วัคซีนอินเดีย Covishield ของดีราคาถูกใกล้บ้าน ที่เมืองไทยมองข้าม

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

วัคซีนอินเดีย Covishield

ของดีราคาถูกใกล้บ้าน

ที่เมืองไทยมองข้าม

 

วันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2021 ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และ รมต.ต่างประเทศพม่า กล่าวปราศรัยว่า

พม่าสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 จากอินเดียแล้ว จะได้รับวัคซีนทันทีที่อินเดียให้การรับรองวัคซีนแบบฉุกเฉิน เข้าใจว่าจะฉีดให้บุคลากรแพทย์แนวหน้าได้ราวเดือนกุมภาพันธ์นี้

ออง ซาน ซูจี นัยน์ตาแหลมคม เฉียบขาด สมราคารางวัลโนเบลปี 1991

เพราะอินเดียคือแหล่งผลิตวัคซีนใหญ่สุดของโลก

70% ของวัคซีนในโลกผลิตจากอินเดีย

และเกินกว่า 50% ของวัคซีนในโลกผลิตจากสถาบัน “เซรุ่มแห่งอินเดีย” (Serum Institute of India – SII) SII ส่งออกวัคซีนชนิดต่างๆ ไป 140 ประเทศทั่วโลก เป็นผู้ผลิตวัคซีนให้ WHO, UNICEF และมูลนิธิของบิล เกตส์ (Gates Foundation)

SII ใช้หลักการผลิตวัคซีนจำนวนมากเข้าไว้ เพื่อลดต้นทุน แล้วจัดเก็บเป็นสต๊อกสำรองไว้แม้ว่าจะยังไม่มีออเดอร์เข้ามาก็ตามที ด้วยเหตุนี้ถ้าเกิดมีโรคระบาดที่ไหนในโลก SII จะสามารถส่งสต๊อกวัคซีนได้ทันท่วงที

SII จึงเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สุดของโลก

เด็ก 2 ใน 3 ในโลกนี้ต่างก็ได้รับวัคซีนที่ผลิตจาก SII

เดือนเมษายน 2020 เมื่อโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก อาดาร์ พูนนาวัลลา “เจ้าชายแห่งวัคซีน” (Vaccine Prince of India) ผู้บริหาร CEO ของ SII ตัดสินใจลงทุน 300 ล้านเหรียญร่วมลงทุนกับ AstraZenneca และ Oxford U. ของอังกฤษในการผลิตวัคซีนชื่อ “Covishield” (โควิชิลด์) ในอินเดีย

โรงงานเริ่มเดินเครื่องผลิตวัคซีนล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 ซึ่งขณะนั้นวัคซีนยังอยู่ในกระบวนการเริ่มทดลองกับมนุษย์อยู่เลย และ SII ยังไม่สามารถจำหน่ายจ่ายแจกจนกว่าวัคซีนจะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลอินเดียก่อน

อาดาร์มั่นใจว่าวัคซีนจะได้รับการอนุมัติ

ซึ่งจะทำให้ SII มีวัคซีนจำนวนมากทันใช้ในเดือนธันวาคมเป็นต้นไป

SII เป็นหนึ่งในเจ้าแรกของโลกที่ผลิตวัคซีน Covishield ได้ และเป็นเจ้าเดียวที่มีสต๊อกวัคซีนเยอะที่สุดในโลก

การรับรองวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก เป็นการรับรองแบบฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization – EUA) หมายความว่าเป็นการอนุญาตให้ใช้วัคซีนได้แบบฉุกเฉิน เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนทดลองครบถ้วนกระบวนการ แต่จำเป็นต้องรีบนำออกใช้ก่อน ในกรณีนี้ถ้าต่อไปภายหน้า วัคซีนเกิดปัญหาใดก็ยกเลิกการรับรองได้

ในข่าวทั่วไปในอเมริกา เช่น ทางทีวี จะใช้คำว่า ให้การรับรอง (Approval) แต่ไม่พูดถึง EUA เคยเห็นใน น.ส.พ. The Wall Street Journal เขียนในข่าวว่า Emergency Use Authorization แต่ไม่ได้อธิบายว่าคืออะไร

