อุรุดา โควินท์ / ทางรอดอยู่ในครัว : เยียวยาร่างด้วยอาหารทำเอง

ทางรอดอยู่ในครัว

: เยียวยาร่างด้วยอาหารทำเอง

ฉันเห็นกางเกงยีนส์เอวสูงทรงกระบอกที่ชิกมาก เล็งมาหลายวัน เล็งไปเล็งมา อดใจไม่ไหว ต้องกดสั่งซื้อ

แม่ค้าถามขนาดเอว ฉันหยิบสายวัดมาวัดเพื่อความชัวร์ อา…ฉันผอมลง เอวลดหนึ่งนิ้ว

ฉันไม่ได้ดีใจ ฉันผอมอยู่แล้ว ไม่อยากผอมไปกว่านี้ แต่เผลอทำงานเพลินเป็นไม่ได้ ฉันจะผอมลงทันที

ฉันเป็นคนประเภทที่ถ้าสนุกกับงานจะลืมกิน ถ้าเหนื่อยมากจะไม่หิว โหยหาแต่หมอนและผ้าห่ม

ลองพิจารณาวิถีชีวิตสิบกว่าวันที่ผ่านมา พบว่าฉันเข้านอนโดยละเลยมื้อเย็นบ่อย อีกทั้งบางวันก็กินเช้าควบกลางวัน

กลายเป็นว่า ทั้งวันกินข้าวมื้อเดียว กับกาแฟ และกาแฟ และกาแฟ

“ผอมลงอีกแล้วอ่า” ฉันบ่นกับเขา
“ชั่งน้ำหนักยัง”
“ไม่ต้องชั่งก็ผอมมั้ย เอวลดลงนิ้วหนึ่ง ชั่วโมงนี้ต้องกินเท่านั้น”
เขาหัวเราะ “ก็กินน้อยทุกมื้อ จะไม่ผอมได้ไง กินเพิ่มอีกหน่อยสิ”

เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ อยากได้น้ำหนักเพิ่มเราต้องกิน กินให้บ่อยขึ้น และมากขึ้นด้วย

“กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อกันมั้ย” เขาถาม
ฉันรีบส่ายหัว ถ้าออกไปกินนอกบ้าน ก็เหมือนเดิม ไม่กี่คำก็อิ่ม อิ่มเร็วเพราะไม่อร่อย
ฉันเป็นคนเรื่องมาก ต้องยอมรับตัวเอง
“ทำเองดีกว่า” ฉันบอก
“จะเหนื่อยนะ ที่ผอมลงก็เพราะทำงานเยอะไปด้วย”

แต่ฉันจะอ้วนขึ้นก็ด้วยอาหารฝีมือตัวเอง ข้อนี้ฉันรู้ดี และเพื่อจะไม่เหนื่อยไป ฉันขอทำอะไรง่ายๆ เร็วๆ

มื้อเช้าสำคัญมาก เพราะถ้ามื้อเช้าไม่อร่อย ฉันจะกินน้อยตลอดวัน หรือไม่ก็อาจกินมื้อเดียว ต่อด้วยกาแฟ และผลไม้ -จบวันได้อย่างสบาย (แต่ผอมลง)

ในทางตรงกันข้าม ถ้ากินมื้อเช้าได้มาก ฉันจะอยากกินอาหารมื้อกลางวัน และอยากกินระหว่างมื้อ กินได้ไม่หยุดหย่อน

สำคัญเพียงนี้ ต่อให้รู้สึกเพลียนิดหน่อย ฉันก็จะทำมื้อเช้าเอง กินแล้วย่อมหายเพลีย เพราะเชื่อว่าที่รู้สึกเพลียเพราะกินน้อยไป

ฉันหลับตาคิด
โอเค อยากกินผัดผักกับข้าวร้อนๆ แล้วก็น้ำพริก หรือพริกน้ำปลาก็ได้

เปิดตู้เย็นเจอหมูแดดเดียว ซื้อไว้เมื่อไรไม่รู้ รู้แต่ว่ายังไม่เสีย เอามาทอดได้ เพิ่มโปรตีน เพิ่มความอร่อย
รีบกดหม้อหุงข้าว ข้าวหอมมะลิร้อนๆ ช่วยให้อาหารธรรมดากลายเป็นอาหารทิพย์มานักต่อนัก

