อุรุดา โควินท์ / ทางรอดอยู่ในครัว : แกงลูกผสมเพื่อคนชอบเผ็ด

ทางรอดอยู่ในครัว
: แกงลูกผสมเพื่อคนชอบเผ็ด

ฉันโทรศัพท์ให้ซันซื้อกะทิจากตลาดก่อนเข้ามาบ้านเรา พอวางหู ฉันก็บอกเขา “วันนี้จะแกงกะทิ แต่ไม่ใช้น้ำพริกแกงแดง ใช้น้ำพริกแกงป่า ใส่หน่อไม้ดองให้ออกเปรี้ยวหน่อยๆ”

ได้หน่อไม้ดองของแม่บุญธรรมมาหลายขวด แม่ดองไม่เปรี้ยวมาก กลิ่นดี เอามาทำอะไรก็อร่อย แต่ยังไม่เคยลองใส่แกงกะทิ

“รสมันจะเป็นยังไงนะ” เขาถาม

ฉันหัวเราะ น้ำพริกแกงป่าเป็นน้ำพริกที่เผ็ดอย่างถึงใจ เอกลักษณ์อีกอย่างคือความหยาบ เป็นน้ำพริกแกงที่ฉันรู้สึกว่าดิบเถื่อนที่สุดในบรรดาน้ำพริกแกงทั้งมวล แต่ถึงอย่างนั้น บางอารมณ์ เราก็ต้องการความเผ็ดซึ่งไม่มีอะไรแทนได้

“รู้แต่ว่าซันต้องชอบ ซันชอบกะทิ และกินเผ็ดระดับสิบ” ฉันบอกเขา

ตั้งแต่ได้ซันมาช่วยทำงานบ้าน ฉันก็เหลือเวลาไปทำอย่างอื่น และบ้านก็สะอาดขึ้น จริงๆ แล้ว ฉันชอบทำความสะอาดบ้านมาก แต่ช่วงที่เจอซัน เป็นช่วงที่ฉันหมดแรงจากปรับปรุงที่ดิน พอกินข้าวเย็นเสร็จ ร่างก็ถามหาแต่ที่นอน เป็นอยู่อย่างนั้นราวหนึ่งหรือสองเดือน กลับมาสังเกตบ้านตัวเองอีกที พบว่ามันต้องการแม่บ้านอย่างที่สุด

เขาเป็นคนเสนอว่า ฉันน่าจะหาคนมาช่วย เพราะเรายังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ เราลองหาคนเล่นๆ แล้วเราก็เจอซัน

ตั้งแต่วันแรก ฉันถูกชะตากับเธอ ฉันชอบประกายตาที่ดูมีความทะเยอทะยาน และเมื่อได้รู้จักเธอ ฉันก็พบว่า เธอเป็นคนใฝ่รู้ พร้อมที่จะทำอะไรใหม่ๆ และมีสัญชาตญาณที่ดี

ครั้นเราปรับปรุงที่ทั้งผืนเสร็จ ก็ดูเหมือนฉันจะเคยชินกับการมีเธอมาช่วย เธอทำงานละเอียด ใจเย็น ฉันไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชเธอเลย

ฉันไม่เคยคิดว่าฉันเป็นนายจ้าง ตรงกันข้าม ลึกๆ แล้ว ฉันรู้สึกติดหนี้เธอ เธอช่วยฉันได้มากจริงๆ เธอไม่เคยบ่นเรื่องขนหมา ซึ่งต้องมีเยอะมากในบ้าน เพราะเราเลี้ยงหมาในบ้าน เธอเข้ากับหมาของเราได้ดี และเธอมักมีของจากพม่ามาฝากเมื่อกลับไปเยี่ยมพ่อ-แม่

อย่างช้าๆ ซันทำให้ฉันรู้สึกว่าพม่าเป็นประเทศที่น่าอยู่เหมือนกันนะ พริกแห้งของพม่าสวยมาก มันฝรั่งทอดของพม่าก็อร่อยมาก ถั่วสัญชาติพม่าก็งามอย่างที่เราปลูกไม่ได้

ฉันมักเตรียมมื้อกลางวันที่ทั้งเธอและฉันชอบกิน ฉันรู้ว่า สำหรับคนทำงาน ถ้ามีของกินดีๆ รออยู่ เราจะมีแรงทำงานขึ้น และการทำอาหารกินเองก็ประหยัดกว่าซื้อส้มตำไก่ย่าง อร่อยกว่าด้วย

ซันวางกะทิบนโต๊ะในครัว แล้วเธอก็เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน ซึ่งอยู่ในห้องที่ฉันใช้ทำสบู่

