ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 มกราคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศอินโดจีน |
เผยแพร่ |
พรมแดนด้านใต้ของประเทศจีนมีเขตแดนที่ประชิดติดกับดินแดนของประเทศเมียนมาอยู่ยาวมาก ไล่ตั้งแต่บริเวณทิวเขาสูงในรัฐคะฉิ่น ผ่านเขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อยโกกั้ง เรื่อยมาจนถึงแนวลำน้ำและหุบเขาติดต่อกับรัฐฉานและว้า
รวมระยะทางพรมแดนทางบกที่ติดต่อกับเมียนมาอยู่ถึง 2,227 กิโลเมตร
ตามแนวชายแดนที่ว่านี้นี่เอง ที่ทางการจีนก่อสร้างรั้วกั้นพรมแดนขึ้นมา เริ่มต้นการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
รั้วที่ว่านี้ใช้เหล็กเป็นเสารั้ว ความสูง 3 เมตร มีแนวขึงลวดหนามโดยตลอดระยะทาง
วิทยุเอเชียเสรีรายงานไว้ว่า ถึงกลางเดือนธันวาคม แนวรั้วกั้นดังกล่าวแล้วเสร็จสมบูรณ์คิดเป็นระยะทาง 650 กิโลเมตร
แต่ทั้งโครงการกำหนดจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนตุลาคม 2022
ปัญหาก็คือ ทางการจีนไม่เคยแถลงหรือชี้แจงเหตุผลอย่างหนึ่งอย่างใดเอาไว้ว่ารั้วลวดหนามกั้นแนวชายแดนนี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่
แถมยังไม่เคยแจ้ง หรือปรึกษาหารือกับรัฐบาลเมียนมา หรือแม้แต่องค์กรปกครองในท้องถิ่นก่อนหน้าที่จะเริ่มการก่อสร้างแต่อย่างใด
รั้วลวดหนามที่ผู้สื่อข่าวของวิทยุเอเชียเสรีเรียกขานแบบประชดประชันว่า “มหากำแพงเมืองจีนด้านใต้” นี้จึงกลายเป็นปริศนาให้ใครต่อใครคาดเดาวัตถุประสงค์ของมันกันมาจนถึงวันนี้
ในรายงานของวิทยุเสียงอเมริกา (วีโอเอ) ราล์ฟ เจนนิงส์ ผู้สื่อข่าววีโอเอตั้งคำถามเอาไว้ว่า เป็นเพราะกาสิโน โควิด-19 หรือยาเสพติดกันแน่?
เพราะนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเป็นความพยายามของจีนที่จะป้องกันไม่ให้ชาวเมียนมาที่อาจติดเชื้อโควิด-19 นำเชื้อเข้าไปแพร่ระบาดในจีน
พร้อมกันนั้นก็ป้องกันไม่ให้ชาวจีนลักลอบเข้ามาเล่นการพนันในกาสิโน โดยเฉพาะที่โกกั้ง ซึ่งมีทั้งกาสิโน สปา แล้วก็โรงแรมที่พักพร้อมสรรพ ทั้งยังสามารถป้องกันบรรดาอาชญากรทั้งหลาย รวมทั้ง “แก๊งทวงหนี้โหด” ไม่ให้อาละวาดข้ามชายแดนอีกด้วย
อีกบางคนเชื่อว่าเป็นความพยายามยับยั้งไม่ให้ยาเสพติดจากเมียนมาทะลักเข้าประเทศไป
ที่ผ่านมาทางการเมียนมาไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากมายนักกับรั้วกั้นแนวชายแดนครั้งนี้ เพียงยื่นประท้วงใน 8 จุดของการสร้างรั้วที่ “ละเมิดความตกลง” เรื่องชายแดนระหว่างกัน ที่ตกลงกันไว้ว่า ห้ามไม่ให้มีการปลูกสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดในระยะ 10 เมตรทั้งสองด้านของเส้นแบ่งเขตแดน
ล่าสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กองทหารที่ประจำอยู่ที่โกกั้งก็ยื่นหนังสือประท้วงบางจุดของรั้วตามแนวชายแดนบริเวณนั้นเช่นเดียวกัน
ผลก็คือ ทางการจีนสั่งระงับการก่อสร้างไว้ชั่วคราวแล้วกำหนดจะเจรจาเพื่อทำความตกลงกันต่อไป
แต่มีคำอธิบายแบบแปลกๆ จากเจ้าหน้าที่จีนเกิดขึ้นในครั้งนั้นด้วย
จ้าวเต๋อฉาง หัวหน้าเขตปกครองตนเองโกกั้ง บอกว่า เจ้าหน้าที่จีนอธิบายว่า รั้วชายแดนมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเมียนมาข้ามแดนเข้าไปแพร่เชื้อโควิด-19 แล้วก็จะรื้อออกเมื่อการแพร่ระบาดหมดไป
แต่พอคำนึงถึงว่า กว่ารั้วจะเสร็จสมบูรณ์ก็เดือนตุลาคมปีหน้า เสร็จแล้วจะรื้อทิ้ง? นักวิเคราะห์หลายคนก็เลิกเชื่อถือคำอธิบายนี้
เบอร์ทิล ลินต์เนอร์ นักวิเคราะห์เรื่องเมียนมามือเก๋า เชื่อว่าเป้าหมายหลักของรั้วนี้น่าจะเพื่อป้องกันไม่ให้ “แนวคิด” และ “กลุ่มคน” ที่ต่อต้านรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนอาศัยแนวชายแดนด้านใต้ล่วงลึกเข้าไปภายในมากกว่า
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่นำมาอ้างกันเหล่านั้น อย่างมากก็แค่เป็น “ผลพลอยได้” เท่านั้นเอง