เมอร์คิวรี่ : ผ่าเครื่องใหญ่โอลิมปิก “ปารีส 2024” ปรับตัวรับโลก(โรค)-บทพิสูจน์ทัพไทย

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยังคงต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

แต่ “คณะกรรมการโอลิมปิกสากล” (ไอโอซี) มองไกลไปข้างหน้าถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในอีก 3 ปีข้างหน้าแล้ว…

“”ปารีส 2024″” จะถือเป็นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และถือเป็นการผ่าเครื่องครั้งใหญ่ ทั้งจำนวนชนิดกีฬา และอีเวนต์ ซึ่งถูกปรับจำนวนลงในหลายชนิดกีฬา

โดยทางไอโอซีได้ประชุมวางแผนแนวทางในการแข่งขัน และสรุปชนิดกีฬากันออกมาอย่างชัดเจนแล้ว โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่กรุงรีโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล และที่โตเกียว 2020 ในช่วงปีหน้าไปอย่างมาก

อีเวนต์ถูกปรับลดลงจากโตเกียว 2020 ที่ชิงชัย 339 อีเวนต์ เหลือในปารีส 2024 ทั้งหมด 329 อีเวนต์ จาก 28 ชนิดกีฬา ได้แก่ กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, ระบำใต้น้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, มวยสากลสมัครเล่น, เบรกกิ้ง (เบรกแดนซ์), เรือแคนู, จักรยาน, ขี่ม้า, ฟันดาบ, ฮอกกี้, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ยูโด

ปัญจกีฬาสมัยใหม่, เรือพาย, รักบี้ 7 คน, เรือใบ, ยิงปืน, สเก๊ตบอร์ด, ปีนหน้าผา, กระดานโต้คลื่น, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล (ในร่ม-ชายหาด), ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ

 

สําหรับชนิดกีฬาความหวังของทัพนักกีฬาทีมชาติไทยอย่าง ยกน้ำหนัก และมวยสากลสมัครเล่น ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากเป็น 2 ชนิดกีฬาที่ถูกลดโควต้านักกีฬาลงมากที่สุดในบรรดาชนิดกีฬาทั้งหมด เพราะเป็นชนิดกีฬาที่มีปัญหาในเรื่องความโปร่งใสมากที่สุดในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งมวยสากลสมัครเล่น และยกน้ำหนัก ถือเป็นชนิดกีฬาที่ทำเหรียญรางวัลให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกมากที่สุด…

ตลอดการแข่งขันที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก จากยกน้ำหนัก ได้ทั้งสิ้น 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง ขณะที่มวยสากลสมัครเล่น 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง ส่วนอีกหนึ่งชนิดกีฬาความหวังอย่างเทควันโด ทำผลงานคว้ามาได้ 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง

อย่างไรก็ตาม อีเวนต์ของกีฬายกน้ำหนักถูกลดโควต้านักกีฬาจาก 260 คน ในรีโอ เดอจาเนโร 2016 ให้เหลือ 196 คน ในโตเกียว 2020 และลดเหลือแค่ 120 คน ในปารีส 2024 ถือเป็นการปรับลดโควต้านักกีฬาเกินกว่าเท่าตัวภายในระยะเวลาเพียง 8 ปีเท่านั้น เนื่องจากปัญหาสำคัญเรื่องนักกีฬาถูกตรวจพบสารต้องห้ามกันถ้วนหน้า จนโดนแบน และริบเหรียญรางวัลย้อนหลังกันอย่างมากมาย

ขณะที่มวยสากลสมัครเล่น เป็นชนิดกีฬารองลงมาเป็นอันดับ 2 ที่ถูกลดโควต้านักกีฬา โดยลดลงไป 34 คน เนื่องจากปัญหาเรื่องความโปร่งใสภายในสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) ทั้งเรื่องการเงิน การตัดสิน การรับสินบน จนโดนไอโอซีตัดออกจากการเป็นสมาชิก และจัดตั้งคณะทำงานจัดการแข่งขันในโตเกียว 2020 ไม่ให้ไอบ้าไปยุ่งเกี่ยวจนกว่าไอบ้าจะแก้ปัญหาภายในเสร็จสิ้นจนเป็นที่ไว้ใจของไอโอซีอีกครั้ง จึงจะสามารถกลับมาเป็นตามปกติได้

