จรัญ พงษ์จีน : สำรวจปม ‘บ่อน-แรงงานเถื่อน’ สู่โควิด-19 ระบาดรอบ 2

จรัญ พงษ์จีน

การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือ “โควิด-19” รอบ 2 ในประเทศไทย เริ่มจากเจ้าของแผงในตลาดกุ้งมหาชัย จ.สมุทรสาคร และติดต่อไปยังคนรอบข้าง จนต้องปิดตลาด พร้อมกับนำกลุ่ม “แรงงานต่างด้าว” ในตลาดกลางกุ้งมาทำการตรวจคัดกรอง

พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานชาวเมียนมากว่า 500 คน และตรวจพบเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องประกาศ “ล็อกดาวน์” จังหวัด ก่อนพบว่า “โควิด-19” ได้แพร่ระบาดในรอบใหม่ พรึบเป็นไฟลามทุ่งทั่วประเทศ

“ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19” หรือ “ศบค.” ต้องออกจอแถลงสรุปสถานการณ์แบบรายวัน เพราะยอดผู้ป่วยใหม่เพิ่ม ทำ “นิวไฮ” ล่าสุด ณ วันที่ 6 มกราคม ผ่านปีฉลูไปไม่กี่ชั่วยาม ยอดสะสมพุ่งกระฉูดถึง 9,331 คน แพร่กระจายไปทั่ว

กลุ่มจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดคือ “ภาคกลาง-ภาคตะวันออก” และปริมณฑล นัวเนียเป็นงูกินหาง

ทั้ง “กทม.-สมุทรสาคร-ชลบุรี-จันทบุรี-ระยอง-นครปฐม-อ่างทอง-ตราด-สมุทรสงคราม-ปทุมธานี-ราชบุรี-สุพรรณบุรี” จนทางการต้องออกมาตรการเข้ม ฉีดยาแรง เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด เฝ้าระวังสูง 38 จังหวัด โกลาหลกันรอบที่ 2 ทั้งประเทศ

ล่าสุด “ศบค.” ประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด ประกอบด้วย “สมุทรสาคร-ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด” ผู้เดินทางจะต้องแสดงหลักฐานหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ มีเอกสารการเดินทาง บวกกับอีก 23 จังหวัด เมื่อเดินทางไปถึงต้องคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ ติดตั้งแอพพลิเคชั่นหมอชนะ

น้ำลดตอผุด สัตว์เลื้อยคลานโผล่มาด้วย มีข่าวปูดออกมาว่า เคราะห์ซัดครั้งใหญ่หลวงที่กลับมาอาละวาดดุจผีบ้ารอบที่ 2 “ห้องเครื่อง” เกิดจากสองต้นตอใหญ่ที่เป็นตัวแพร่เชื้อ หนึ่งคือ “แรงงานข้ามชาติ” กับสอง “บ่อนการพนัน”

“มีนักเลงดีทำตัวเป็นวัชพืชที่เติบโตอยู่บนต้นไม้ใหญ่” อาศัยร่มเงาเครื่องแบบ คุมบ่อน-แรงงานเถื่อน

จริงเท็จประการใด เกี่ยวข้องกันมากน้อยแค่ไหนไม่รู้ แต่ดังที่ตกเป็นข่าว “ยุทธจักรสีกากี” ถิ่นที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 และถูกเปิดโปงว่ามีส่วนติดเชื้อมาจาก “บ่อนการพนัน”

ถูกย้ายกันกราวรูด โดยเฉพาะระนาบ “ผู้การจังหวัด” เครือข่าย “ภาคตะวันออก” โดนสังเวย “พิษบ่อน” ทั้งแถบ ประกอบด้วย

1. “พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล” ผบก.ภ.จังหวัดจันทบุรี ถูกเด้งไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 2

2. “พล.ต.ต.ประการ ประจง” ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

3. “พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์” ผบก.ภ.จว.ระยอง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

4. “พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ” ผบก.ภ.จว.ตราด ขาดจากตำแหน่งเดิม ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 2

แต่ดูเหมือนว่าหนังยังไม่จบ มีนัยยะว่าจะดำเนินการกันต่อไป เมื่อมีรายการกระชากลากไส้ “ตัวการใหญ่” เหนือท่านผู้การจังหวัด เครือข่ายศูนย์อำนาจ ที่รู้เห็นเป็นใจ หรี่ตาให้กับบ่อนการพนันในภาคตะวันออก

