พลิกนาที-บุกจับ น.ศ. ตร.ลุยถึงหอกลางดึก อีกเหตุขังการ์ด 48 ช.ม. จี้คลี่คดีอุ้มอดีตทหาร / อาชญา ข่าวสด (ฉบับประจำวันที่ 22-28 มกราคม 2564 ฉบับที่ 2110)

อาชญา ข่าวสด

พลิกนาที-บุกจับ น.ศ.
ตร.ลุยถึงหอกลางดึก
อีกเหตุขังการ์ด 48 ช.ม.
จี้คลี่คดีอุ้มอดีตทหาร

แม้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะรุนแรงมากขึ้นจนทำให้การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจะลดระดับลง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความร้อนแรงลดระดับลงเลย
เมื่อการเดินหน้าจับกุมดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม นักเรียน นิสิต นักศึกษาในทุกมาตรา รวมทั้งมาตรา 112 ในความผิดเกี่ยวกับหมวดพระมหากษัตริย์ ตามคำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังคงมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตามมาด้วยคำสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการกระทบกระทั่ง
ถึงขั้นลั่น “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร”
ส่งผลให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่ปัจจุบันต่างชาติก็จับตาดูอยู่แล้ว
จนกระทั่งเหตุการณ์บุกจับกุม น.ศ.ธรรมศาสตร์จากหอพักกลางดึก พร้อมค้นห้องพักยามวิกาล โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม กับกรณีจับกุมการ์ดวีโว่ไปขังที่ สภ.บางแก้ว นานกว่า 50 ชั่วโมง ยึดโทรศัพท์ โดยไม่ให้พบทนายความ
ยังไม่นับกรณี “เยล มงคล” ทหารหนีราชการมาเป็นการ์ดม็อบ ที่อ้างว่าถูกถุงคลุมหน้าพาขึ้นรถตู้ก่อนจะปรากฏภาพวงจรปิดว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์โอละพ่อ
ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องชำระสะสางให้กระจ่าง!??

บุกจับ น.ศ.กลางดึก-ฟัน 112

เหตุการณ์บุกจับกุมนักศึกษากลางดึก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม เมื่อมีการรายงานในเพจของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า เมื่อเวลา 23.00 น. นายสิริชัย นาถึง หรือนิว นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง บุกจับกุมที่หอพัก แจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 112 พร้อมบุกตรวจค้นห้องพักในยามวิกาลทั้งที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
ก่อนบอกกับเพื่อนๆ ของนิวว่าจะนำตัวไปควบคุมที่ ตชด.ภาค 1
แต่ต่อมาเมื่อกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พยายามติดตามไปสังเกตการณ์ที่หน้า ตชด.ภาค 1 กลับไม่พบ สุดท้ายพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 14 มกราคม ตำรวจคุมตัวนิว สิริชัย ไปยื่นคำร้องขอฝากขังศาลจังหวัดธัญบุรี ท่ามกลางมวลชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมจี้ให้ตำรวจตอบคำถามให้ได้ว่าเหตุใดถึงมีการบุกจับกันในยามวิกาล เพราะปกติหากมีหมายเรียก ก็ต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาเข้ารายงานตัว ยิ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดือดร้อนจากโควิด แทนที่จะช่วยเหลือประชาชน กลับใช้วิธีการที่สุ่มเสี่ยงจะละเมิดกฎหมายเสียเอง
ต่อมาศาลธัญบุรีอนุญาตให้ประกันตัวในคดี ม.112 โดยตีเป็นวงเงิน 150,000 บาท แบ่งเป็นวางประกันเป็นเงินสด 3 หมื่นบาท ที่เหลือใช้ตำแหน่งอาจารย์ของ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นผู้ค้ำประกัน
โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยมีอาจารย์ในสถาบันที่ผู้ต้องหาศึกษาอยู่เป็นผู้ประกัน หากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวนน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน อนึ่ง ห้ามผู้ต้องหากระทำการใดในทำนองเดียวกันซ้ำอีก
ทั้งนี้ พบว่าพฤติกรรมที่ถูกแจ้งข้อหา ม.112 เกิดจากกรณีการพ่นสีในที่สาธารณะ โดยระหว่างถูกคุมตัว นิว สิริชัย ส่งจดหมายระบุว่า “มันทำร้ายเราได้แค่นี้ และเวลาอยู่ข้างเราเสมอ ขอให้สู้ต่อไปเพื่ออุดมการณ์ ผมแลกได้แม้ต้องแลกด้วยชีวิต กว่าความเท่าเทียมกันจะเกิดขึ้น”
อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลธัญบุรีปล่อยตัว ตร.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้มาอายัดตัวไปสอบสวน ก่อนปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องยื่นประกันตัวอีก
ขณะที่ พล.ต.ต.ชยุต มารยาตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ระบุถึงการเข้าจับกุมกลางดึกนั้น ยืนยันตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาเวลาใดก็ได้ เนื่องจากมีหมายจับ และแจ้งสิทธิและข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบ ผู้ต้องหาได้ติดต่อทนายความ ส่วนที่บอกจะไป บก.ตชด. แต่นำตัวไป สภ.คลองหลวง เป็นเรื่องเทคนิคของตำรวจ ไม่ใช่การหลอกล่อ
ยืนยันทำถูกต้องทุกอย่าง

