ตามหา “สารามณี” ที่จดหมายเหตุฯ สีโสวัต

ตอนได้หนังสือเล่มนั้นมาครอบครอง (ชั่วคราว) ฉัน (ในจินตนาการ) ประหนึ่งพยายามจะเข้าถึงนาง (ตัว) ละครแห่งวังหลวงกัมพูชา ได้แต่ลูบไล้ไปทีละหน้าอย่างบรรจง

อา…นี่หรือนาง “สารามณี” นางเอกในนิยายของเรื่องคนเดียวเท่านั้น

แต่ยังมีตัวละครอื่นๆ ซึ่งพวกเธออาจมีตัวตนจริงๆ ตัวเป็นๆ ที่อยู่ในประวัติศาสตร์เขมร มิใช่แต่ในนิยายประโลมโลกย์ที่เขียนโดย โรล็องด์ เมแยร์ (Roland Meyer, 1889) สักหน่อย

อย่างไรก็ตาม ก็นวนิยายของโรล็องด์นั่นแหละ ที่กวนต่อมอยากรู้ของฉัน

จนพัฒนาไปสู่สายสัมพันธ์ในการอ่านหนังสือเล่มอื่นๆ

ซึ่งก็พบว่า ก่อนที่นวนิยายประโลมโลกย์เล่มนี้อุบัติขึ้นในปี พ.ศ.2462/1919 นั้น ยังมีบันทึกอีกชิ้นหนึ่งที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กมเลาะ/หนุ่มผู้นี้ลงมือประพันธ์อื้อฉาว : นาฏการนางละครแห่งวังหลวงที่ชื่อ “สารามณี”

ซึ่งบันทึกฉบับนั้นก็คือ “หนังสือจดหมายเหตุฉบับออกญาเวียง (จวนน์)” หรือ “ออกญาเวียง วรเวียงจัย อภิภพพิเพกสริงอุดมกรมพโห (จวนน์)” ผู้ทำการจดบันทึก “การเสด็จประพาสในพระบาทสีโสวัต ณ ประเทศฝรั่งเศส : แห่งปีมะเมีย และ 8 ทศวรรษความสัมพันธ์ตะวันตกกับราชอาณาจักรกัมโพช/Voyage du Roi Sisowath en France : en l”annee du Cheval, Huiti?me de la d?cade, correspondant a l”ann?e Occidentale 1906 Royaume du Cambodge(*)”

สอดคล้องกับความจริงที่ว่า เนื้อหาบางตอนของสารามณีนั้น มีฉากการเสด็จประพาสฝรั่งเศสวันที่ 10 มิถุนายน-20 กรกฎาคม พ.ศ.2449/1906 ในพระบาทสีโสวัต และมีคณะติดตามเกือบ 50 ชีวิต (หรือมากกว่านั้นหากการบันทึกครบถ้วน) ซึ่งประกอบด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ หม่อมมะเนียง มหาดเล็ก ข้าราชบริพารในพระองค์และในรัฐบาลอาณานิคม นักดนตรี หญิงรับใช้

และที่สำคัญคือ กลุ่มนางรำคณะละครส่วนพระองค์ (Ballet Khmer de Royale)

หนึ่งในนั้น นอกเหนือจากตัวละครอื่นๆ ซึ่งติดตามขบวนเสด็จประพาสแล้ว เป็นไปได้ว่า น่าจะมีเนียะ/นางในคนหนึ่งซึ่งต่อมากลายเป็นตัวเอกในนิยายประโลมโลกย์ (แห่งอนาคต) ที่ชื่อ “สารามณี”

แลจดหมายเหตุฉบับนี้เช่นกัน ที่ทำให้พบว่า ประดานางละครวังหลวงกลุ่มนี้ ช่างบังเอิญมีชื่อพ้องกับตัวละครบางคนในสารามณีอีกด้วย

ซึ่งตามที่โรล็องด์แต่งไว้ สารามณีติดตามขบวนเสด็จไปยุโรป เพื่อร่วมพิธีเฉลิมฉลองความรุ่งโรจน์แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 ของอาณาจักรสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งมีกลุ่มอาณานิคม โดยเฉพาะกัมพูชานั้น นอกจากภาพจำลองปราสาทนครวัดแล้ว ยังมีขบวนแห่ และการแสดงระบำละครโบราณทั้งมาร์เซยย์และเมืองหลวง

ตลอดจนการแสดงนาฏการละครรำต่อหน้าพระพักตร์และประธานาธิบดีเป็นเวลา 50 นาที ในวันที่ 1 กรกฎาคม ณ ทำเนียบอิลิเซ่

แต่ใครกันคือนางละครสารามณีที่อยู่ในหมู่นางละครทั้งหลายในปารีสครั้งนั้น?

