ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 ธันวาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
กรองกระแส
เลือกตั้งท้องถิ่น
อนาคตใหม่ ก้าวหน้า
พื้นฐาน ก้าวไกล
ไม่เพียงแต่พรรคอนาคตใหม่จะทำให้การเลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เข้าสู่จุดตัด จุดเปลี่ยนในทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยหลักการ “ใหม่” ที่ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นไปได้
นั่นก็คือ ไม่มีระบบหัวคะแนนอย่างที่พรรคการเมืองทั่วไปกระทำกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช้เงินในการซื้อสิทธิ์ก่อให้เกิดการขายเสียงอย่างที่พรรคการเมืองทั่วไปกระทำกันมาอย่างต่อเนื่อง
จุดขายอย่างแท้จริงคือ การนำเสนอ “นโยบาย”
ขณะเดียวกันจุดแปลกใหม่เป็นอย่างมากของพรรคอนาคตใหม่เมื่อนำไปเทียบกับพรรคการเมืองอื่นก็คือ ส่วนใหญ่ของผู้สมัครล้วนเป็นคนหน้าใหม่ ไม่เคยมีประสบการณ์ในทางการเมือง
น่าแปลกที่มิติใหม่เหล่านี้ทำให้พรรคอนาคตใหม่ประสบความสำเร็จ
ไม่เพียงแต่ได้รับเลือกด้วยคะแนนมากกว่า 6 ล้าน ส่งผลให้ได้ ส.ส.มากถึง 80 สามารถเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาได้
ครานี้มิติใหม่ทางการเมืองกำลังได้รับการทดสอบผ่านการเลือกตั้ง อบจ.
สังคมไทย สังคมจริง
การเมือง “ท้องถิ่น”
ต้องยอมรับว่า การเมืองระดับท้องถิ่นของใครคือเงาสะท้อนของการเมืองระดับชาติ ทุกอย่างล้วนมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันอย่างแนบแน่น
เด่นชัดว่าเป็นการเมืองของ “ผู้ทรงอิทธิพล”
เป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างที่เรียกกันว่า เป็นการเมืองของ “บ้านใหญ่” ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ไม่ว่าจะเป็น ส.ว. (หากมีการเลือกตั้ง) ไม่ว่าจะเป็น อบจ. ไม่ว่าจะเป็น อบต.
เป็นการเมืองในระบบครอบครัวและเครือข่ายเดียวกัน
ตั้งแต่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่แล้วที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศจะส่งคนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ถือได้ว่าเป็นแนวทางหนึ่งของพรรคอนาคตใหม่
แม้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ แนวคิดนี้ก็ต่อเนื่องมายัง “คณะก้าวหน้า”
คณะก้าวหน้าส่งคนลงสมัครในนามของคณะทั่วประเทศเป็นจำนวนถึง 42 จังหวัด เป็นการลงสมัครทั้งเพื่อชิงตำแหน่งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.
เป็นการส่งและรณรงค์หาเสียงในแนวทางเดียวกับของพรรคอนาคตใหม่
การต่อสู้ 2 ความคิด
การต่อสู้ 2 แนวทาง
ไม่ว่าจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคณะก้าวหน้า เมื่อเข้าสู่กระบวนการในทางการเมืองก็หนีไม่พ้นไปจากการต่อสู้ 2 ความคิด การต่อสู้ 2 แนวทาง
เป็นการปะทะระหว่างแนวทางเก่ากับแนวทางใหม่
แนวทางเก่าคือการเมืองแบบเก่า การเมืองที่มีระบบหัวคะแนน การเมืองที่มีความนิยมส่วนตัว อาศัยฐานเสียงและอิทธิพลที่สะสมมาอย่างยาวนาน
เป็นการเมืองที่อาศัยอิทธิพล เป็นการเมืองที่อาศัยเงินจำนวนมหาศาล
แนวทางใหม่ไม่ได้ปฏิเสธความจำเป็นในการใช้เงิน แต่เป็นการใช้เงินเพื่อแนะนำและเสนอตัว มิได้เป็นการใช้เงินเพื่อสร้างหัวคะแนนและทุ่มเพื่อซื้อเสียง
แนวทางใหม่เน้นในเรื่องนโยบาย ขยันขันแข็งในการพบปะกับประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อตอนเคลื่อนผ่านพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อตอนเคลื่อนผ่านคณะก้าวหน้า กลุ่มของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ล้วนอาศัยแนวทางอย่างเดียวกัน
ขับเน้นให้เห็นการต่อสู้ทางความคิด การต่อสู้ทางการเมือง
เป้าหมายการต่อสู้
รัฐราชการรวมศูนย์
การต่อสู้ของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เสมอเป็นเพียงการเริ่มต้นเพื่อสถาปนาแนวทางใหม่ กระสวนใหม่ในทางการเมือง
ประสบอุปสรรคจนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
การยุบพรรคอนาคตใหม่เพื่อสกัดขัดขวางมิให้ก้าวเดินต่อไป แต่ผลก็คือ ได้ก่อให้เกิดพรรคก้าวไกลเดินงานการเมืองในระบบรัฐสภา
และเกิดคณะก้าวหน้าเดินงานการเมืองภาคประชาชน
การส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง อบจ.ในวันที่ 20 ธันวาคม จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งซึ่งคนของคณะก้าวหน้าจะต้องเข้ารับการตรวจสอบจากประชาชนในแต่ละพื้นที่
หากได้รับเลือกก็จะต้องเข้าไปสัมผัสกับ “รัฐราชการรวมศูนย์” ครั้งใหญ่
หากได้รับเลือกก็เท่ากับบาทก้าวแรกของคนรุ่นใหม่ที่จะไปทดสอบตนเองในท่ามกลางการปะทะกับโครงสร้างของ “รัฐราชการรวมศูนย์” ซึ่งมิอาจตอบได้ว่าจะประสบผลอย่างไร
ประสบผลเหมือนที่พรรคอนาคตใหม่ประสบหรือไม่ ยังต้องติดตามต่อไป
ก้าวหน้า กับการต่อสู้
ท่ามกลางความขัดแย้ง
การเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันกับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2562 นั่นก็คือเป็นการต่อสู้ทางการเมืองในแบบใหม่
ผลก็คือ มีความเด่นชัด มีประชาชนส่วนหนึ่งเห็นชอบ
หากไม่เห็นชอบพรรคอนาคตใหม่คงไม่ได้รับเลือกด้วยคะแนนมากกว่า 6 ล้าน ทั้งๆ ที่เป็นพรรคหน้าใหม่ คนหน้าใหม่ และไม่ได้ทุ่มเงินเพื่อซื้อเสียง
ตรงนี้อาจสร้างความมั่นใจให้เดินหน้าไปกับ “คณะก้าวหน้า”
อย่างน้อยความพยายามของคณะก้าวหน้าก็ดำเนินไปเหมือนกับความพยายามของพรรคอนาคตใหม่เพื่อสถาปนามิติและสร้างนวัตกรรมใหม่ในทางการเมือง
การเมืองเชิงความคิด การเมืองของคนรุ่นใหม่