เธอจะแวะดูสบู่ทุกครั้ง และอย่างตื่นเต้น

เธอหันมาบอก “มีลายใหม่ๆ เยอะเลย” ยิ้มหวาน

“วันนี้ต้องกลับไปกินข้าวกับลูกมั้ย” ฉันถาม ถ้าเธอต้องกลับบ้านช่วงกลางวัน ฉันจะตักแกงใส่ปิ่นโตให้เธอ
เธอส่ายหัว “วันนี้พี่แกงอะไรคะ”

“พี่จะแกงกะทิแบบลูกผสม ไม่ใช้น้ำพริกแกงใต้แต่ว่าเผ็ดมาก เป็นน้ำพริกแกงป่าจากกาญจนบุรี”

“เรื่องเผ็ดซันสู้ตาย” เธอว่า แล้วเดินไปที่ห้องสมุด เธอมักเริ่มจากห้องสมุดก่อน เช็ดกระจกสะอาดทุกด้าน เช็ดพื้น ปัดฝุ่น

ไม่เคยเสียดายเงินที่ให้เธอเลย ฉันคิด ขณะแกะหัวกะทิลงกระทะ ช่วงหลังฉันชอบแกงในกระทะ มันทำให้ฉันคิดถึงยาย และมันก็สะดวกดี

ใช้ไฟอ่อน คนหัวกะทิไปเรื่อยๆ กระทั่งแตกมันนิดหน่อย แล้วฉันก็เอาน้ำพริกแกงป่าลงไปผัดกับหัวกะทิ

ถ้าเป็นน้ำพริกแกงแดง ผัดไม่นานจะได้น้ำมันลอยหน้าสีแดง ได้น้ำกะทิข้นๆ สีแดง และได้กลิ่นเครื่องเทศ แต่กับน้ำพริกแกงป่าไม่เป็นแบบนั้น น้ำพริกแกงป่าดูไร้สีสัน และไม่อาจเป็นหนึ่งเดียวกับกะทิ

ไม่เป็นไร ฉันจะลองดู ต้องกินได้สิ

ผัดน้ำพริกได้ที่แล้ว ฉันใส่ไก่ลงไป ผัดพอให้ไก่ตึงๆ จึงเติมหางกะทิ

รอหางกะทิเดือด ก็ใส่หน่อไม้ดองฝีมือแม่บุญธรรม โดยบีบน้ำทิ้งให้หมด เพราะไม่ต้องการให้กะทิจางลง และไม่อยากให้เปรี้ยวมาก

รอเดือดอีกหน ฉันก็เติมเกลือ น้ำปลา และน้ำตาล

จากนั้นก็ชิม

ต่างจากการแกงโดยใช้น้ำพริกแกงเผ็ดมาก ทั้งที่แกงด้วยวิธีเดียวกัน ใส่ทุกอย่างเหมือนกัน

แกงกระทะนี้เผ็ดอย่างไม่มีความร้อนของพริกไทยดำ มีรสของตะไคร้ และน้ำแกงดูขาวอย่างกับจะกินง่าย

ใส่พริกแดงหั่นเฉียง โรยใบโหระพา แล้วปิดเตา เป็นอันเสร็จ

ฉันตัดสินใจซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปซื้อขนมจีน กินกับขนมจีนก็น่าจะอร่อย

กลับมาทอดไข่ดาวหนึ่งฟอง แล้วฉันก็จัดสำรับให้ซัน

ฉันกินข้าวมื้อแรกค่อนข้างสาย มื้อกลางวันของฉันจึงอยู่ระหว่างบ่ายโมงถึงบ่ายสอง แต่เธอควรได้กินตอนเที่ยง วางสำรับไว้ เดี๋ยวเธอเดินมากินเอง

ฉันมานั่งทำงานเขียนในบ้าน เมื่อฉันนั่งโต๊ะทำงาน เขามักจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้ออเมริกาโน่เย็นให้

เขาวางอเมริกาโน่บนโต๊ะ “ซันพูดคำว่าอร่อยไม่รู้กี่ครั้ง” เขาบอก

“ซันชอบเผ็ด แกงเผ็ดจริงจังไม่ประนีประนอมคงถูกใจ”

เขาหัวเราะ “ไปไหนไม่รอด เพราะมีของอร่อยให้กินแน่เลย ยังไงก็ต้องมาทำงานให้บ้านนี้ ซันเอ๋ย”

ฉันอมยิ้ม แน่ล่ะ ลองได้กินรสมือฉัน ก็ไปไหนไม่รอดทุกรายนั่นล่ะ