ระหว่างเนียะหนูนำ หนึ่งในผู้แสดงเป็นเจ้าหญิงโสมมาลีในละครวิรุฬจักร และเป็น 1 ในตัวละครที่มีอิทธิพลต่อวังหลวงในฐานะนางสนมและนางรำคนสำคัญแห่งวังหลวง และเนียะแยม หญิงนางรำอีกคนหนึ่งซึ่งนามของเธอเหมือนชื่อวัยเด็กของสารามณี?

หรือเนียะแยมนั่น จะคือนางรำสารามณี?

โดยที่แปลกไปกว่านั้น คือทั้งเนียะแยมและเนียะเยือน-นางละครอีกคนหนึ่ง ซึ่งต่างมีรายชื่อขึ้นแสดง ณ อิลิเซ่ แต่กลับไม่ปรากฏรายละเอียดอื่นๆ

แต่กลับไม่พบชื่อนามคนทั้ง 2 ในลำดับต่อมา (น.210, Voyage en France du Roi Sisowath)

ตอนสารามณีไปฝรั่งเศสนั้น ยังเป็นต้นรัชกาลสีโสวัตซึ่งเพิ่งครองราชย์ได้ 2 ปี แต่เมื่อนับว่า เธอเพิ่งเข้าวังเป็นนางรำวังหลวงตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กหญิงวัยกะเม็งในปลายรัชกาลนโรดม (ราวพุทธศักราช 2445)

แล 2 ปีต่อมาพระบาทนโรดมก็เสด็จสวรรคต

ในภาคนิยาย สารามณีนางละครผู้ตามเสด็จไปฝรั่งเศส ถ้าอิงมาจากเรื่องจริง เธอก็น่าจะเป็นนางรำที่มีอายุน้อยมาก ขณะที่ตัวละครอย่างเนียะหนูนำ (วัย 26) 1 นางละครในนวนิยาย และยังเป็นชื่อเดียวกันกับผู้ติดตามในพระองค์คนสำคัญ รองจากหม่อมมะเฟือง (41) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ตัวละครในนวนิยายสารามณีนี้ มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง

ไม่ว่าจะเป็นพระองค์เจ้าดวง มธุราและเจ้าฟ้าหญิงโสมภได (41)

ในภาคนิยายนั้น เนียะหนูนำดูจะเป็นสตรีที่ร้ายกาจและมีอำนาจในหมู่นางใน ในช่วงที่สารามณีกำลังจะเป็นดาวเด่น แต่ด้วยนิสัยไม่ยอมลงรอยให้ใคร ทำให้สารามณีไม่เคยยกย่องให้คุณหรือเนียะสนมแต่อย่างไร

แม้จะอยู่ในคณะของคุณพระเญียด (หรือคุณพระญาติ) ที่มักจะรังคัดรังแกเธอในบางครั้ง และแม้ว่าในหลวงซึ่งเจริญพระชนม์จะจำบ้างหรือลืมบ้าง แต่สารามณีซึ่งถูกถวายตัวตั้งแต่วัยกเม็ง เธอมักจะได้รับความเอ็นดูจากพระกรุณาบ่อยครั้ง

ทั้งในพิธีโกนจุก ไปจนถึงทรงแกล้งให้ขำกันเล่น เมื่อตรัสให้เด็กหญิงทูนถาดพระโอสถมวน (ยาสูบ) ไปกลับระหว่างห้องเตรียมยาฟิ่นกับโถงพระที่นั่ง ซึ่งอยู่ไกลออกไปมาก

ทรงเอ็นดูในความไม่รู้สาของสารามณี ที่ทำให้ทรงพระสรวล และนางในทั้งหมดของโถงพระโรงก็พากันหัวร่อต่อกระซิกเป็นที่เบิกบานพระทัย

เป็นเหตุให้เชื่อว่า หากสารามณีไปยุโรปจริง เธอก็น่าจะเป็นนางละครอายุน้อยคนหนึ่งในคณะ

แต่เด็กสาวนางระบำคนไหนล่ะ ที่เป็นแบบให้-โรแด็งศิลปินอาวุโสสเก็ตภาพ

ทว่า เมื่อย้อนรอยจดหมายเหตุออกญาจวนน์ ก็พลันพบว่า ณ ปีที่ออกญาจวนน์ตามเสด็จประพาสนั้น เขาเพิ่งมีอายุได้ 36 ปี และได้ชื่อว่าเป็นออกญาหนุ่มที่เชี่ยวชาญทั้งภาษาเขมรและฝรั่งเศส ก็น่าที่เขาจะเขียนบันทึกจดหมายเหตุฉบับนั้น แล้วเสร็จในปีเดียวกัน (2499)

แต่ โรล็องด์ เมแยร์ ต่างหากเล่า ซึ่งในปีนั้นเพิ่งจะอายุได้ 17 ปี อาศัยในปารีส และชวนให้เชื่อว่า เขาน่าจะเป็นหนึ่งในประชาชนทั่วไปที่ชมพิธีเฉลิมฉลองแสนยานุภาพแห่งศตวรรษที่ 19 ของฝรั่งเศสด้วยความสนใจ โดยเฉพาะการค้นพบอาณาจักรนครวัดที่สูญหาย ขบวนแห่งเจ้ากรุงกัมพูชาและนางระบำอัปสร จิตวิญญาณของโรล็องด์คงจะตกอยู่ในภวังค์ จนเกิดแรงปรารถนาที่จะเดินทางไปตั้งรกรากในกัมพูชา

