อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ : มองเอเชียปี 2020 ผ่านภาพที่ทั้งตื่นตาจนน่าสะพรึง

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

ภาพและคำบรรยายอันสั่นสะเทือนต่อเอเชียปี 2020 ของบีบีซี นิวส์ ที่พรีที จา เขียนช่างยอดเยี่ยมนัก

ผมขอสรุปแล้ววิเคราะห์เพิ่มในมุมของผม

 

ภาพและคำบรรยาย

พรีที จา ช่างมองภาพต่างๆ แปลกยิ่ง เขาแยกทุกสิ่งออกจากโรคระบาดโควิด-19 แล้วบอกแก่เราว่า อะไรก่อผลสะเทือนต่อเอเชีย เหตุการณ์สะเทือนเกิดขึ้นทั่วเอเชีย ในอินเดีย คาบสมุทรเกาหลี ไต้หวัน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

เล่าเรื่องโดยย่อ

กุมภาพันธ์ 2020 ที่อินเดีย โมฮัมหมัด ชูบาอรี ประชาชนถูกหวดจากเจ้าหน้าที่ด้วยไม้และท่อนเหล็กปางตาย ด้วยเขาต่อต้านกฎหมายสัญชาติใหม่ของรัฐบาลอินเดีย

มิถุนายน 2020 สำนักงานประสานงานร่วมระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ถูกวางระเบิด และเผาจนหมดสิ้น ไฟและควันในวันนั้นกลายเป็นสัญญาณชัดถึงลางร้ายของทั้งสองประเทศจะกลับไปฆ่าฟันกันต่อไป ด้วยเกาหลีเหนือโกรธที่ผู้แปรพักตร์หรือที่เขาเรียกว่า “เศษสวะมนุษย์ ผู้ก่ออาชญากรรม” ต้องถูกทำลาย

สิงหาคม 2020 จิมมี่ ไหล มหาเศรษฐีฮ่องกงเจ้าของหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยถูกจับ 2 ครั้ง ครั้งแรกเขาถูกจับข้อหาเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่สองเขาถูกจับด้วยข้อหาเดียวกัน ทว่าด้วยกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เขาจึงได้รับโทษร้ายแรงกว่า อาจติดคุกตลอดชีวิต

สิงหาคม 2020 ที่ไทย คำประกาศที่ทำลายข้อห้ามที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศไทย

นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง อายุ 21 ปี อ่านข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของประเทศไทย เธอก้าวขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางกลุ่มควันจากน้ำแข็งแห้งและเสียงเชียร์ของบรรดานักศึกษาหลายพันคน คำประกาศนี้ เปิดเผย ไม่สะทกสะท้าน เป็นการปราศรัยที่น่าขนลุก

“…ไม่มีใครในโลกนี้เกิดมาพร้อมเลือดสีน้ำเงิน คนบางคนอาจจะเกิดมาโชคดีค่ะ โชคดีกว่าคนอื่น แต่ไม่มีใครเกิดมาสูงกว่าใคร…”

ใครๆ นึกว่า นี่เป็นการปราศรัยที่น่าขนลุกของคนในประเทศไทยเท่านั้น ทว่ากลับเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก

ก่อนหน้านั้นเพียง 1 สัปดาห์ เพื่อนนักเคลื่อนไหวอีกคนหนึ่งของรุ้ง นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นคนแรกที่ทำลายข้อห้ามนี้ ด้วยการปราศรัยในการประท้วงที่จัดขึ้นตามแนวคิดของภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ พฤศจิกายนต่อมา รุ้งเป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวหนุ่ม-สาวหลายสิบคนที่ถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

16 ตุลาคม 2020 ที่ฟิลิปปินส์ นางเรนา เม นาริโอ อายุ 23 ปี ผู้ถูกควบคุมทางการเมือง กล่าวอำลาลูกสาววัย 3 เดือนที่เสียชีวิตที่หลุมฝังศพท่ามกลางความไม่พอใจของคนฟิลิปปินส์จำนวนมากที่ได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวแม่ที่ถูกควบคุมทางการเมืองมาพบลูกน้อยซึ่งเจ็บป่วยมากก่อนเสียชีวิต แต่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ไม่สนใจเสียงเรียกร้องนั้น

ลูกน้อยจบชีวิตโดยที่แม่มาร่ำลาลูกสาวในขณะที่ยังถูกจองจำด้วยโซ่ตรวนอย่างน่าเวทนา

20 ตุลาคม ที่เกาะอันห่างไกลแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย ภาพสัตว์เลื้อยคลาน มังกรโคโมโด เดินชนรถกระบะของเจ้าหน้าที่บริษัทรับเหมาก่อสร้าง สร้างความตื่นตระหนกให้ชาวอินโดนีเซียจำนวนมาก

ทว่าชาวบ้านมิได้ตื่นตระหนกเมื่อเห็นสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ที่มีวิวัฒนาการนานนับล้านปี