สำหรับมวยสากลสมัครเล่น ไม่ได้ปรับลดจำนวนอีเวนต์ แต่ปรับจำนวนรุ่น โดยจากเดิมชาย 8 รุ่น และหญิง 5 รุ่น เปลี่ยนมาเป็นชาย 7 รุ่น หญิง 6 รุ่น ในปารีส 2024 แต่การปรับรุ่นจะจัดในรุ่นน้ำหนักอีกครั้งให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งถือว่าเมื่ออีเวนต์ โควต้า และจำนวนรุ่นของทั้งยกน้ำหนัก และมวยสากลสมัครเล่น ถูกปรับลดลงไป จะส่งผลกระทบต่อความหวังการคว้าเหรียญรางวัลของทัพนักกีฬาไทยอย่างแน่นอน

ดังนั้น จะต้องเตรียมแผนรับมือในเรื่องนี้ด้วย

 

นอกจากนี้ อีกหนึ่งการเปลี่ยนที่มีนัยยะสำคัญแสดงออกถึงความเสมอภาคคือ จำนวนนักกีฬาชายและหญิงจะเท่ากันพอดิบพอดี แสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมทางเพศ

นับเป็นครั้งแรกในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โดยในโตเกียว 2020 มีจำนวนนักกีฬาชายอยู่ที่ 51.2 เปอร์เซ็นต์ และนักกีฬาหญิง 48.8 เปอร์เซ็นต์

แต่ในปารีส 2024 จำนวนอีเวนต์ และโควต้านักกีฬาของ 2 เพศ จะถูกแบ่งให้เท่ากันที่ 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งเพิ่มชนิดกีฬาประเภทคู่ผสม ชาย-หญิงจาก 18 อีเวนต์ เป็น 22 อีเวนต์

“คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล” กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซีเมมเบอร์ชาวไทย ระบุว่า ทางบอร์ดบริหารของไอโอซี และเจ้าภาพประเทศฝรั่งเศส ได้มีการพิจารณาร่วมกันในการประชุมออนไลน์ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา โดยอนุมัติจำนวนโควต้านักกีฬาที่จะเสมอภาคในด้านความเท่าเทียมทางเพศ โดยไอโอซีพยายามผลักดันเรื่องนี้มาตลอด

ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทยบอกอีกว่า ในโอลิมปิกปารีส 2024 จะมีการเพิ่มกีฬาอย่างสเก๊ตบอร์ด, ปีนหน้าผา, เซิร์ฟบอร์ด และเบรกแดนซ์ ขณะที่จำนวนนักกีฬารวมจะอยู่ที่ 10,500 คน ลดลงจากโตเกียว 2020 จำนวน 592 คน และจำนวนเหรียญรางวัลที่ชิงชัยในปารีส 2024 จะอยู่ที่ 329 เหรียญทอง

“ในการประชุมครั้งนี้ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ระบุว่า ด้วยจำนวนการแข่งขัน ไอโอซีพยายามทำให้โอลิมปิกปารีส 2024 เหมาะสมกับโลกหลังไวรัสโคโรนา 2019 ไอโอซีพยายามช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพ ขณะเดียวกัน ไอโอซีพยายามผลักดันความเสมอภาคทางเพศ ต่อเนื่องจากโอลิมปิกโตเกียว 2020 ซึ่งโอลิมปิกปารีส 2024 จะเป็นครั้งแรกที่จำนวนนักกีฬาชายและหญิงเท่ากัน”

คุณหญิงปัทมากล่าว

 

นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ในศึกโอลิมปิกเกมส์ ที่ก็จำเป็นต้องปรับตัวไปตามยุคสมัยที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะทั่วทั้งโลก

ดังนั้น วงการกีฬาจึงต้องมีการปรับรูปแบบให้สอดรับกับโลก (โรค) และพยายามเอาตัวรอดไปกับสถานการณ์วิกฤตของโลกใบนี้ให้ได้ในอนาคต

ในส่วนของทัพนักกีฬาไทยแม้ว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับลดจำนวนในชนิดกีฬาความหวังอย่าง ยกน้ำหนัก และมวยสากลสมัครเล่น

แต่ก็จะถือเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งสำคัญว่า ทัพไทยได้มีการปรับตัวให้อยู่รอดเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างไร?

และมีการยกระดับพัฒนาตัวเองให้ก้าวขึ้นมาทัดเทียมในระดับนานาชาติได้หรือไม่?