โรล็องด์สมัครเป็นเจ้าหน้าที่อาณานิคมแห่งโพ้นทะเล และแตกฉานภาษาเขมรอย่างลึกซึ้ง อย่างมิต้องสงสัย

ในเวลาอันสั้น เขาสามารถอ่านจดหมายเหตุซึ่งเขียนด้วยลายมือ

ยิ่งเมื่อมีตำแหน่งเป็นนายทะเบียนพิพิธภัณฑ์กัมพูชาที่วัดพนมด้วยแล้ว เป็นไปได้ว่า เขาน่าจะทำงานไม่ต่างจากนายหอจดหมายเหตุคนหนึ่ง

แต่เมื่อเริ่มเขียนสารามณีนั้น ตัวละครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนียะหนูนำซึ่งน่าจะมีอายุมากขึ้นกว่า 10 ปี อีกนางรำตัวอื่นๆ ก็มีอายุมากกว่าโรล็องด์ทั้งสิ้น

ทว่า เมื่อวิเคราะห์เรื่องราวปลายรัชสมัยนโรดมซึ่งโรล็องด์จับมาผูกเรื่อง ก็พบว่า เขาน่าจะรู้จักนางละครกลุ่มนี้ ซึ่งเคยมีชีวิตรุ่งเรืองเฟื่องฟูครั้งในสมัยพระองค์มาแล้วทั้งสิ้น

โดยกล่าวว่า พระมหาอุปราช (สีโสวัต) ซึ่งเคยประทับอยู่วังหลังในอดีตนั้น ไม่มีคณะละครที่มีหน้ามีตาเป็นส่วนพระองค์ ส่วนพระองค์เจ้าหญิงสมภได (41) พระธิดาซึ่งถูกระบุว่า มีฐานะเป็นหัวหน้าคณะละครตามจดหมายเหตุฯ นั้น ความในสารามณีตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวละครนี้ว่า

“ทรงตรัสฝรั่งเศสคล่อง จนเกือบจะมีอำนาจแทนพระบิดาเลยกระมัง” (สารามณี : ตอนพระราชวังจตุรมุข)

มากกว่าจะปะติดปะต่อมาจากจดหมายเหตุออกญาจวนน์ กมเลาะ หนุ่มโรล็องด์ เมแยร์ น่าจะอาศัยโครงเรื่องที่มาจากชีวิตจริงของนางละครแห่งวังหลวงบางคนมาแต่งเป็นนิยาย โดยนางละครเอกตัวนั้น นอกจากจะมีชีวิตใน 2 รัชกาลแล้ว เธอจะต้องมีประสบการณ์ ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเมืองยุโรป

แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังมีตอนหนึ่งซึ่งในนวนิยายมิได้กล่าวไว้ อีกจดหมายเหตุเสด็จประพาสฝรั่งเศสของออกญาจวนน์ ก็จงใจไม่พูดถึง โดยเฉพาะระหว่างเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศ ได้มีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งทำให้พระเจ้าอยู่หัวขุ่นเคืองพระทัย

นั่นก็คือ การที่คณะตามเสด็จในพระองค์ซึ่งเป็นสตรี และกว่านั้น คืออาจเป็นนางละครในพระองค์ถูกประกาศต่อหน้าพระพักตร์ ถึงสถานะใหม่

โดยกล่าวว่า นางคือคนในคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสคนหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่เรือเดินสมุทรอยู่ในน่านน้ำสากล

เรื่องแบบนี้ ยิ่งกว่าหลู่พระเกียรติและพระราชอำนาจในพระองค์ ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นในสมัยพระบรมโกศนโรดม จนกลายเป็นข้อพิพาทส่วนพระองค์ (และกรณีอื่นๆ) ซึ่งพระองค์เจ้าฟ้ายุคนธอร์ โอรสองค์รัชทายาทผู้ปรารถนาจะปกป้องพระราชอำนาจในพระมหากษัตริย์ แต่กลับถูกแปลความหมายให้เป็นอื่น จนเกิดเหตุการณ์เพลี่ยงพล้ำ ต้องจำพรากจากแผ่นดิน

แลทิ้งปริศนาว่า ใครกันคือนางละครที่หายไปในบันทึกจดหมายเหตุออกญาจวนน์

(*) ฉบับเดียวกับ : Voyage en France du Roi Sisowath ที่ โอลิเวเยร์ เดอ เบอร์น็อง นำมาแปลฝรั่งเศส ปี ค.ศ.2006

อภิญญา ตะวันออก [email protected]