เปล่าเลย ชาวบ้านกังวลโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เกาะนี้กระทบสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์อันอยู่คู่มังกรโคโมโด ที่อาศัยอยู่ที่นั่น จนกระทั่งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไล่ล่าเกาะและสิ่งแวดล้อมจนไม่เหลืออะไร นอกจากโรงแรมสวยหรู คลับ บาร์ และขยะกองมหึมา

30 ตุลาคม ที่ไต้หวัน พล.ต.หวัง อี้ (ผู้หญิง) และนางสาวเมิ่ง โหยว เหม่ย คู่รักเพศเดียวกันคู่แรกเข้าร่วมพิธีแต่งงานหมู่ของกองทัพไต้หวัน นับเป็นการแต่งงานคู่รักเพศเดียวกันที่ถูกต้องตามกฎหมายที่เดียวในเอเชีย (ขณะนี้) คุณแม่ของนางสาวเมิ่งบอกกับนักข่าวเอพีว่า

“…ฉันรู้สึกว่า นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของกองทัพ (ไต้หวัน-ขยายความโดยผู้เขียน)…”

“…บางที สำหรับคู่แต่งงานต่างเพศ มันเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ [ใบหนึ่ง] แต่มันสำคัญมากสำหรับคู่แต่งงานเพศเดียวกัน…” แม่ของเจ้าสาวคนสวยกล่าว

พฤศจิกายน 2020 กรุงเทพฯ เมืองไทย เป็ดยางสีเหลืองเป่าลมกลายเป็นเกราะป้องกันผู้ประท้วงบนท้องถนนในกรุงเทพฯ นี่เป็นการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่นำโดยเยาวชนไทย กลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วจากความคิดสร้างสรรค์ในการเคลื่อนไหว

บางฝ่ายบอกว่า นี่ได้รับแรงจูงใจจากเยาวชนที่ฮ่องกง แนวคิดนี้แฝงด้วยอคติเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือการเรียกร้องประชาธิปไตย ในทำนองการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยที่เมืองไทยถูกครอบงำจากภายนอกตามแนวคิดสมคบคิด

ทว่าเป็ดยางสีเหลืองและร่มหลากสีช่างเรียบง่าย ทว่าสร้างสรรค์มาก เป็นทั้งของเล่นสนุกๆ แต่ใช้ป้องกันผู้ประท้วงจากความรุนแรงของรัฐที่ใช้ทั้งน้ำผสมสารเคมีและกระสุนยาง

แถมเป็ดน้อยสีเหลืองกลายเป็นตัวนำโชคของผู้ประท้วง

 

เราเห็นอะไรบ้าง

ความจริง ภาพเหตุการณ์ที่เลือกสรรมาของสำนักข่าวบีบีซีเผยให้เราเห็นโครงสร้างที่ยึดโยงการเมืองในเอเชียยังทำงานอย่างเข้มข้น

โดยที่เราอย่าหลงไปกับลำดับของกาลเวลาจากต้นปีถึงปลายปี และแบ่งพื้นที่เอเชียใต้ ตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้

เราจะมองภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเอเชียปีที่แล้ว ที่สาระหลักย้อนได้ไกลกว่าเพียงปีที่แล้ว ทั้งยังเป็นสาระหลักสืบเนื่องไปข้างหน้าอีกนาน โดยไม่มีใครรู้ว่าสิ้นสุดเมื่อไร

เป็นสาระหลักที่กำกับด้วยโครงสร้างที่ก่อตัว ก่อผลกระทบได้หลายพื้นที่พร้อมๆ กันโดยไม่เกี่ยงว่ามีวัฒนธรรม ศาสนาและความเชื่อแบบฮินดู ขงจื๊อ พุทธ คริสต์หรืออิสลาม

เช่นเดียวกัน สาระหลักดังกล่าวเกิดขึ้นได้ทั้งในระบอบการเมืองที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย

ภาพและเหตุการณ์ที่เลือกสรรมาแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน สะท้อนโครงสร้างเดิมและโครงสร้างหลักในเอเชียเรื่องชาติพันธุ์ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ สิทธิทางการเมือง ความเท่าเทียมทางเพศ แม่และลูก สิ่งแวดล้อม ที่ชนชั้นนำกดทับชนชั้นล่างจำนวนมากด้วยความรุนแรง อาวุธ ประเพณีและกฎหมาย ในขณะที่ชนชั้นล่างก่อตัวและเคลื่อนไหวเรียกร้องทั่วทุกย่อมหญ้า

ทว่าการประท้วงของเยาวชนฮ่องกง น่าขนลุกยิ่งนักด้วยพวกเขากล้าต่อกรกับชนชั้นนำจากปักกิ่งผู้มีแสนยานุภาพขนาดวอชิงตันอภิมหาอำนาจยังย่ำแย่ แล้วร่มและเป็ดน้อยสีเหลืองก็สำแดงพลังอย่างเหลือเชื่อ

ส่วนการประท้วงที่ไทย น่าขนลุกยิ่งกว่าเสียอีกด้วยตั้งคำถามต่อข้อห้ามทุกเรื่อง ทุกวันและทุกแห่งหน

เอเชียช่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง