WONDER WOMAN 1984
‘WW84’

กำกับการแสดง
Patty Jenkins

นำแสดง                                                                                                              Gal Gadot
Chris Pine
Kristen Wiig
Pedro Pascal
Robin Wright
Connie Nielsen

Wonder Woman 1984 เป็นภาคสองที่ตามต่อจาก Wonder Woman ที่สร้างเมื่อ ค.ศ.2017 ซึ่งวางเหตุการณ์ตั้งแต่ครั้งซูเปอร์ฮีโร่หญิงสาวสวยคนนี้ยังเยาว์วัยและได้รับการอบรมให้กล้าแกร่งไร้เทียมทานเยี่ยงนักรบอเมซอนของกรีกโบราณ

ไดอานาเป็นลูกของเทพซุสกับราชินีฮิปโปลิตาของชาวอเมซอนแห่งดินแดนเธมิสซีรา เธอจึงดำรงอมตภาพของเทพบิดา และมีชีวิตที่ไม่เปิดเผยต่อชาวโลกสืบมาจวบจนถึง ค.ศ.1917 ขณะที่โลกกำลังระอุร้อนด้วยการแย่งชิงอำนาจอันนำไปสู่สงครามที่สร้างความแตกแยกไปทั่วพื้นพิภพแบบที่เราเรียกว่า “สงครามโลก”

ผู้หญิงลึกลับในชุดซูเปอร์ฮีโร่ที่แสดงความเป็นผู้หญิงเต็มตัว ซึ่งถูกขนานนามว่า “วันเดอร์วูแมน” (กัล กาด็อต) จึงต้องปรากฏออกมากู้โลกไว้จากความหายนะมหากาฬของสงครามโลกครั้งแรก

เมื่อภารกิจการกอบกู้มนุษยชาติระดับมหัพภาคสิ้นสุดไป พร้อมด้วยการสูญเสียชายคนรัก สตีฟ เทรเวอร์ (คริส ไพน์) เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่นักบินในการโรมรันครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นเธอก็หายตัวเข้ากลีบเมฆ ปะปนอยู่ในฝูงชนในรูปของสาวสวยสามัญนามว่า ไดอานา พรินซ์

ดังความหมายของชื่อเรื่อง ภาคสองเป็นเรื่องราวของสาวน้อยมหัศจรรย์ใน ค.ศ.1984 ผู้กอบกู้วิกฤตการณ์บนโลกไว้อีกครั้งในระหว่าง “สงครามเย็น” ระหว่างมหาอำนาจต่างขั้วที่กุมชะตากรรมของโลกอยู่บนนิ้วมือที่สามารถกดปุ่มระเบิดนิวเคลียร์ซึ่งเป็นชนวนไปสู่ความหายนะแบบที่จะสามารถกวาดล้างโลกไปได้ในพริบตา

ถึงตอนนี้ขอขยายความต่อไปถึงความคิดเบื้องหลังชื่อหนังเสียหน่อยก็คงไม่ผิดกติกาอะไรนะคะ

Wonder Woman 1984 มีชื่อเรียกย่อๆ อย่างเป็นทางการว่า WW84

ประวัติศาสตร์บันทึกสงครามที่แผ่เป็นวงกว้างทั่วโลกไว้สองครั้งในศตวรรษที่ 20 สงครามโลกครั้งแรกเกิดใน ค.ศ.1917 และครั้งที่สอง ค.ศ.1939

เวลาเรียนวิชาประวัติศาสตร์ การจดโน้ตต้องทำแบบรวดเร็วที่สุด ย่นย่อที่สุดและเข้าใจได้ทันที the first world war จึงย่อเป็น WW1 และ the second world war เป็น WW2

ดังนั้น ชื่อย่ออย่างเป็นทางการของหนังเรื่องนี้ว่า WW84 จึงเตือนให้นึกถึงอย่างใดอย่างหนึ่ง คือถ้าไม่สงครามโลกครั้งที่ 84 ก็เป็นสงครามโลกในปี 1984

และเมื่อเหตุการณ์ปัจจุบันตามท้องเรื่องเกิดในปี 1984 ความหมายก็น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

อาวุธประจำตัวอันทรงพลังของวันเดอร์วูแมนคือ “บ่วงบาศแห่งสัจจะ” (Lasso of Truth) ซึ่งเธอได้รับการสั่งสอนในเรื่องการยึดมั่นในสัจจะมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย

เมื่อเริ่มเรื่อง หนังพาเราย้อนกลับไปในอดีตกาลอันไกลโพ้น…อีกครั้ง เพื่อเตือนให้รับรู้ถึงความเป็นมาของซูเปอร์ฮีโร่คนนี้

