จรัญ พงษ์จีน : สัญญาณหลัง ‘ประยุทธ์’ รอดแม้จะขาลง

จรัญ พงษ์จีน

คิดกันไปเอง แล้วสรุปเองว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี แม้แต้มบุญทางการเมืองจะสูงส่ง แต่ตามกฎอนิจจังแห่งความไม่เที่ยง ไม่มีใครหนีกาลเวลาพ้น 6 ปีบนตำแหน่งผู้นำ ต้องตกที่นั่ง “ขาลง” พระอินทร์ไม่ให้อยู่ เทวดาอยากให้ไป อะไรประมาณนั้น

แต่สุดท้ายดังที่ทราบ “บิ๊กตู่” สร้างตำนาน แหกด่านรอดฉลุยประสบชัยอีกคำรบ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติ “เอกฉันท์” วินิจฉัยยกคำร้องกรณีพรรคฝ่ายค้านร่วมยื่นกล่าวหา “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่อาศัยบ้านพักหลวงในค่ายทหาร ทำให้สถานะความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว

คำวินิจฉัยโดยสรุปว่า “นายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญของประเทศ รัฐธรรมนูญกำหนดให้บริหารราชการแผ่นดินแล้ว ยังมีฐานะเป็นผู้นำประเทศ ความปลอดภัยของนายกฯ รวมทั้งครอบครัวมีส่วนสำคัญ ต้องมีหน้าที่จัดการดูแลความปลอดภัยให้ตามความเหมาะสมแก่สภาพการณ์ การจัดบ้านพักรับรองที่มีความปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว สร้างสภาพสุขกาย สุขใจ การปฏิบัติภารกิจบริหารประเทศ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

ในอดีตเคยกำหนดสถานที่บางแห่งเป็นที่พำนักนายกรัฐมนตรี เช่น บ้านพิษณุโลก แต่ปัจจุบันการบำรุงรักษายังไม่พร้อมใช้ หรือจัดให้มีใหม่เพื่อให้นายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ผู้นำอย่างสมเกียรติ รัฐจึงจัดให้มีที่พำนักตามที่กองทัพบกอนุมัติให้ใช้บ้านพักรับรอง สนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปา ได้รับสิทธิตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบกต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรอง เป็นกฎที่ยังบังคับใช้อยู่ มิได้ถูกยกเลิกหรือเพิกถอน

ประกอบกับอดีต ผบ.ทบ.หลายท่านหลังจากเกษียณอายุราชการแล้วได้ปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงและดำเนินงานทางการเมือง กองทัพบกตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลอดีตผู้บัญชาการที่ดำรงตำแหน่งสำคัญ จึงให้มีบ้านพักรับรองในพื้นที่ของกองทัพบก เพื่อให้สามารถดำรงสถานะทางสังคมได้อย่างสมเกียรติและมีศักดิ์ศรี

ด้วยเหตุผลดังกล่าว กองทัพบกจึงอนุมัติให้ผู้ถูกร้อง เข้าพักอาศัยในอาคารที่กล่าวอ้างได้ พร้อมพิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการพักอาศัยตามความจำเป็น ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบกองทัพบก

นอกจากนี้ การให้สิทธิดังกล่าวให้สิทธิแก่ผู้บังคับบัญชาขั้นสูง ผู้เข้าเงื่อนไขมีคุณสมบัติในการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก มิใช่สิทธิเฉพาะกรณีผู้ถูกร้องเท่านั้น

ดังนั้น ผู้ถูกร้องมิได้กระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ “ผู้ถูกร้อง” มิได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม เพราะการอาศัยในบ้านพักรับรองดังกล่าว ยังเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่และสามารถใช้บ้านพักรับรองดังกล่าวเป็นที่ประชุมต้อนรับผู้นำรัฐบาลและผู้นำทางทหารจากต่างประเทศ เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองในโอกาสต่างๆ”

 

ประวัติศาสตร์ทางการเมืองต้องจารึกไว้ ก่อนหน้านี้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ผู้ผดุงความยุติธรรม เคยวินิจฉัยเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รอดมาหนหนึ่งแล้ว กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ยื่นคำร้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ถูกร้อง ต้องสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัวหรือไม่

กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเคยเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.เข้ามาจากการยึดอำนาจ และเป็นตำแหน่งหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

โดยยกเคสที่ศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2543 เคยวินิจฉัยไว้ว่า ลักษณะเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นคือ 1.ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย 2.มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย และปฏิบัติงานประจำ 3.อยู่ในบังคับบัญชา หรือในการกำกับดูแลของรัฐ และ 4.มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย มาประกอบการพิจารณา

ขณะที่หัวหน้า คสช.มาจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จึงเป็นตำแหน่งรัฏฐาธิปัตย์ ในการปกครองประเทศ เห็นได้จากการออกประกาศหรือคำสั่งหลายฉบับ หัวหน้า คสช.ไม่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาหรือการกำกับดูแลของรัฐ ไม่มีกฎหมายหรือการเข้าสู่การดำรงตำแหน่ง มีอำนาจหน้าที่เฉพาะชั่วคราวช่วงระยะเวลาหนึ่งมีอำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศ ของประชาชน

“ดังนั้น ตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่มีสถานะตำแหน่งหน้าที่หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามมาตรา 98(15)”

จึงวินิจฉัยว่า “ผู้ถูกร้อง” ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงจากสาเหตุเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รอดแล้วรอดอีก เหมือนมีเทพคอยปกป้อง และดูแนวโน้มแล้ว น่าจะถีบๆ ถอยๆ ไปได้อีกนาน คงมั่นใจว่าต้องอยู่ครบเทอม เลือกตั้งรอบใหม่ ก็น่าจะประสบชัยชนะอีกระลอก เมื่อวันวาน ที่สถานีกลางบางซื่อ “บิ๊กตู่” ถึงกับหลุดความในใจลึกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยปริศนา ว่า

“ผมจะทำงานให้ท่านจนตาย ไม่ได้หมายความจะอยู่ในตำแหน่งจนตาย แต่พร้อมทุ่มเทให้กับพวกท่านทั้งหมด ก็ขอให้ใจกับเขาสักหน่อย ของผมไม่ต้องให้ก็ได้ เพราะอย่างไรผมก็ให้กับพวกท่านอยู่แล้ว ผมอาจจะเป็นเป้าใหญ่ไปหน่อย”

เนื่องเพราะชั่วโมงนี้ พรรคการเมืองคู่แข่งอย่างเพื่อไทย ทัพแตก จัดแถวยังไม่แล้วเสร็จ ก้าวไกลถูกล่อซะงอมพระรามจำบ้านเลขที่ไม่ถูก “ม็อบเด็ก” เชิงปริมาณก็น้อยลง

“ฟันธง” ล่วงหน้าได้เลยว่า หมากแก้รัฐธรรมนูญ ที่จะเริ่มต้นด้วย ส.ส.ร. 200 คนเป็นคำตอบแรก

ส่อเค้าเล่าอาการว่า “น่าจะถูกฉีกทิ้ง”

ให้มันรู้บ้างว่าไผเป็นไผ