ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต/เจาะความสุดยอด ‘ซีเอ็กซ์-30’ รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2563

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

เจาะความสุดยอด ‘ซีเอ็กซ์-30’

รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2563

 

กลายเป็นอีกข่าวใหญ่ในรอบปีของวงการยานยนต์ไทยกับการประกาศผลรางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี” (Thailand Car of The Year) ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) โดยปีนี้เป็นรถยอดเยี่ยมประจำปี 2563

เนื่องจากได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดรางวัลที่น่าเชื่อถือที่สุด เนื่องจากกรรมการเป็นผู้สื่อข่าวสายยานยนต์ ที่เป็นสมาชิกกว่า 300 คนร่วมคัดเลือกรถยนต์ผลิตในประเทศและภูมิภาคอาเซียนที่จำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-กันยายน 2563

ใช้ขั้นตอนและวิธีการให้คะแนนและตัดสินรางวัลในรูปแบบเดียวกับการคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งยุโรปและรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งญี่ปุ่น

รางวัลจะมอบให้กับรถยนต์ที่เด่นที่สุด ครบเครื่องที่สุด คุ้มค่า-คุ้มราคาที่สุดเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น จากรถยนต์ทุกรุ่นที่เข้าชิงตำแหน่ง

ทั้งเป็นรางวัลเพียงหนึ่งเดียวของไทย ที่ได้รับการประกาศข่าวออกไปทั่วโลก

โดยปีนี้มีรถจำนวนมากมายเรียกว่าทุกรุ่น ทุกเซ็กเมนต์ ที่คณะกรรมการร่วมทดสอบ และดูข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ ก่อนคัดเข้ารอบสุดท้าย 7 รุ่น

1.ฮอนด้า ซิตี้ 2.อีซูซุ ดีแมคซ์ 3.มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 4.เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 300 ดี 5.นิสสัน คิกส์ 6.ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 และ 7.โตโยต้า โคโรลลjา ครอส

ผลการคัดเลือกแชมป์ตกเป็นของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-30”

ถือเป็นความสำเร็จ 2 ปีซ้อนของมาสด้า เพราะปี 2562 “มาสด้า 3” ก็คว้ารางวัลนี้ไปได้เช่นกัน

เรามาดูกันว่าอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลให้ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-30” ชนะใจกรรมการของไทย

 

ต้องยอมรับว่านับจาก “มาสด้า ซีเอ็กซ์-30” แนะนำออกสู่ตลาดโลก กวาดรางวัลแทบทุกประเทศที่ไปเปิดตัว เพราะเป็นรถที่ครบเครื่องทั้งความสวยงามทั้งภายนอก-ภายใน เครื่องยนต์ ความไฮเทคต่างๆ ที่อัดเข้ามาชนิดไม่เกรงใจคู่แข่ง

รวมถึงราคาค่าตัวที่ถือว่าเกินออปชั่นไปพอสมควร

มาสด้า ประเทศไทย ส่งรุ่นนี้เข้ามาเป็นตัวเลือกแทรกกลางระหว่างซีเอ็กซ์-5 และซีเอ็กซ์-3 เพื่อเจาะตลาดคนที่อาจรู้สึกว่าซีเอ็กซ์-3 เล็กไป ส่วนซีเอ็กซ์-5 ใหญ่ไป และราคาอาจกระโดดไปสักหน่อย

ซีเอ็กซ์-30 ยังใช้พื้นฐานเดียวกับมาสด้า 3 ขณะที่ซีเอ็กซ์-3 ใช้พื้นฐานของมาสด้า 2

มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE พัฒนาจากท่วงท่าของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล

หน้าตาภายนอกกระจังหน้าขนาดใหญ่คล้ายซีเอ็กซ์-5 ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบของมาสด้าในรุ่นหลังๆ ทั้งหมด ตัดขอบล่างด้วยสีเงิน

ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์เลนส์ LED พร้อมระบบ ALH (Adaptive LED Headlamps)