 

ขัง 48 ชั่วโมง-การ์ดพ่นสี

เหตุการณ์ยังคงไม่คลี่คลาย โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคม นายชยพล ดโนทัย หรือเดฟ น.ศ.รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ปี 2 พร้อมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง หลังพบว่าในหมายค้นที่ค้นห้องของนิว สิริชัยนั้นมีคำบรรยายว่าร่วมกระทำผิดกับตน ทั้งที่วันเกิดเหตุอยู่บ้านที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ชี้แจงว่ายังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา หรือตั้งข้อกล่าวหานายชยพล และยังไม่ได้มีหมายจับหรือหมายเรียกใดๆ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสำนวนได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็น ตร.สภ.คลองหลวง ได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ยกเลิกหมายจับ โดยก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับได้ชักธงสีแดง มีข้อความยกเลิก ม.112 ขึ้นสู่ยอดเสาหน้า สภ.คลองหลวง
เป็นเหตุให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องรุดไปที่ สภ.คลองหลวง ในวันที่ 16 มกราคม พร้อมสั่งการห้ามให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นอีก
“ยุทธวิธีของผู้ที่กระทำผิด ต้องการสร้างพื้นที่ข่าว ภาพที่ตำรวจจะชักธงลง กลายเป็นภาพตำรวจยืนดู เจ้าหน้าที่มีกำลังพร้อม แต่เราอยู่บนพื้นฐานที่จะไม่ใช้กำลังโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับตั้งแต่ผมลงมาก็จะต้องมาพบปะทำความเข้าใจกับลูกน้องว่าเรื่องแบบนี้จะให้เกิดอีกไม่ได้ ถ้าจำเป็นที่จะต้องใช้กำลังก็ต้องใช้ อะไรจะเกิดต้องเกิด และพวกเราก็ยอมรับผิดและรับผิดชอบ เราไม่ทอดทิ้งกัน”
“มันกระทบกระเทือนความรู้สึกคนทั้งประเทศ สงครามมันยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร”
ขณะที่ช่วงเย็นวันที่ 17 มกราคม นายปิยรัฐ จงเทพ แกนนำกลุ่มการ์ดวีโว่ เปิดเผยว่า นายทศเทพ ดวงเนตร หรืออาร์ท อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นการ์ดวีโว่ ถูก ตร.สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ จับกุมหลังทำกิจกรรมที่ สภ.คลองหลวง นำตัวคุมขังนานกว่า 48 ชั่วโมง พร้อมยึดโทรศัพท์ และไม่ได้ให้ติดต่อทนาย
โดย ตร.ชี้แจงว่า นายทศเทพมีหมายจับของศาลสมุทรปราการ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ด้วยพฤติการณ์พ่นสีในที่สาธารณะ เตรียมส่งฟ้องศาลดำเนินคดี
ขณะที่นายปิยรัฐระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง และต้องให้สิทธิพบทนายความ แต่กรณีดังกล่าวไม่มีใครทราบว่าอาร์ทถูกจับมาที่ สภ.บางแก้ว พร้อมระดมมวลชนมาที่หน้า สภ.เพื่อสอบถามการทำหน้าที่ของตำรวจ
จนกระทั่งช่วงดึกวันเดียวกัน ตร.สภ.บางแก้ว ได้ปล่อยตัวอาร์ทโดยไม่ต้องประกัน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดแทน
สร้างความสับสนกับผู้ต้องหาว่าผิดคดีอะไร ถึงต้องคุมตัวกันนานกว่า 2 วัน!??

