ใส่บ่า แบกหาม : Jingle Jangle : A Christmas Journey

Jingle Jangle : A Christmas Journey

เธอจ๊ะ

Jingle Jangle : A Christmas Journey เป็นหนังเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่น่าตื่นเต้น คือนักแสดงผิวสีเป็นผู้แสดงนำ

ทุกปีๆ ฉันก็มีแต่ Miracle on 34th Street ที่ฉายเมื่อปี 1994 มีน้องมาร่า วิลสัน แสดง ฉันก็ดูซ้ำไปมาทุกปีไม่มีเบื่อหน่าย

Jingle Jangle : A Christmas Journey เลยมาทำให้รู้สึกว่าคริสต์มาสเป็นของคนทุกเพศทุกวัยทุกผิวทุกสี

เรื่องก็เริ่มที่ Jingle Jangle คือ มิสเตอร์แจงเกิล จิงเกิล เจ้าของร้านขายของเล่นชื่อ Jangles and Things ที่ลูกค้ามากมายหลั่งไหลมาอุดหนุน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาส

มิสเตอร์แจงเกิล จิงเกิล ชื่อจริงว่า Jeronicus เป็นนักประดิษฐ์ผู้มีสมองปราดเปรื่องเลื่องลือ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าและผู้ผ่านมามากมายได้พบเห็น

เจอโรนิคัสมีภรรยาแสนดีและลูกสาวน่ารัก ที่ร้านก็มีผู้ช่วย ให้เจอโรนิคัสได้จัดเวลาทุ่มเทกับงานและทุ่มเทกับครอบครัวได้พอเหมาะพอดี

Gustafson, straighten up everything
and take good care
of our new friend.
กัสตาซัน จัดการเก็บกวาดให้ทีนะ
และดูแลเพื่อนใหม่ของเราให้ดี

กัสตาซันเป็นผู้ช่วย กระตือรือร้นอยากเป็นนักประดิษฐ์ หวังจะเรียนรู้จากเจอโรนิคัส แต่ความทะเยอทะยานมันทะลุเพดาน มันทำให้รอไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากรอ อยากให้ผู้คนเห็นว่าเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นในวันนี้พรุ่งนี้เลย

“เพื่อนใหม่” คือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดของของเจอโรนิคัส เป็นหุ่นตุ๊กตามาทาดอร์ พูดได้ โต้ตอบได้ ตั้งชื่อว่า Don Juan Diego

ดอนฮวนดิโอโก้ท่าเยอะ ก็รู้หรอกว่าเป็นมาทาดอร์ แต่ตอนไม่ต้องสู้กับวัวกระทิง ไม่ต้องท่ามากขนาดนี้ก็ได้ไหม? แล้วดอนฮวนดิเอโก้พูดก็เยอะจังเลย ฟังแล้วเหมือนโม้มากกว่าช่างพูด สังหรณ์ใจว่าจะเป็นคนไม่ดี

When the bull sees me,
he slays himself.
เมื่อวัวกระทิงเห็นฉัน
มันก็ฆ่าตัวตายเลย
อู้หู เพียงแค่เห็น วัวล้มตายเลย!
You can throw roses at my feet later.
เดี๋ยวโยนดอกกุหลาบมาแทบเท้าฉันเลยนะ

ตามธรรมเนียมการสู้วัวกระทิง เมื่อผู้ชมพึงพอใจการต่อสู้ของมาทาดอร์ ซึ่งส่วนมากก็ต้องแสดงการฆ่าวัวให้สำเร็จเสร็จสิ้น ผู้ชมก็จะโยนดอกกุหลาบลงมาในสนามประลอง แล้วมาทาดอร์ก็จะหยิบขึ้นมาและโยนกลับขึ้นไป ผู้ชมก็จะแย่งกันรับและเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกว่าดอกไม้ดอกนี้มาทาดอร์ได้สัมผัสแล้ว แต่บางทีก็เป็นดอกไม้อื่นได้ และเป็นหมวกก็เห็นเขาใช้โยนกัน

I like when people stare at me.
ชอบจังเวลาคนมากมายมาจ้องมองฉัน

ดอนฮวนดิเอโก้แปลกหรือนิสัยไม่ดี อยากรู้ให้แน่
และเมื่อดอนฮวนดิเอโก้ได้ยินเจอโรนิคัสพูดบางอย่าง