ว่ามีการเก็บส่วย ส่งส่วยกันเป็นทอดๆ จากปลาเล็ก ปลาใหญ่ คอยเป็นมือไม้ จัดการทั่วถึงในหลายระดับชั้น “ศึกสีกากี” ที่ระเบิดเถิดเทิงจาก “โควิด-19” พ่นพิษ จะจบ ปิดฉากลงอย่างไร “ใคร” โดนเช็กบิลต่อไปหรือไม่

โปรดติดตามกันต่อไป…ตาอย่ากะพริบ

 

พัก “ส่วยบ่อน” ตามไปดู “แรงงานเถื่อน” ที่เป็นตัวจุดชนวน “โควิด-19 ภาค 2” ก่อนอื่นขอเปิดแฟ้ม “แรงงานข้ามชาติ” ในประเทศไทย เริ่มจากตัวเลขที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย รวมทุกประเทศ จากข้อมูลของสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ยอดรวมสรุปอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 สดๆ ร้อนๆ

มีจำนวนทั้งสิ้น 2,526,275 คน อันดับ 1 “กรุงเทพมหานคร” จำนวน 589,419 คน 2. “สมุทรสาคร” 239,752 คน 3. “สมุทรปราการ” 161,745 คน 4. “ชลบุรี” 158,578 คน 5. “ปทุมธานี” 134,389 คน 6. “นนทบุรี” 99,804 คน 7. “นครปฐม” 93,532 คน 8. “เชียงใหม่” 89,357 คน 9. “สุราษฎร์ธานี” 77,528 คน และ 10. “ภูเก็ต” 72,966 คน

เป็นยอดทะเบียนแรงงานต่างด้าว จากประเทศเมียนมา กัมพูชา และลาว มีเอกสาร พาสปอร์ต วีซ่า ใบอนุญาตทำงาน บัตรชมพู

โดยสาเหตุที่แรงงานต่างด้าวนิยมเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพราะบ้านเรากำหนดค่าตอบแทนขั้นต่ำไว้ชัดเจน แรงงานต่างด้าวจึงได้รับผลประโยชน์เป็นค่าแรงมากกว่าประเทศตัวเอง

ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานหลายประเภทที่คนไทยไม่นิยมทำ เช่น เสิร์ฟอาหาร งานประมง อุตสาหกรรม กับแรงงานต่างด้าวเมื่อเข้ามาทำงานแบบถูกกฎหมาย สามารถใช้สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลของกองทุนรวมประกันสังคมได้ รวมไปถึงสวัสดิการกองทุนเงินทดแทนกรณีเกิดอุบัติเหตุให้อีกต่างหาก

โดยจำนวนแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าเมือง ปรากฏว่าเป็นแรงงานจากประเทศเมียนมามากที่สุด ร้อยละ 82

เห็นยอดตัวเลขกลมๆ 2.5 ล้านคน ขอย้ำอีกครั้งว่า ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังมี “แรงงานเถื่อน” กระจัดกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า มีขบวนการนำพาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายเข้ามาตามช่องทางปกติ โดยจ่ายเงินใต้โต๊ะกับเจ้าหน้าที่ “ที่เกี่ยวข้อง” เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย เส้นทางหลักๆ 4 จังหวัด คือ ตาก แม่ฮ่องสอน ราชบุรี กาญจนบุรี

ค่าใช้จ่ายสำหรับแรงงานต่างด้าว “ถูกกฎหมาย” หัวละราว 9,180 บาท เป็นค่าเนมลิสต์ใบตรวจสุขภาพ ค่าขออนุญาตทำงาน ค่ายื่นขอทำบัตรชมพู ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนายจ้างเป็นผู้ออก แต่ส่วนมากขึ้นอยู่กับว่านายจ้าง-ลูกจ้างจะตกลงกันอย่างไร เช่น นายจ้างออกให้ก่อน แล้วมาหักจากค่าแรงในภายหลัง

ทั้งหมดเฉพาะที่เข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่หลบหนีเข้ามาอีกจำนวนมหาศาล ประเมินตัวเลขไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าวิตกมาก เนื่องจากหลังการแพร่ระบาด “โควิด-19” รอบสอง ทางการได้ทำการตรวจเข้ม ทั้งลักษณะประชิดตัว สุ่มตรวจตามหอพัก โรงงาน ย่านแออัด

แต่ไม่สามารถล็อกตัวแรงงานเถื่อนที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกไม่รู้จำนวนเท่าใดได้

ที่หลบๆ ซ่อนๆ กระจัดกระจายอยู่ตามบ้านเพื่อน ญาติ ชาติเดียวกัน

พิษบ่อน สีกากีเขาจัดการเชือดไก่ให้ลิงดูกันแล้ว แต่ “แรงงานเถื่อน” ซึ่งเกี่ยวข้องหลายกระทรวง ไม่รู้จะลงมือกันเมื่อไหร่