โคมไฟหน้าและโคมไฟท้ายออกแบบโฉบเฉี่ยว รูปทรงกระบอกอันประณีตของแสงรูปวงแหวนจะเห็นเด่นชัดในตอนกลางคืน

ซุ้มล้อด้านหลังยื่นเด่นออกมาจากห้องโดยสาร รวมกับรูปทรงโค้งของประตูท้าย ด้วยความเหมือนรถสปอร์ตที่ดูกว้างและการเคลื่อนไหวที่แสดงออกถึงความดึงดูดทางอารมณ์เอกลักษณ์ของ KODO

ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ล้ออะลูมิเนียมอัลลอย ขนาด 18 นิ้ว และ 16 นิ้ว

 

ภายในใช้สีทูโทนดำ-น้ำตาล ตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม มีลูกเล่นเป็นปีกเชื่อมจากคอนโซลหน้ามาถึงบานประตู

จุดเด่นเน้นความเรียบหรู โดยเฉพาะแผงด้านหน้าดูเหมือนไม่มีปุ่มอะไรมาก ออกจะดูเรียบๆ

พวงมาลัยระบบมัลติฟังก์ชั่น มีแพดเดิลชิฟต์ หรือปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่หลังพวงมาลัยมาให้ด้วย

เรือนไมล์แบบ 3 วงกลมขนาดใหญ่ พร้อมจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว

มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน

การแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ขยับไปอยู่บนคอนโซลลักษณะลอยตัว

ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ (Center Commander) และระบบแสดงตัวอย่างเมนูที่ใช้งานง่าย

เชื่อมต่อ “Mazda Connect” รุ่นเดียวกับมาสด้า 3 ใหม่ ผ่านสมาร์ตโฟน อินเตอร์เน็ต และการเชื่อมต่อการสื่อสาร

ระบบเสียง “Mazda Harmonic Acoustics” ลำโพง 12 ตัว พัฒนาร่วมกับ “Bose Corporation” บอกเลยว่าเสียงดีจริง ไรจริง ไม่ต้องไปทำเพิ่มแล้ว

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ 2 ตำแหน่ง

เบาะหลังแบบพับได้ 60:40 แยกอิสระจากกัน

 

ขุมกำลัง SKYACTIV-G 2.0 ความจุ 1,998 ซีซี กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ SKYACTIV-Drive 6 สปีด พร้อมแมนวลโหมด รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง E85

ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ดิสก์เบรก 4 ล้อ

ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้งสี่ให้ดียิ่งขึ้น

ปลอดภัยสูงสุดด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE อาทิ ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance, ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R, ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง

 

ผมเองเคยมีโอกาสขอยืมมาทดสอบขอบอกโดยสังเขปว่าประทับใจทั้งรูปร่างหน้าตา ความสะดวกสบาย และอารมณ์การขับขี่

อัตราเร่งมาแบบจัดเต็มทุกย่านความเร็ว ยิ่งช่วงกลางไปสูง กดเป็นพุ่งติดเท้าจริงๆ

ความเร็วระดับ 160-170 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาเร็วมากแทบไม่รู้สึกตัว

พวงมาลัยจับกระชับมือ มีความแม่นยำสูง

ระบบเกียร์ลื่นไหลดีมาก ไม่มีกระตุกให้เสียอารมณ์

ส่วนช่วงล่างเซ็ตมาได้ลงตัว จะเข้าโค้งแรงๆ เบรกหนักๆ ไม่มีปัด ไม่มีเป๋ให้หวาดเสียว

ที่ยิ่งประทับใจไม่พ้นควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า ที่ให้มาในรถราคาไม่สูงมากนัก

ระบบนี้ เรดาร์หน้ารถจะจับสัญญาณระยะห่างจากคันหน้าตามที่ผู้ขับขี่ตั้งไว้ จากนั้นรถจะเร่ง-ลดความเร็วตามรถคันหน้า นอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลนบนทางโค้ง

“มาสด้า ซีเอ็กซ์-30” มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคา 989,000-1,199,000 บาท