เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท /LOG Dialog I Stereo Hi-End Audio System

เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท [email protected]

LOG Dialog I

Stereo Hi-End Audio System

 

หนึ่งในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Active Sound Systems ที่เอื้อความสะดวกในการใช้งานแบบ Plug & Play ที่เพียงเสียบสายไฟ AC ของลำโพงตัวหลักเข้ากับปลั๊กไฟบ้าน เชื่อมลำโพงทั้งคู่เข้าด้วยกันผ่านสายนำสัญญาณที่เป็นแบบสี่ขั้ว (4-Pole Speaker Cable ซึ่งมีมาให้พร้อม) เปิดให้ระบบพร้อมทำงาน จากนั้นก็สามารถเล่นเพลงแบบสตรีมมิ่งได้ทันที

จะเล่นหรือฟังจาก Source ที่เป็นเครื่องเล่นพกพาจำพวก Music Player หรือจาก Smartphone ผ่านทางบลูทูธ หรือจะผ่านเครือข่าย Wi-Fi ก็ได้โดยสะดวก

โดยภายในลำโพงตัวหลักทางด้านซ้ายซึ่งเป็นลำโพงแบบ Active นั้น ได้ผนวกรวมภาคการทำงานของระบบเสียงเข้าไว้ในตู้พร้อมสรรพแล้วนั่นเอง ทั้งภาคอินพุตในการรับสัญญาณ ภาคการปรับแต่งและการทำงานในส่วนของ LOG AudioEngine รวมทั้งภาคขยายเสียง ขณะที่ลำโพงทางด้านขวานั้นเป็นแบบ Passive เชื่อมสัญญาณมาจากลำโพงซ้ายผ่านสายลำโพงแบบสี่ขั้ว

ซึ่งนั่นออกจะเป็นเรื่องง่ายและสะดวกเอามากๆ ในการเข้าถึงเสียงดนตรีที่เป็นเพลงโปรดของใครต่อใคร

 

และไม่เพียงทำงานร่วมกับอุปกรณ์พกพาที่ว่าเพื่อการเล่นเพลงแบบไร้สายเท่านั้น หาก LOG Dialog I ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์ในเครือข่าย DLNA : Digital Living Network Alliance ได้อย่างสะดวกผ่านทางสาย LAN หรือพอร์ต Ethernet รวมทั้งยังสามารถใช้แอพพลิเคชั่นควบคุมการทำงานของลำโพงในแบบไร้สาย ผ่านทางเครือข่ายไว-ไฟในบ้านได้อย่างคล่องตัวด้วย AirLino App ที่ให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ทั้งจาก Apple App Store และ Google Play Store ซึ่งออกแบบมาให้เข้าถึงและเรียกใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ภายในกล่องบรรจุ LOG Dialog I ประกอบไปด้วยลำโพงสองตู้, แผงหน้ากากโลหะสองชิ้น, สายไฟ AC แบบถอดแยกได้หนึ่งเส้น, สายเชื่อมต่อระหว่างลำโพงทั้งสองหนึ่งเส้น และรีโมตคอนโทรลหนึ่งชิ้น

โครงสร้างภาพลักษณ์ของ LOG Dialog I มีลักษณะเป็นตู้สี่เหลี่ยมแนวนอน แผงหน้าเป็นโลหะกัดเสี้ยนตรึงติดกับแผงหน้าตู้ด้วยปุ่มแม่เหล็ก เมื่อดึงแผงหน้าออกจะเห็นชุดตัวขับเสียงสองตัว พร้อม Port หรือท่ออากาศ โดยทำงานในแบบ 2-ทาง ด้วยระบบ Bass Reflex ไดรเวอร์ที่ใช้ประกอบไปด้วย Mid/Bass Driver และ Tweeter แบบโดม

ภาคอินพุตนอกจากรองรับการทำงานแบบไร้สายผ่าน Bluetooth aptX, AirPlay และครือข่าย DLNA แล้ว ที่แผงหลังของลำโพงตัวหลักยังมีช่องเสียบอินพุตให้ทั้งอะนาล็อกและดิจิตอล โดยมี Optical Input ให้สองชุด และ RCA Input อีกหนึ่งชุด

การทำงานกับไฟล์เสียงนั้น นอกจากรองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูงได้ครบถ้วนแทบจะทุกสกุลแล้ว ยังสามารถรองรับไฟล์ความละเอียดสูงได้ถึงระดับ Hi-Res Audio ที่ 192kHz/24-bit

ส่วนภาคขยายเสียงซึ่งเป็นเพาเวอร์-แอมป์แบบ Class A/B นั้น มีกำลังขับรวม 400-Watt ในการทำงานวัดค่าความเพี้ยนฮาร์โมนิกรวม (THD) ได้ต่ำกว่า 0.20% โดยมีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน หรือ Signal-to-Noise Ratio มากกว่า 95dB ให้การทำงานตอบสนองความถี่ในช่วง 32-25,000Hz (+/-1dB) ด้วยระดับความดังสูงสุดที่ 105dB/SPL ขณะที่ทำงานกับ Network Player นั้น วัดค่า THD ได้สูงกว่า 0.002% เล็กน้อย และวัดค่า S/N Ratio ได้มากกว่า 110dB (ค่านี้ตัวเลขยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ)

LOG Dialog I มีมิติโครงสร้างตู้ (กว้าง x สูง x ลึก) 33 x 22 x 25.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 9 กิโลกรัม/ตู้

และมาพร้อมรีโมตคอนโทรล ที่นอกจากใช้ควบคุมระดับความดังเสียง และตัดเสียงชั่วคราวแล้ว ยังช่วยให้เข้าถึงเมนูและควบคุมการเล่นเพลงได้อย่างสะดวก