เร่งคลี่คดีอุ้มอดีตทหาร

อีกกรณีที่เป็นเรื่องฮือฮา นั่นก็คือกรณีที่เยล-มงคล สันติเมธากุล สมาชิกกลุ่มการ์ดราษฎร ที่ระบุว่าถูกอุ้มหายไปจากบ้านช่วงประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 16 มกราคม หลังจากร่วมกิจกรรมเขียนป้ายผ้าที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อบ่ายวันเดียวกัน
โดยมีคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของเยล ระบุว่า เยลโพสต์ขอความช่วยเหลือกลางดึก เมื่อแชตไปคุยก็มีข้อความตอบกลับของคนอ้างว่าเป็น จนท.กอ.รมน.
ต่อมาช่วง 11.00 น. ของวันที่ 17 มกราคม ก็ระบุว่าเยลถูกปล่อยตัว พร้อมเข้าแจ้งความกับ ตร.สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ อ้างว่าถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งใช้ผ้าคลุมศีรษะอุ้มขึ้นรถตู้ มีบางคนพูดสำเนียงคนใต้ ก่อนจะปล่อยตัวออกมาใกล้ๆ กับเคหะบางปู
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ระบุว่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ พบวงจรปิดจับภาพนายมงคลอยู่เพียงลำพังตลอดคืน จึงยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์อุ้มนายมงคลอย่างแน่นอน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนเพื่อสร้างเรื่องดังกล่าวหรือไม่
ขณะที่นายมงคลเดิมที่นัดจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจในวันที่ 19 มกราคม ได้ขอเลื่อนให้การ เพราะสภาพจิตใจไม่ปกติ
แต่ระหว่างที่กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ก็มีคนเปิดเผยภาพที่เยลการ์ดม็อบราษฎรแต่งเครื่องแบบลายพรางทหารบก ระบุอยู่หน่วย นนส.ทบ.เหล่า ร. หรือเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก เหล่าราบ
รายงานข่าวจากกองทัพบกว่า นายมงคล สันติเมธากุล เป็นทหารกองประจำการผลัด 1/61 สังกัดศูนย์การทหารราบ และหนีราชการไปเมื่อเดือนธันวาคม 2562 และต้นสังกัดได้จำหน่ายว่าหนีราชการเมื่อมกราคม 2563 และได้ไปแจ้งสัสดีอำเภอในภูมิลำเนา
หลังจากนั้นสัสดีได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบตัวจะต้องส่งให้หน่วยต้นสังกัด เพื่อนำตัวส่งศาลทหาร โดยโทษหนีทหารเป็นคดีอาญามีอายุความ 10 ปี มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี แต่หากผู้กระทำความผิดได้ไปก่อเหตุซ้ำซ้อน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในคดีนั้นๆ ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด หลังจากนั้นค่อยส่งตัวมาดำเนินคดีที่ศาลทหาร
ถือเป็นอีกคดีที่จำเป็นต้องคลี่คลายที่มาที่ไปให้ชัดเจน ว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นใดกันแน่!??