทม.สนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ

เมื่อมีคนเข้าวิน ก็ย่อมมีคนอกหัก ถึงกระนั้นนายณัฏฐพลยังคงยืนยันคำเดิม พร้อมผลักดันนางทยาลงสู้ศึกในนามอิสระเช่นกัน แม้ไร้แรงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐก็ตาม

เมื่อเป็นเช่นนี้ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. จึงเสมือนเป็นเกมวัดใจพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะรับได้หรือไม่ หาก พล.ต.อ.จักรทิพย์กับนางทยาต่างคนต่างลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. จนเกิดการตัดคะแนนเสียงกันเอง

จึงต้องจับตากันต่อไปสำหรับการเดินหมากของ พล.อ.ประวิตรและทีมกุนซือพรรคพลังประชารัฐ จะทางออกเรื่องนี้อย่างไร

สําหรับความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่น

พรรคเพื่อไทยค่อนข้างแน่ชัดว่า จะเปิดทางให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมมาคม และอดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ

โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นายชัชชาติเริ่มกรุยกระแสปูทางลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านตามชุมชนต่างๆ ในเมืองหลวง เพื่อให้คำปรึกษาช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน พร้อมชูภาพนักคิดนักพัฒนา โกยคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยครองสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มายาวนานหลายสมัย แต่การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมากลับสูญพันธุ์ราบคาบ ไม่ได้ ส.ส.กทม.แม้แต่เก้าอี้เดียว

ทำให้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์สำคัญของประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ออกมาเปิด 4 ชื่อแคนดิเดตของพรรค

นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค

ขณะที่พรรคก้าวไกลที่พลาดหวังจากศึกเลือกตั้งนายก อบจ. พร้อมส่งผู้สมัครสู้ศึกผู้ว่าฯ กทม.เช่นกัน โดยหวังใช้ฐานเสียงจาก ส.ส.กทม.ที่กวาดมาได้หลายเก้าอี้เป็นแรงหนุน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลแย้มถึงตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า ขอใช้เวลาเฟ้นหาว่าที่ผู้สมัครก่อน โดยมีสเป๊กต้องชัด โดนและมีความใหม่ ต่างจากสเป๊กผู้ว่าฯ กทม.คนเก่าๆ

แต่ต้องมีความเข้าใจคน กทม. และต้องการความท้าทายใหม่ๆ โดยจะไม่รีบเปิดตัวเร็วๆ นี้

ส่วนท่าทีของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงสู้ศึกนี้หรือไม่ แต่แย้มว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์แอบโทร.มาหารือและถามว่า “ลูกพี่เอาไง” จึงตอบไปว่า ยังไม่ตัดสินใจ

สนามศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปลายปี 2564 จึงเป็นอีกบทพิสูจน์สำคัญในการช่วงชิงฐานเสียงเมืองกรุง

แต่ที่น่าจับตาคงหนีไม่พ้นรอยร้าวลึกในพรรคพลังประชารัฐ ที่เกิดจากการเฟ้นหาตัวผู้สมัครระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และนางทยา ทีปสุวรรณ จะหนุนใคร จะเทใคร

เป็นเกมวัดใจครั้งสำคัญของพรรคประชารัฐในศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.