ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 สิงหาคม 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | สำเริงคดี |
เผยแพร่ |
แคทเธอรีน…ดัชเชสออฟเคมบริดจ์ กับอดีตปริ๊นเซสไดอานาผู้ลับล่วง มักถูกเปรียบเหมือนในเรื่องต่างๆ เสมอ หลังสุดตอนเดือนกรกฎาคม มีเสียงซุบซิบว่าเคทอาจกำลังเป็นโรคผิดปกติในการกิน หรือบูลิเมีย เอร์โวซา เหมือนเช่นที่ไดอานาเคยเป็นตอนปี 1981 อันเนื่องมาจากความเครียดในชีวิตสมรสของเธอกับปริ๊นซ์ชาร์ลส์
“เคทผอมลงผิดปกติซึ่งมันอาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพ ฉันรู้ว่าเธอออกกำลังกายมากมาย ไหนจะต้องดูแลปริ๊นซ์จอร์จกับปริ๊นเซสชาร์ลอตต์อีก ซึ่งอาจทำให้เธอไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง” เพื่อนสนิทซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กับพระตำหนัก Anmer Hall ใน Norfolk บอก
“ฉันเคยเปิดตู้เย็นของเธอดูแล้วแทบไม่เชื่อสายตาว่ามันไม่มีอาหารอยู่ในนั้นเลย เคทเป็นคนร่างบางอยู่แล้ว แต่ฉันไม่เคยเห็นเธอผอมขนาดนี้ วิลเลียมเองก็ผอมลง ไม่รู้จริงๆ ว่าทั้งสองคนควบคุมอาหารมากเกินไป หรือว่ายุ่งกับงานจนกินอาหารไม่ถูกต้อง รู้แต่ว่าคนรอบข้างพวกเขากำลังวิตก โดยเฉพาะเคทที่ตอนนี้น้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานถึง 15 กิโล”
ผู้เชี่ยวชาญการคุมน้ำหนักแจงว่า เคทสูง 1.75 ซ.ม. เธอจึงควรมีน้ำหนักอย่างน้อย 57 กิโล และสามารถเพิ่มน้ำหนักขึ้นได้ไปถึง 76 กิโล ซึ่งระหว่างนั้นเป็นช่วงที่ถือว่ามีสุขภาพดี
แหล่งข่าววงในเผยว่า มันเหมือนกับเคทจะติดการออกกำลังกายซึ่งเธอทำมาตั้งแต่หลังคลอดพระธิดาเพื่อให้รูปร่างเข้าที่ ทุกวันนี้เธอทั้งไปออกกำลังที่ยิม ไปว่ายน้ำ ทำพิลาเตส และโยคะ แล้วยังชอบการไปเดินไกลกับเจ้าลูโป สุนัขตัวโปรดอีกด้วย
“เป็นเรื่องดีที่คนเราจะทำให้ร่างกายฟิตอยู่เสมอ แต่เราก็ต้องกินให้เพียงพอด้วย เคทกินแต่สลัดกับอาหารเบาๆ เท่านั้น ฉันอยากให้แม่บ้านชาวอิตาเลียนของเธอทำพาสต้าร้อนๆ อร่อยเด็ดให้เธอหม่ำจนเกลี้ยงจานได้บ้างจัง” เพื่อนบอกแกมบ่นก่อนกระซิบเรื่องสำคัญว่า เคทกับวิลเลียมรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกวิจารณ์ว่าพวกเขาขี้เกียจและอับอายที่จะทำการงาน” ทั้งคู่ไม่สบายใจเอามากๆ และนับแต่นั้นมาก็มุมานะปฏิบัติราชกิจโดยไม่ละเว้น ไม่ว่างาน Chelsea Flower Show, งาน garden parties หรือ Royal Ascot ที่ไม่เคยไปร่วมมาก่อน
“ฉันคิดว่าการที่ควีนมีพระชนมายุถึง 90 และปริ๊นซ์ฟิลลิป 95 ชันษาแล้ว ทำให้พระราชกิจต่างๆ ตกมาเป็นหน้าที่ของพวกเขามากขึ้น วิลเองเคยออกปากว่าการเป็นว่าที่กษัตริย์ ในอนาคตเป็นภาระสำหรับเขา เคทเองก็อาจรู้สึกว่าตกอยู่ใต้ความกดดันเช่นกัน พวกเขาอาจหวั่นหวาดต่อความรับผิดชอบที่จะต้องแบกรับ
และนี่อาจเป็นคำอธิบายได้อีกข้อหนึ่งว่า ทำไมทั้งคู่ถึงกินอะไรไม่ลง