สรุปคือในอเมริกาไม่ค่อยมีคนรู้ว่า EUA คืออะไร

กลางเดือนมกราคม 2021 ใจหายเมื่อเห็นข่าวโรงงานผลิตวัคซีนของ Serum Institute of India เกิดไฟไหม้ มีคนตาย 5 คนในภาพทีวีอินเดีย TIMES NOW เห็นไฟกำลังลุกไหม้โหมอาคาร แต่โฆษกบอกว่าเป็นอาคารใหม่ที่กำลังก่อสร้างที่เมืองปูเน่

ไฟไหม้คราวนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการผลิต Covishield แต่อย่างใด

นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ประกาศจะเริ่มฉีดวัคซีนให้คนอินเดียวันที่ 16 มกราคม หลังรัฐบาลให้การรับรองวัคซีนแบบฉุกเฉินแล้ว

โมดีบอกว่า จะฉีดวัคซีนให้คนอินเดีย 300 ล้านคนภายในปี 2021 โดยใช้วิธีเข้าถึงประชาชนแบบเดียวกับระบบการเลือกตั้งของอินเดียที่ครอบคลุมทุกพื้นที่

ตัวเลข 300 ล้านคนเท่ากับจำนวนประชากรอเมริกันทั้งประเทศ นี่คือสิ่งที่อินเดียทำได้

CNN บอกว่า วัคซีนอินเดียตั้งราคาขายในประเทศอินเดียที่ 2 โดส 3 เหรียญ

ราคาขายตลาดนอกประเทศ 2 โดส 6-8 เหรียญ

เปรียบเทียบกับราคาที่ Pfizer ขายให้รัฐบาลอเมริกัน โดสละ 19.50 เหรียญ (เข็มเดียว)

Pfizer มีโรงงานผลิตในอินเดีย 6 แห่ง แต่ยังไม่กำหนดราคาขายในอินเดีย

ข่าว MATICHON ONLINE 23 มกราคม 2021 รายงานว่า

แชนนอล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า เมื่อ 22 มกราคม วัคซีนโควิด-19 ที่อินเดียบริจาคให้พม่ากว่า 1.5 ล้านโดสสำหรับประชาชน 750,000 คนได้เดินทางมาถึงย่างกุ้งแล้ว

ในภาพข่าวเห็นเครื่องบิน Air India จอดอยู่ที่สนามบินและมีการขนถ่ายวัคซีนออกจากเครื่องบิน

วัคซีนนี้คือ วัคซีน Covishield ที่สถาบัน Serum Institute of India ผลิตร่วมกับ AstraZenneca และ Oxford U.ของอังกฤษ

เอกอัครราชทูตอินเดียประจำพม่าแถลงกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินย่างกุ้งว่า

นี่คือของขวัญจากอินเดีย

“นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราได้ฉีดวัคซีนให้กับคนของเรา และเราก็ยังได้แชร์วัคซีนที่เราผลิตได้ให้กับประเทศต่างๆ ที่มีความร่วมมือกับเรา”

รมต.สาธารณสุขพม่ากล่าวว่า วัคซีนจะถูกเก็บในห้องเย็นและจะเริ่มฉีดในสัปดาห์หน้า โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ฉีดก่อน อยู่ที่ประมาณ 100,000 คน

วัคซีนโควิด-19 เข็มแรกในพม่า มาถึงก่อนเมืองไทย

สํานักข่าวอิรวดีรายงานว่า ตั้งแต่วันพุธ (20 มกราคม) เป็นต้นมา อินเดียได้ส่งวัคซีนฟรีให้กับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งภูฏาน มัลดีฟส์ บังกลาเทศ เนปาล พม่า และหมู่เกาะซีเชลส์

พม่าสั่งซื้อวัคซีน 30 ล้านโดสจากสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) จ่ายเงิน 75 ล้านเหรียญสำหรับวัคซีนครึ่งหนึ่ง เฉลี่ยโดสละ 5 เหรียญ

The Tribune India 25 มกราคม 2020 โปรยหัวว่า อเมริกาปรบมือให้อินเดีย พร้อมมอบสมญานาม (terming) “เพื่อนแท้” (true friend) ที่มอบของขวัญโควิด วัคซีนให้หลายประเทศ Bhutan, the Maldives, Nepal, Bangladesh, Myanmar, Mauritius และ Seychelles

