กรองกระแส

 

นวัตกรรมการเมือง

เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา

จาก 2563 ถึง 2564

 

ปรากฏการณ์แห่ง “เยาวชนปลดแอก” ณ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อเดือนกรกฎาคม แม้จะเป็นความต่อเนื่องจากแฟลชม็อบในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม

กระนั้น ก็สร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

เนื่องจากมิได้เป็นการเคลื่อนไหวภายในสถาบันการศึกษา ไม่ว่าในส่วนกลาง ไม่ว่าในส่วนภูมิภาค ขณะเดียวกันก็เป็นการออกนอกมหาวิทยาลัยและมุ่งไปยังถนนราชดำเนิน

เป็นถนนราชดำเนิน บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

แม้ว่าจะเป็นการไปรวมตัวกันด้วยจำนวนอันถือได้ว่ามากที่สุดนับแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา แต่ก็ไม่มีใครคาดหมายได้ถึงพัฒนาการที่จะตามมา

เพราะว่า “เยาวชนปลดแอก” เป็นใคร มีบทบาทอย่างไร ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด

แต่แล้วจากสถานการณ์ “เยาวชนปลดแอก” ก็เกิดการเคลื่อนไหวตามมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนตุลาคม เยาวชนปลดแอกก็ยกระดับเป็น “คณะราษฎร 2563”

เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ยกร่างรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน

 

นวัตกรรมการเมือง

ทุกคนคือ “แกนนำ”

พัฒนาการของ “เยาวชนปลดแอก” ที่ยกระดับกลายเป็น “คณะราษฎร 2563” ในห้วงจากเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ได้สร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างสูงในสังคมไทย

เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์อันแตกต่างไปจาก “อดีต”

ไม่ว่าจะเป็นอดีตเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ไม่ว่าจะเป็นอดีตเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 ไม่ว่าจะเป็นอดีตก่อนรัฐประหาร 2549 ไม่ว่าจะเป็นอดีตก่อนรัฐประหาร 2557

เพราะนี่เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะชั่วคราว แต่มีความต่อเนื่อง

นั่นก็คือ ระดมมวลชนเข้ามาร่วมแล้วก็สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว มีการทดลองชุมนุมข้ามคืนเพียงครั้งเดียวที่ท้องสนามหลวง แต่จากนั้นก็เข้าสู่วงจรการชุมนุมในลักษณะชั่วคราว

การระดมมวลชนก็กระทำอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีประสิทธิภาพเป็นอย่างสูง

รูปธรรมไม่ว่าการเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปหน้าทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าการเคลื่อนจากสามย่านไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี มีคนเข้าร่วมจำนวนหลายหมื่นคน

ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ไม่มี “แกนนำ” ตายตัว หากแต่สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย

 

มองหาคนเบื้องหลัง

มองหาท่อน้ำเลี้ยง

ตามความเคยชินโดยทั่วไปเมื่อเป็นขบวนการเคลื่อนไหวต้านรัฐประหาร ต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อก่อนก็ต้องมองไปยังนายทักษิณ ชินวัตร

ระยะหลังก็มองไปยังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

แม้ว่านายทักษิณ ชินวัตร จะหมดอำนาจไปตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 แม้ว่าพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ ปัจจุบันก็เหลือเพียงพรรคเพื่อไทย

แม้ว่าอาวุธที่เคยทำลายนายทักษิณ ชินวัตร ก็นำมาใช้กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

นั่นก็เห็นได้จากการสกัดไม่ให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เข้าไปแสดงบทบาทในสภา นั่นก็เห็นได้จากการดำเนินการอันนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหาร

การมองว่า นายทักษิณ ชินวัตร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงเกิดขึ้น

การพยายามโยงว่า ไม่ว่านายทักษิณ ชินวัตร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ล้วนเป็นคนอยู่เบื้องหลังทำให้เกิดการชุมนุมตั้งแต่ “เยาวชนปลดแอก” จนถึง “คณะราษฎร 2563”

ทั้งๆ ที่ความจริงขบวนการชุมนุมได้ก้าวพ้นทั้ง 2 ไปแล้วอย่างสิ้นเชิง

 

กลไกอำนาจรัฐ

มาตรการขัดขวาง

ทั้งๆ ที่กลไกอำนาจรัฐ ไม่ว่าพลเรือน ไม่ว่าตำรวจ ไม่ว่าทหาร อันเป็นกลไกทางด้านความมั่นคงมีอย่างมากมายพร้อมกับงบประมาณจำนวนมหาศาล

แต่ตราบทุกวันนี้ทุกอย่างก็ยังเป็นเพียง “ข้อกล่าวหา”

นั่นก็คือ กล่าวหาว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลัง เฉียดจากนายทักษิณ ชินวัตร ไปยังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทะลุพรรคเพื่อไทยไปยังเครือข่ายพรรคอนาคตใหม่

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถจับ “ท่อน้ำเลี้ยง” ได้

ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการด้านการข่าวหรือที่เรียกว่าไอโอก็ไม่เคยปรากฏหลักฐานอย่างแจ่มชัด ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นสภาความมั่นคงแห่งชาติ

ทั้งการข่าวด้านทหาร การข่าวของตำรวจ การข่าวของพลเรือน

ไม่มีสักหน่วยงานเดียวสามารถลากเอาผู้บงการออกมา ไม่มีสักหน่วยงานเดียวที่จะชี้ให้เห็นการเชื่อมโยงด้านการเงิน

ทุกอย่างจึงเสมอเป็นเพียง “ข้อกล่าวหา” โจมตีอย่างเลื่อนลอย

 

จากปี 2563

ไปยังปี 2564

ไม่มีใครระบุได้ว่าองค์กรของ “คณะราษฎร 2563” มีโครงสร้างการจัดตั้งอย่างไร ใครนำในทางความคิด ใครนำในการเคลื่อนไหวทางการเมือง

รู้เพียงแต่ว่า เมื่อหยุดก็หยุด เมื่อเคลื่อนไหวก็เคลื่อนไหว

การเคลื่อนไหวสามารถกระทำได้ภายหลังการประกาศถึงเป้าหมายและจุดรวมพลล่วงหน้าเพียง 1 หรือ 2 ชั่วโมง มวลชนก็จะหลั่งไหลกันเข้ามาเป็นหมื่น

และเมื่อถึงเวลาต้องสลายก็สามารถสลายได้อย่างเรียบร้อย

การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม เกือบตลอดปี 2563 จึงเท่ากับเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวในปี 2564

   ไม่มีใครรู้ว่าปรากฏการณ์นี้จะพัฒนาเติบใหญ่และนำนวัตกรรมอะไรเข้ามาอีก