สถานีคิดเลขที่12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/รู้ล้ม

สถานีคิดเลขที่12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————-

รู้ล้ม

————————-

“ตู่ไม่รู้ล้ม”

เพราะเคลิ้มไปกับฉายานี้หรือเปล่าไม่ทราบ

ทำให้ ขณะที่ตะโกนบอกชาวบ้านการ์ดอย่าตก ในกรณี การระบาดของไวรัส โควิด-19

แต่การ์ดของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเกิดตกเสียเอง ซะอย่างนั้น

เลยเกิดภาวะ พูดเอง ทำเอง แล้วก็ออกมาปฏิเสธเอง

ไม่ได้เกิดครั้งเดียว แต่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง

สะท้อนถึงภาวะความระส่ำระสาย และไร้กระบวนท่า ในการบริหารจัดการช่วงภาวะวิกฤต

ซึ่งน่าห่วง เพราะที่ว่า “โด่”… เอ้ย “ตู่ไม่รู้ล้ม”อาจจะไม่ใช่ก็ได้

ระวังจะเป็น “โดมิโน”

ที่เมื่อมีตัวหนึ่งล้มแล้ว ก็มีโอกาสที่ตัวอื่นจะล้มต่อเนื่องไปด้วย

โดยเฉพาะ ศรัทธาและ ความเชื่อมั่น

การจะสั่ง หรือตัดสินใจอะไร ต้องระมัด ระวังรอบคอบให้มาก

โดยเฉพาะในภาวะอันตื่นตระหนกเช่นนี้

การระบาดของไวรัส โควิด-19 รอบแรก อาจจะง่ายเพราะสั่งล็อคดาวน์กันทั่วประเทศ

จึงทำให้ดูเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

แต่ก็มีค่าใช้จ่ายราคาแพง เพราะพังพาบกันไปทุกเซ็กเตอร์

การระบาดรอบใหม่ ตอนแรกก็ทำท่าดี คือดูเหมือนจะมีการถอดบทเรียน ที่จะไม่ใช้ยาแรงกับทุกพื้นที่

มีความพยายามแยกแยะเป็นโซนๆ ไม่เหมารวม

ซึ่งหลายฝ่ายก็ดูเห็นด้วยกับแนวทางที่ว่านี้

และเชื่อว่า การมีบทเรียน คงจะทำให้ เรารับมือได้ดีขึ้น

แต่เอาเข้าจริง กลับไม่เป็นเช่นนั้น

เพราะการแก้ปัญหา มันไม่ได้รวมศูนย์ หากแต่แตกย่อยออกเป็นหลายเสี่ยง

จำเป็นต้องมี การบริหารจัดการที่ดี “ธงนำ”จะต้อง “มั่น”

ขณะที่การดูแลในแต่ละพื้นที่จะต้อง มีความแตกต่างและพลิกแพลง

จะใช้อำนาจทื่อๆเข้าไปสั่งการเหมือนกัน รังจะมีแต่ความล้มเหลว และสับสนอลหม่าน

ยิ่ง การระบาดรอบใหม่นี้ ไม่ใช่เรื่อง โรคระบาดอย่างเดียว

หากแต่มันทำให้โรคเรื้อรัง ที่หมักหมมซ่อนตัวอยู่ ปริแตกออกมาผสมโรงด้วย

ทั้งเรื่อง การหลบหนีเข้าประเทศ ทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าว ทั้งเรื่องบ่อน ที่เกี่ยวโยงไปถึงการใช้กลไกอำนาจรัฐอันฉ้อฉล

ทำให้วิกฤตศรัทธาต่อภาครัฐ และรัฐบาล ต่ำเตี้ยลงไปอีก

ขณะที่รัฐบาล ให้ความเชื่อมั่นไม่ได้

แถมยังกลับมาสั่งผิดๆ ถูกๆ ต้องแก้กันตลอด

สั่งด้วยการด้วยวิธีแปลกๆ คือขณะที่เรียกร้องให้ชาวบ้าน ให้ความร่วมมือกันในลักษณะรวมไทยสร้างชาติอีก

หลายคนชักหูอื้อ

ภาพคน”ตื่น”ต่อแถวตากแดดเพื่อขอใบอนุญาตเดินทาง ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด ที่จู่ๆก็ประกาศออกมาโดยขาดวิธีปฏิบัติอันชัดเจน

จนต้องมาผ่อนคลายในภายหลัง

ทำให้คนเหนื่อยหน่าย ที่จะให้ความร่วมมือ

และหากเกิดซ้ำๆบ่อยครั้งขึ้น จนอาจกลายเป็นการต่อต้านขึ้นมาจะยุ่ง

นี่บอกไปล่วงหน้าไปถึง เรื่อง วัคซีน

ที่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก

มีไทม์ไลน์ ชัดเจนจะเริ่มได้รับวัคซีนเข้ามา ระยะแรกประมาณ 2 แสนโดส

เดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม 8 แสนโดส เดือนเมษายน 1 ล้านโดส และเดือนพฤษภาคม อีก 26 ล้านโดส

และได้จองวัคซีนเพิ่มเติมแล้วอีก 35 ล้านโดส

พูดฟังดูดีอีกตามเคย

แต่ได้เตรียมการในการปฏิบัติแล้วหรือยัง

โดยเฉพาะประเด็น ใครจะได้ฉีดก่อน ฉีดหลัง ต้องวางแผนให้ดีมากๆ และรัดกุม

เพราะรัฐบาลฉีดให้กับคนทั้งประเทศได้ไม่หมดแน่ๆ

เหตุผลในการอธิบายจึงต้องแจ่งชัด

อย่าให้เกิดความรู้สึก ความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม

ศรัทธา ความเชื่อมั่น ไม่ดีอยู่แล้ว เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมซ้ำเข้าไป

เสียงนับโดมิโนล้ม 1 2 3 4 5 “กูร ได้ยินเหมือนกัน”ก้องแผ่นดินแน่