ไดอานาเป็นเด็กหญิงคนเดียวในการแข่งขันชิงชัยสุดวิบากของสาวอเมซอน ท่ามกลางสายตาของผู้ชมบนเกาะเธมิสซีรา ราชินีฮิปโปลิตา (คอนนี่ นีลเซน) และพระขนิษฐาอันทิโอปี (โรบิน ไรต์) ซึ่งเป็นน้าผู้เคี่ยวเข็ญฝึกปรือไดอานาให้กล้าแกร่ง

หนูน้อยไดอานาเก่งกล้า นำหน้าผู้เข้าแข่งขันอื่นๆ มาตลอด จนเกือบถึงโค้งสุดท้ายเมื่อเธอพลาดเพราะเผลอมองคู่แข่งคนอื่นๆ และร่วงหล่นจากหลังม้า แต่เธอก็หาทางลัดตัดหน้าคนอื่นๆ มาจนเกือบถึงเส้นชัยได้

อันทิโอปีคว้าตัวไดอานาไว้ในนาทีสุดท้าย ขวางกั้นเธอไว้จากแท่นชัยชนะ ด้วยคำพูดประโยคที่ว่า “วีรบุรุษที่แท้จริงไม่ได้เกิดมาจากคำโกหกหลอกลวง” (No true hero is born from lies)

และนั่นคือคติพจน์สำหรับ “บ่วงบาศแห่งสัจจะ” ที่ไดอานาจะยึดถือต่อมาในความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเธอ ด้วยความเชื่อว่า “การโกหกไม่มีวันจะไม่ส่งผลต่อมา” (Lying is never without consequences) ซึ่งจะเป็นแนวคิดสำคัญของหนังทั้งเรื่อง

เนื้อเรื่องเกิดจากการไขว่คว้าหาอำนาจจากการค้นพบ “หินเนรมิต” (Dreamstone) ที่ถูกสร้างโดยเทพเจ้าแห่งการโกหกหลอกลวงและการทรยศ โดยที่หินจะเนรมิตให้ความปรารถนาทุกอย่างของผู้ขอพรกลายเป็นจริงขึ้นมา…แต่ทั้งนี้ใช่ว่าจะไม่ส่งผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ ตามมา

เมื่อไดอานาปรารถนาจะให้ชายคนรักกลับมาหาเธอโดยที่เธอยังไม่รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินด้วยซ้ำ สตีฟ เทรเวอร์ (คริส ไพน์) ก็กลับมาหาเธอในร่างของชายอีกคน

เมื่อบาร์บารา (คริสเตน วีก) ผู้เชี่ยวชาญอัญมณี ปรารถนาจะเก่งและแกร่งเหมือนไดอานา เธอก็ได้ตามประสงค์

แต่อภิมหาวายร้ายผู้บ้าคลั่งอย่างหฤโหดในหนัง คือจอมโกหกผู้ล้มเหลวในโลกของธุรกิจ นามกร แมกซ์ ลอร์ด (เปโดร ปาสกัลป์) ผู้ปรารถนาความยิ่งใหญ่เหนือทุกคนบนโลกด้วยอำนาจวิเศษของหินเนรมิตก้อนนั้น

การสมปรารถนาตามการขอพรจากหินวิเศษก้อนนั้นมาพร้อมกับสิ่งแลกเปลี่ยน

ไดอานาได้สตีฟกลับมา แต่ก็ต้องแลกกับพลังในตัวที่ลดน้อยลง

บาร์บาราได้ชีวิตใหม่ที่ปรารถนา แต่ก็ต้องแลกกับจิตใจเยี่ยงมนุษย์ที่เธอเคยมี

ปรารถนาที่กลายเป็นจริงต้องแลกมากับสิ่งอื่นที่ไม่พึงประสงค์

และสิ่งที่มนุษย์ต้องการแท้จริงอาจอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้เอง แต่เป็นสิ่งที่เรามองเลยข้ามไปสู่ความเกรียงไกรอันหลอกลวง

นี่เป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ตอนสิ้นปี และแม้จะแบ่งแยกสีขาวกับสีดำอย่างชัดเจนและส่งสารที่ไม่ซับซ้อนเกินความเข้าใจทั่วไป แต่ก็เป็นความบันเทิงที่ไม่ได้ว่างเปล่าเบาหวิวจนเกินไปนัก

อ้อ หนังนำเสนอนักแสดงสาวที่เคยเล่นเป็นวันเดอร์วูแมนของหนังชุดทางทีวีที่โด่งดังมาแล้ว คือ ลินดา  คาร์เตอร์ ในฉากสั้นๆ ของ “แอสตีเรีย” ในชุดเกราะออกศึกของนักรบอเมซอนสาวเต็มยศ และแถมท้ายในระหว่างเครดิตตอนจบของหนังด้วยฉากสั้นๆ ของเธอที่ใช้ชีวิตเร้นตัวปะปนอยู่ในโลกมาเช่นเดียวกับไดอานา

อย่าเพิ่งลุกไปไหนเสียก่อนในช่วงเครดิตตอนจบนะคะ