เจาะคดี บุกยิงหมอชื่อดังเมืองเพชร

เป็นอีก 1 ความสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ของ จ.เพชรบุรี

สำหรับกรณีที่คนร้ายซึ่งก็เป็นคนไข้ บุกสังหาร นพ.ชุมพล เตชะ อำไพ ผอ.โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี คาคลินิกหมอชุมพลกลางเมืองเพชรบุรี

สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคนในวงการแพทย์ เพราะนพ.ชุมพล เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณค่า ทำหน้าที่หมอรักษาคนไข้ในท้องถิ่นเพชรบุรีมายาวนานจนคนในพื้นที่รู้จักและให้ความเคารพ

แม้ในที่สุดตำรวจจะจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

พร้อมสรุปปมลงมือโหดครั้งนี้ว่าเกิดจากความไม่พอใจการให้บริการของโรงพยาบาลต้นสังกัด จึงมาระบายความแค้นกับนพ.ชุมพล ที่เป็นผอ.

แต่ครอบครัวก็ยังตั้งข้อสงสัย และต้องการให้เจ้าหน้าตำรวจเร่งคลี่คลาย ให้ข้อเท็จจริงเป็นที่ปรากฏ

เพื่อให้คดีเกิดความโปร่งใส ทำให้ญาติผู้สูญเสียชีวิตเกิดความเชื่อมั่น

● ช็อกบุกยิงนพ.ดับคาคลินิก
เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อช่วงสายวันที่ 19 ธ.ค. 2563 โดย พ.ต.ท.ชำนาญ บุญเหมาะ พนักงานสอบสวนสภ.เมือง จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิง นพ.ชุมพล เตชะอำไพ ผอ.โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี เสียชีวิต ขณะตรวจรักษาคนไข้อยู่ที่คลินิกแพทย์ชุมพล ถนนมาตยาวงศ์ อ.เมือง จ.เพชรบุรี

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ นพ.ชุมพล อายุ 57 ปี ที่อยู่ 5 ถ.ดำเนินเกษม ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี สวมเสื้อเชิ้ตลายตารางแขนสั้น กางเกงขายาว นอนคว่ำหน้าเลือดไหลนองอยู่ในห้องตรวจโรค มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดหลายนัดที่หน้าอกและคอ

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่คลินิกเปิดทำการในวันเสาร์ มีผู้ต้องสงสัยเป็นชายคนหนึ่งตามชื่อที่ลงคิวรักษาไว้ ชื่อนายเด่นภูมิ สังข์ทอง อายุ 22 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.สำมะโรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ขับรถยนต์เก๋งสีขาวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดที่ฝั่งตรงข้ามคลินิก และเดินข้ามถนนมาที่คลินิกของนพ.ชุมพล เพื่อพบกับผู้เสียชีวิตที่ห้องตรวจกระทั่งเสร็จสิ้นการตรวจ

จากนั้นนายเด่นภูมิออกมาซักถามบางอย่างกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ของคลินิก ก่อนเดินกลับไปที่รถและเดินกลับมาที่คลินิกอีกครั้งพร้อมกับเดินไปที่ห้องตรวจที่หมอชุมพลทำงานอยู่ และมีเสียงปืนดังขึ้น 6 นัด จากนั้นนายเด่นภูมิก็วิ่งออกจากคลินิกไปขึ้นรถเก๋งขับหนีไปท่ามกลางความตกใจของเจ้าหน้าที่

ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบคนร้ายพยายามปกปิดใบหน้าและยังมีรายงานว่าคนร้ายเคยมาข่มขู่มาก่อนหน้านี้

ด้านพล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติออกหมายจับนายเด่นภูมิ สังข์ทอง อายุ 22 ปี ที่อยู่ 73 ม.1 ต.สำมะโรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต

พร้อมยืนยันว่า สาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ไม่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นชู้สาว โดยก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยติดพันหญิงสาวจริงแต่เป็นการคิดเองฝ่ายเดียวหญิงสาวไม่ได้สนใจ และตัดการติดต่อผู้ก่อเหตุทุกช่องทางมานานกว่า 2 ปี ที่สำคัญหญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาล ไม่ได้ทำงานที่คลินิก และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้จักกับนพ.ชุมพล ผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว

● กบดานแม่กลอง-ตร.บุกจับ
ไม่ทันข้ามคืน ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ก็บุกจับกุมนายเด่นภูมิ ได้ที่โรงแรมโนอาห์ จ.สมุทรสงคราม ขณะเดินลงจากโรงแรมเพื่อมากินข้าว หลังหนีมากบดาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเด่นภูมิ ไปสอบสวนที่ สส.บก.ภ.จ.เพชรบุรี พร้อมกับแถลงข่าว

โดยพล.ต.ต.อุทัยเปิดเผยเหตุจูงใจในการลงมือครั้งนี้ว่า จากการสอบสวนผู้ช่วยพยาบาลที่คลินิกของนพ.ชุมพล และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งครอบครัวของนายเด่นภูมิ ทำให้ทราบว่ามูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากการใช้ยาเสพติดของนายเด่นภูมิ ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไปไม่เหมือนคนปกติทั่วไป

ที่สำคัญก่อนหน้าที่จะก่อเหตุ นายเด่นภูมิได้เข้ารับบริการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า ที่ นพ.ชุมพล เป็นผู้อำนวยการอยู่ และเคยไปเยี่ยมแม่ตัวเองที่นอนรักษาอาการป่วย ก่อนจะมาหาหมอชุมพล ที่คลินิก และก่อเหตุสะเทือนขวัญขึ้น คาดว่าช่วงพบหมออาจมีการโต้แย้งหรือไม่เข้าใจกัน นำไปสู่การก่อเหตุขึ้น

นายเด่นภูมิ ไม่พอใจการให้บริการของโรงพยาบาลเนื่องจากพบจากเฟซบุ๊กของนายเด่นชัย ที่ระบุข้อความว่า “ที่นี่มีแต่คนโรคจิต” จากการสอบถามเพื่อนของนายเด่นภูมิ ทราบว่าประโยคที่นายเด่นภูมิระบาย คือไม่พอใจโรงพยาบาลที่ตนเองไปใช้บริการ ส่วนจะเป็นประเด็นใดที่ไม่พอใจยังไม่ชัดเจน

หลังก่อเหตุตำรวจทราบว่าผู้เป็นพ่อเคยเป็นตำรวจ จึงติดต่อลูกชายขอให้เข้ามอบตัว ซึ่งช่วงแรกพ่อของนายเด่นภูมิ สามารถติดต่อลูกชายได้ และลูกชายรับปากพ่อว่าจะเข้ามอบตัว แต่ยังไม่ระบุวันเวลา หลังจากนั้นช่วงบ่ายของวันเดียวกันก็ไม่สามารถติดต่อกันได้เลย ที่สำคัญตัวลูกชายกับพ่อไม่ค่อยพูดกัน เนื่องจากพ่อไม่ชอบลูกที่ไปยุ่งกับยาเสพติด

ส่วนประเด็นการจ้างวานฆ่าที่มีการให้เบาะแสกันมา ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างภายในโรงพยาบาล ตำรวจก็ไม่ทิ้งประเด็นนี้ อยู่ระหว่างการสืบสวน แต่ประเด็นชู้สาวจากการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันมูลเหตุในการก่อเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว

แต่ก็ต้องสอบสวนต่อไปให้สิ้นข้อสงสัย

● จี้สอบเพิ่ม-ไม่เชื่อเมายา
ต่อมาวันที่ 20 ธ.ค. ที่คลินิกหมอชุมพล ถนนดำเนินเกษม ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี นำตัวนายเด่นภูมิมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดยจุดแรกผู้ต้องหานำรถเก๋งสีขาวมาจอดที่ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามคลินิก จากนั้นก็เดินเข้าไปในคลินิกเพื่อเข้าตรวจรักษาอาการไข้ หลังจากที่นพ.ชุมพลตรวจอาการเสร็จ ผู้ต้องหาเดินออกจากห้องตรวจมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์เพื่อรับยาและชำระค่ารักษา 130 บาท