มีผักกาดขาว แต่ไม่มีต้นหอม ไม่มีหมู จะทำผัดผักได้มั้ย

ตอบว่าได้และอร่อยด้วย เพราะมีเบคอน

ไม่ว่าผักอะไร ผัดกับเบคอน จะหอมอร่อยเป็นพิเศษ

หั่นเบคอนเป็นชิ้นเล็กๆ ทุบกระเทียมรอไว้ เอาผักกาดขาวมาล้าง หั่นพักในตะแกรง

ทั้งหมดใช้เวลาราว 10 นาที รอข้าวดีด ค่อยตั้งกระทะ ระหว่างนี้ ฉันเลือกจาน

จานเป็นสิ่งแรกที่เราเห็นพร้อมกับหน้าตาอาหาร ถ้าจานและอาหารส่งเสริมกัน จะทำให้เรารู้สึกว่าอาหารต้องอร่อย

ฉันอยากได้จานที่มีสีสันสักหน่อย เลือกใบใหญ่ใส่ผัดผัก มันเป็นจานสำหรับพาสต้า แต่ใส่ผัดผักได้อย่างเก๋

ผักกาดขาวเป็นผักที่มีน้ำมาก ทั้งเป็นผักที่ต้องเจอไฟนาน เพราะมีส่วนที่หนา ผักกาดขาวจึงผัดด่วนๆ เร็วๆ เหมือนผักบุ้งไฟแดงไม่อร่อย

ฉันเลือกการผัดแบบเติมน้ำนิดหน่อยเพื่อลดปริมาณน้ำมัน

เริ่มจากเจียวเบคอน ให้น้ำมันจากเบคอนออกมา ใส่กระเทียมสับลงไป ตามด้วยผักกาดขาว เร่งไฟแรงสุด ผัดให้ทั่วถึง แล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอยนิดหน่อย และเกลือ

ฉันระวังน้ำมันหอยเป็นพิเศษ เพราะถ้าใส่เยอะ ผัดผักทุกชนิดจะมีรสเหมือนกัน คือรสน้ำมันหอย ดังนั้น เบามือไว้ก่อนเป็นดี

หยอดน้ำลงไปหน่อย ช่วยให้ผักสุกง่ายขึ้น สุกเร็วขึ้น พอผักสุก ก็ตักใส่จานใบสวยที่เตรียมไว้
หมูทอดกับน้ำพริกรออยู่บนโต๊ะ เมื่อเอาผัดผักกาดขาวไปวาง มันก็กลายเป็นสำรับที่เรียกน้ำย่อยทันที

ระหว่างรอเขา ฉันคิด ทำไมฉันจึงลืม อาหารอร่อยนั้นไม่ยาก เป็นอาหารที่ปรุงตามใจคนกิน ทำร้อนๆ ด้วยความใส่ใจ และกินขณะที่ยังร้อนอยู่

บางมื้อฉันคิด เอาเวลาไว้ทำงานดีกว่า ออกไปกินส้มตำเถอะ สรุปว่า เวลาที่เดินทางไปกินส้มตำ และรอส้มตำ มากกว่าเวลาทำอาหารกินเองเสียอีก หนำซ้ำ ยังต้องลุ้น ว่าแม่ค้าจะตำอร่อยเหมือนเดิมหรือไม่

ตักข้าวสองจานวางบนโต๊ะ เขาก็เดินออกมาพอดี

ตอนนั้นเอง ที่ฉันรู้สึก แบบนี้ล่ะเช้าที่ดี

ย่อมดำเนินไปสู่วันที่ดี

เช้าที่ดีเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม และอาหารดีๆ คิดแล้วฉันก็ยิ้มให้เขา อย่างหวานที่สุด มันคงจะหวานไปหน่อย หวานผิดที่ผิดทาง ผิดเวลาเขาจึงปล่อยก๊ากออกมา

และนั่นทำให้ฉันหัวเราะด้วย แค่ได้หัวเราะ ฉันก็รู้สึก-อยากกินข้าวสองจาน