The South and Central Asia Bureau of the US State Department ทวีตข้อความเมื่อวันศุกร์ว่า ขอปรบมือให้อินเดีย

“อินเดียผู้เป็นเพื่อนแท้ได้ส่งมอบยาเพื่อช่วยเหลือประชาคมโลก”

The Washing Post 21 มกราคม 2021 รายงานว่า

อินเดียได้ส่งมอบโคโรนาไวรัสวัคซีนหลายล้านโดสในเชิงการทูต วัคซีนฟรีได้ส่งให้ Bangladesh, Nepal, Bhutan และ the Maldives มากกว่า 3.2 ล้านโดส และยังได้บริจาควัคซีนให้ Mauritius, Myanmar และ Seychelles ต่อไปจะบริจาคให้ Sri Lanka และ Afghanistan

น้ำใจของอินเดีย “เพื่อนแท้” กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก

ขณะเดียวกัน อินเดียก็ส่งมอบในเชิงพาณิชย์ให้ Saudi Arabia, South Africa, Brazil และ Morocco

สําหรับคนที่ไม่รู้จักวัคซีนอินเดียหรือยาอินเดีย ต้องรับรู้ว่า อินเดียคือ pharmacy of the world ผู้ผลิตยาของโลก

ขอเล่าว่า ยารักษาโควิด-19 ในอเมริกาช่วงระบาดตอนแรก ใช้ยา Hydroxychloroquine ที่ผลิตในอินเดีย ต่อมาอเมริกายุติการใช้ยาตัวนี้ หันมาใช้ยาตัวใหม่ คือ

ยารักษาโควิด-19 อีก 3 ตัวที่ผลิตจากอินเดีย

ยา Itolizumab ของอินเดียที่ได้รับการรับรองในคิวบา ยาตัวนี้ได้รับการรับรองจาก The Drugs Controller General of India – DCGI ในเดือนกรกฎาคม 2020 แล้วโรงงานยาในแคลิฟอร์เนียนำมาผลิตในเดือนตุลาคม

ยา Favipiravir ได้รับการรับรองจาก DCGI ในเดือนมิถุนายน 2020

ยา Remdesivir ได้รับการรับรองจาก DCGI ในเดือนมิถุนายน 2020 เช่นกัน

ยาทั้ง 3 ตัวของอินเดียได้รับการรับรองจาก FDA (Food and Drug Administration) องค์การอาหารและยาของอเมริกา นำมาใช้รักษาโควิด-19 ในอเมริกาอย่างกว้างขวาง

ต้องบันทึกว่าไม่มียาจีนในอเมริกา

ผมรู้จักยาอินเดียตั้งแต่สมัยเข้าไปทำธุรกิจประมงในอินเดียเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว สมัยนั้นกระเทียมแคปซูลอัดเม็ดจากอินเดียคือของฝากที่มีค่า

มารู้จักยาอินเดียลึกซี้งขี้นในช่วงนั้น เมื่อพี่ชายเพื่อนที่แม่กลองป่วยเป็นมะเร็งก้นกบขั้นสุดท้าย หมอโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพจ่ายยาให้เม็ดละ 8,000 บาท แล้วสงสารให้ความช่วยเหลือบอกสูตรยามา ให้หาทางสั่งจากอินเดีย

เพื่อนคนนั้นรู้ว่าผมติดต่อกับอินเดีย จึงขอให้ผมช่วยสั่งยาให้ ได้มาในราคาเม็ดละ 800 บาท รวมค่าส่งถึงเมืองไทย

ยาลดความดันที่โรงพยาบาลจ่ายให้ผมตามบัตรทองก็ผลิตในอินเดีย

ทุกวันนี้สาธารณสุขไทยใช้ยาหลายตัวจากอินเดีย

น่าเสียดายที่ลุงตู่นัยน์ตาไม่แหลมคมเท่าออง ซาน ซูจี มองข้ามวัคซีนจากอินเดีย ของดีราคาถูกใกล้บ้าน

และสำหรับคนที่มองคนอินเดียแค่ “แขกขายถั่ว” ขอให้ตระหนักว่าวันนี้ลูกหลานอินเดียน-คามาลา แฮร์ริส

ขึ้นมาเป็นรองประธานาธิบดีอเมริกาแล้ว