จากนั้นผู้ต้องหาได้เดินกลับไปที่รถเก๋งที่จอดอยู่แล้วเดินกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะมายืนอยู่หน้าห้องตรวจ มองเข้าไปด้านใน ถามเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ว่าหมออยู่ด้านในไหม ก่อนจะเดินเข้าไปกระหน่ำยิง นพ.ชุมพล และวิ่งออกจากห้องขับรถเก๋งหลบหนีไป

โดยระหว่างทำแผนฯ มีประชาชนที่รับทราบมายืนมุงดูกันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังกว่า 40 นาย ดูแลความเรียบร้อยระหว่างการทำแผนฯ มีลูกชายของนพ.ชุมพล พร้อมญาติ มาดู ผู้ต้องหากระทำแผนทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ขณะที่ประชาชนที่ดูการทำแผนฯ กันอย่างเนืองแน่น ต่างตะโกนด่าทอผู้ต้องหาและพยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา จนทางเจ้าหน้าที่ต้องนำผู้ต้องหากลับเข้าไปนั่งในรถตู้ แล้วทำความเข้าใจกับประชาชน ก่อนจะนำ ผู้ต้องหาออกจากรถตู้เริ่มทำแผนตามคำรับสารภาพ ตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาทำแผนฯ ประมาณ 10 นาที ก่อนนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้กลับไปยัง สภ.เมืองเพชรบุรี

ด้านลูกชายนพ.ชุมพล ระบุว่ายังติดใจถึงสาเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้ โดยไม่เชื่อว่าเกิดจากฤทธิ์ยาเสพติด เชื่อว่าต้องมีการวางแผนไว้แล้ว สำหรับคุณพ่อที่จริงแล้วพ่อเป็นคนใจดี คนเพชรบุรีที่รู้จักกับคุณพ่อคงเข้าใจ แต่พอมารับตำแหน่งผู้อำนวยการ โรงพยาบาล อาจจะมีปัญหากับผู้ที่มีอำนาจ

บางครั้งเคยเห็นคุณพ่อคุยงานเรื่องต่างๆ อยู่ เพราะจะต้องมีการประสานงานกันตลอด ส่วนคนร้ายมั่นใจว่าจะต้องมาเช็กสถานที่ก่อน แล้วก็เดินทางไปโรงพยาบาลพระจอมเกล้า แล้วก็กลับมาอีกครั้ง

เชื่อว่าจะต้องมีการวางแผน ถ้าจะมาขู่มาทำให้หลาบจำ การยิงก็ไม่น่าจะถึง 5 นัด แต่นี่ยิงหวังผลเพื่อให้พ่อเสียชีวิตเลย คนเราถ้าเมายาเสพติด ถ้าจะยิงเขาจะต้องลงจากรถยนต์แล้วเข้ามายิงเลย ถ้า ไม่พอใจการบริการของโรงพยาบาล ก็ต้องมาเอะอะโวยวายกับคุณพ่อที่เป็นผู้บริหารก่อน แต่นี่พฤติกรรมไม่ใช่แบบนั้น

เสียงจากกล้องวงจรปิดก็ไม่มีเสียงเอะอะโวยวายหรือต่อว่าการบริการไม่ดีจากโรงพยาบาลเลย มีแต่ถามว่าคุณหมออยู่ด้านในไหม

อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบถึงสาเหตุนอกเหนือจากที่ผู้ต้องหารับสารภาพด้วย

ให้ทุกอย่างสิ้นข้อสงสัย ครอบครัวจะได้ไม่คลางแคลงใจ