จริงตนาการ : กีฬาไทย-กีฬาโลก พ.ศ.2564 เดินหน้าเต็มสูบแบบระวังโควิด

พ.ศ.2563 ได้ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นปีที่เรียกได้ว่าคนทั้งโลกเหนื่อยไปตามๆ กัน เพราะต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

วงการกีฬาก็หนีไม่พ้นกับวิกฤติครั้งนี้ กีฬารายการใหญ่ๆ เลื่อนกันถ้วนหน้า “โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์, ฟุตบอลยูโร, ฟุตบอลโคปา อเมริกา” หรือหลายรายการก็ยกเลิกจัดไปเลย ไม่ว่าจะเป็นเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” หรือวิ่งมาราธอนระดับอย่าง “โตเกียว มาราธอน”

ที่ว่ามาข้างต้นเป็นแบบเพียงส่วนเล็กๆ เพราะความเสียหายในวงการกีฬาทั่วโลกเรียกได้ว่ามหาศาล บางกีฬาอาจจะแข่งขันได้ แต่ไม่มีแฟนๆ เข้าไปเชียร์ในสนาม ทำให้ขาดรายได้กันอย่างหนัก

จนถึงตอนนี้ข้ามปี 2563 เข้าสู่ปี 2564 แล้ว แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดก็ยังไม่ดีขึ้น และไม่มีใครรู้ว่าจะดีขึ้นเมื่อไร ถึงแม้จะมีการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาแล้ว มีการทดลองฉีดกันไปแล้ว แต่กว่าจะไม่มีผลข้างเคียงและเข้าถึงคนทั่วไปได้ต้องใช้เวลาอีกเท่าไร

 

สิ่งที่น่าจับตามองในโลกกีฬาของปี 2564 คงหนีไม่พ้นการลุ้นว่าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะแข่งขันได้หรือไม่ และถ้าแข่งได้ตามกำหนดระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม บรรยากาศจะเป็นอย่างไร

เจ้าภาพญี่ปุ่นประกาศไว้แล้วว่า นักกีฬาและเจ้าหน้าที่แต่ละชาติจะไม่ต้องกักตัว 14 วัน เพียงมีหลักฐานยืนยันให้มั่นใจว่าก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทางไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม การเข้าไปอยู่ที่ญี่ปุ่นจะต้องทำตามข้อบังคับต่างๆ เช่นเดียวกับกองเชียร์และนักท่องเที่ยว สามารถเข้าไปร่วมชมมหกรรมการแข่งขันได้ไม่อั้น ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีแอพพลิเคชั่นในการติดตามตัวว่าไปไหนบ้าง เพื่อจะได้รับมือในกรณีที่มีการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัคซีนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันเชื้อ แต่ “โธมัส บาค” ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ยืนยันแล้วว่า ไม่ว่าจะมีวัคซีนหรือไม่ โอลิมปิกจะยังเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีการยกเลิกหรือเลื่อนออกไปแน่นอน

เชื่อว่าโอลิมปิกครั้งนี้คงไม่ได้มีบรรยากาศที่คึกคักและสุดเหวี่ยงเหมือนที่ผ่านมา เพราะทุกฝ่ายจะต้องระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อกันอย่างเข้มงวด การจะได้เห็นนักกีฬาฉลองชัย อาจจะไม่ได้เต็มที่เหมือนก่อน

 

สําหรับประเทศไทยที่มีการระบาดระลอกใหม่ในหลายจังหวัด และยังไม่แน่ใจว่าจะรับมือได้ดีขนาดไหน ส่งผลต่อมหกรรมต่างๆ ในประเทศ ที่เลื่อนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว “กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 “ช้างขาวเกมส์” ที่ จ.ตราด ระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม, “กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ที่ จ.ศรีสะเกษ ในเดือนมิถุนายน รวมไปถึงการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬานานาชาติ 2 รายการ “กีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ 2021” ระหว่างวันที่ 21-30 พฤษภาคม ที่กรุงเทพมหานคร และ จ.ชลบุรี, “กีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 20” ระหว่างวันที่ 18-27 มิถุนายน ที่ จ.อุบลราชธานี ยังไม่มีการยืนยันว่าจะจัดแข่งขันได้หรือไม่

ในส่วนของเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (ไอโอซี) ยังยืนยันว่าไม่มีการเลื่อน เช่นเดียวกับ “กีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 6” ที่เมืองซานยา ประเทศจีน ที่กำหนดเอาไว้ระหว่างวันที่ 2-10 เมษายน ถ้าเอเชี่ยนบีชจัดให้ เอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ที่ไทยก็จะเป็นไปในทิศทางเดียว

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงกันว่า ในการจัดกีฬานานาชาติในไทย นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกชาติจะต้องเข้ามากักตัว 14 วัน เพื่อให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีเชื้อโควิด-19

และถ้าเป็นแบบนี้ชาติไหนจะอยากเข้ามา และประเทศไทยจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกหลายสิบล้านบาทในการจัดการในช่วงเวลากักตัวทั้งหมด

 

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีคู่มือในการจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆ ออกมาตั้งแต่กลางปี 2563 แล้ว แต่ในส่วนของมหกรรมกีฬานานาชาติ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะให้จัดได้หรือไม่ ซึ่งเวลาอีก 4-5 เดือน จะมากพอหรือไม่ในการประเมินสถานการณ์ต่างๆ ถึงจะเอาอยู่ในการแพร่ระบาดรอบนี้ แล้วถ้ามีรอบใหม่ขึ้นมาอีก แนวทางจะเป็นอย่างไร

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้ยืนยันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า การเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬา เอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ในปี 2021 ขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เรียบร้อยตามมาตรฐาน โดยเฉพาะด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่จัดการแข่งขัน ประสานงานกับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย สำหรับการแข่งขันกีฬาในปีหน้าที่สำคัญ ได้แก่ โอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น และกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม จึงขอให้เตรียมแผนฝึกซ้อมนักกีฬาให้พร้อม ในส่วนของคณะทำงานร่วม ระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย ขอให้ติดตามการฝึกซ้อมและคัดเลือกนักกีฬาเข้าแข่งขันอย่างจริงจัง เพื่อให้มีผลงานเป็นไปตามความคาดหวังโดยเฉพาะการเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์

เหมือนกับว่าเป็นการยืนยันแล้วว่า กีฬาแข่งที่ไหนก็ต้องส่งไปแข่ง และหน้าที่ในการเตรียมการแข่งขันรายการใดที่ต้องทำ ก็ทำไปตามนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ที่ผ่านมาถือว่าโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างบนโลกนี้หยุดชะงักมาเป็นเวลาเกือบปีเต็มๆ แล้ว ถ้ายังต้องนั่งนิ่งๆ และหวาดระแวงกันต่อไปก็มีแต่จะสร้างผลเสียให้กับการเจริญเติบโตของหลายๆ แวดวง

ดังนั้น การออกมาทำในสิ่งที่ควรจะทำ ด้วยมาตรการที่ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในเรื่องสุขภาพของคนวงกว้าง ถ้าทำได้ก็ต้องทำแล้ว