ไม่มีสวิตช์หรือฟังก์ชั่นให้เลือก Source เพราะระบบจะทำงานเองโดยอัตโนมัติกับสัญญาณที่ถูกป้อนเข้ามา

ดังนั้น จึงพึงระมัดระวังการเผลอเปิดรับ หรือเล่น จากหลายแหล่งโปรแกรมพร้อมๆ กัน

 

ผมได้ลองฟัง LOG Dialog I ที่ตั้งวางอย่างกลมกลืนไปกับบรรยากาศของห้องลองเสียงที่เป็นแบบเปิดโปร่ง ในห้องโชว์ของตัวแทนผู้นำเข้า ซึ่งมีความละม้ายคล้ายส่วนห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นของบ้านทั่วๆ ไป โดยวางอยู่บนชั้นวางเตี้ยในลักษณะ Stand-Alone ขนาบทีวีจอแบน แผ่นบาง ที่แขวนเข้าผนังเอาไว้ และได้ลองฟังเสียงเพลงจากสตรีมมิ่งผ่านผู้ให้บริการรายหนึ่ง

ซึ่งเท่าที่ได้ลองฟังจากหลายๆ แทร็ก รับรู้ได้ว่า Dialog I เป็นลำโพงที่ให้น้ำเสียงออกมาได้เปิดโปร่ง และชัดเจนดี ความแม่นยำของเสียงอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้การได้ ขณะที่การแยกแยะรายละเอียด และความเป็นธรรมชาติของเสียง ก็ให้ออกมาได้อย่างน่าฟัง

ภาพรวมของเสียงที่ได้สัมผัสนั้น พอจะบอกได้ว่าให้ออกมาอย่างสุภาพ ออกจะตรงไปตรงมาอยู่ในที แม้จะรับรู้ได้ว่ามีการ Bias หรือเจือสีสันลงไปน้ำเสียงอยู่บ้าง แต่นั้นก็บอกได้อีกเช่นกันว่าน้อยมาก มากจนหากจะใช้คำว่า Flat กับภาพรวมของเสียงที่ว่านี้ก็พอจะได้อยู่เช่นกัน

กล่าวคือ เป็นลักษณะเสียงที่ไม่ได้ ‘สะดุด’ หู หรือสะดุดใจแต่แรกที่ได้ยิน ซึ่งเป็นความแตกต่างอย่างมากกับลำโพงหลายๆ คู่ ที่ให้สุ้มเสียงออกมาด้วยความรู้สึกว่าน่าสนใจ น่าฟัง ตั้งแต่ได้ยินโน้ตชุดแรกๆ และอาจจะนำมาซึ่งการตัดสินใจกับลำโพงคู่นั้นๆ ในทันที โดยคาดไม่ถึงว่าลำโพงที่ให้เสียง ‘เตะ’ หูตั้งแต่แรกนั้น ส่วนใหญ่มักจะอยู่กันได้ไม่ค่อยจะยืด เพราะความที่ตัวตนอันแท้จริงของมันแล้ว มันเป็นน้ำเสียงแบบฉาบฉวยนั่นเอง

ซึ่งนั่นมันต่างกับลำโพงประเภทที่แรกฟังแล้ว ไม่รู้สึกว่ามีอะไรโดดเด่นเลย น้ำเสียงราบเรียบ ธรรมดาๆ แต่เสียงแบบนี้แหละที่ส่วนใหญ่เมื่ออยู่กันไปนานๆ จะพบว่าเป็นน้ำเสียงที่น่าฟัง ผ่อนคลาย

ให้ความเป็นธรรมชาติของเสียงออกมาอย่างที่ควรเป็น

 

LOG Dialog I ให้การตอบสนองต่อสัญญาณฉับพลันได้ดี ขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมความสมดุลเสียงเอาไว้ได้อย่างน่าชม ถึงพร้อมในรายละเอียดโดยเฉพาะกับเสียงในย่านความถี่สูงๆ ที่ให้ออกมาได้อย่างกระจ่าง ทอดขยายไปได้ไกล ขณะเดียวกันก็ยังคงคุณลักษณะเสียงเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เกรนเสียงไม่แตกให้รู้สึกหยาบกร้านแต่อย่างใด ถึงแม้หางเสียงจะทอดไปได้ไกล ก็ยังให้สัมผัสถึงความนวลเนียนที่รื่นหูได้เป็นอย่างดี

เบสดูจะเป็นความโดดเด่นอีกประการของลำโพงคู่นี้ เนื่องเพราะมิเพียงลงได้ต่ำ ลึก (พอตัว) อย่างชนิดที่ไม่บ่อยครั้งนักที่จะพบได้จากการฟังลำโพงคู่เดียว โดยเฉพาะกับลำโพงวางหิ้ง แบบ 2 ทาง แต่ Dialog I คู่นี้ก็สามารถให้ออกมาได้อย่างน่าพอใจ ขณะเดียวกันก็เป็นเบสที่ถูกควบคุมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แน่น กระชับ และนิ่ง แรงปะทะดี มีความสะอาดสะอ้านอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ

แม้จะไม่ได้ฟังในห้องและบรรยากาศห้องที่มีความคุ้นเคย รวมทั้งมิได้ฟังจากแทร็กที่คุ้นชินในความหมายของการฟังเพื่อทำงาน แต่ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นข้อสังเกตที่ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ ซึ่งเชื่อว่าพอจะบอกถึงตัวตนของลำโพงคู่นี้ได้ในระดับที่ใกล้เคียงพอควร

ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะบอกกล่าวชวนมายังคุณๆ ให้ลองไปฟังดู ไปสัมผัสกับอีกประสบการณ์ของเสียงดนตรีจากลำโพงที่คู่ควรต่อการฟังไม่น้อยเลย