Soon, there’ll be a million of ’em.
One for every child in the world.
ไม่ช้าไม่นานจะมีอีกเป็นล้านตัว
เด็กทั้งโลกจะมีคนละหนึ่งตัวเลย

ดอนฮวนดิเอโก้ตกใจ ตะโกนลั่นๆ อยู่คนเดียว

I am one of a kind!
ฉันเป็นหนึ่งเดียวสิ!

one of a kind หมายถึง ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร สิ่งนี้แบบนี้มีสิ่งเดียวเป็นหนึ่งเดียวในโลก

ดอนฮวนดิเอโก้ยอมไม่ได้ จึงใช้วาจาและเล่ห์กลที่มีในตนหว่านล้อมให้กัสตาซันคล้อยตามทำชั่ว

That book of inventions
can belong to us.
สมุดรวมสิ่งประดิษฐ์นั่น
จะเป็นของเราก็ได้นะ
แปลว่า ไปเอามาเป็นของเรา

กัสตาซันชะงักไป แบบนั้นเรียกว่า “ขโมย” แต่ดอนฮวนดิเอโก้บอกว่า “ขอยืม”

Together, we can build an empire.
And the name Gustafson will shine brighter
than a thousand Spanish skies.
เราสร้างอาณาจักรด้วยกัน
ชื่อกัสตาซันจะโชติช่วง
กว่าหมื่นพันผืนฟ้าใดในสเปน

สรุปคือกัสตาซันกับดอนฮวนดิเอโก้ร่วมใจ “ขอยืม” จนปาเข้าไปสามสิบปีเข้านู่น ก็ยังไม่คืน!

พอสมุดรวมสิ่งประดิษฐ์นั่นโดนขโมยไป เจอโรนิคัสก็เสียใจ แล้วเคราะห์ก็ซ้ำกรรมก็ซัด ภรรยาผู้เป็นที่รักก็มาตายจากไป เจอโรนิคัสหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ลูกสาวคนเดียวก็ไม่เหลียวแล

But the loss was too great.
And Jessica, too small.
ความสูญเสียนั้นมันใหญ่ไป
เจสสิก้าก็เล็กเกิน

เจสสิก้าก็โตมาอย่างเหงาๆ เปล่าเปลี่ยวเดียวดาย

Eventually, it became clear.
She hadn’t lost just one parent.
สุดท้าย มันก็ชัดเจนแล้วว่า
เจสสิก้าไม่ได้เสียแต่แม่
เสียพ่อไปด้วย และเมื่อถึงวัยที่จะดูแลตนเองได้ เจสสิก้าก็จากบ้านจากพ่อไปแบบไม่มีการลังเล
เจอโรนิคัสก็กลายเป็นชายแก่รับซ่อมนาฬิกา ซ่อมของใช้ที่ชาวบ้านเอามาให้ซ่อม ร้านของเล่นแสนสนุกก็กลายเป็นร้านรับจำนำของเก่า อับๆ ทึมๆ มีความเศร้าสร้อยน้อยใจไม่ต่างกับเจ้าของ

เรื่องสนุกเกิดขึ้นก็เมื่อเจสสิก้ารู้สึกว่าได้เวลากลับไปหาคำตอบ ว่าพ่อกับเรานั้นจะสมานใจกันได้ไหม
เจสสิก้าเลยส่งลูกสาวมาให้อยู่กับคุณตาในช่วงเวลาคริสต์มาส

ช่วงนั้นคุณตาก็ประสบปัญหาด้านความเป็นอยู่ไม่น้อย ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่จ่าย ที่แย่ไปกว่านั้น ธนาคารก็ตามมาทวงเงิน
Something that will show the bank
they’ve made a return on their investment.
คุณต้องมีอะไรไปให้ธนาคารดู
ว่าเงินที่เขาลงทุนมันเกิดดอกผล
คุณตาเริ่มกลุ้มใจ กลุ้มใจที่หลานมาอยู่ด้วยอีก

ข้างฝ่ายกัสตาซันก็ประสบปัญหา กิจการจากที่เคยรุ่งโรจน์โชติช่วง ทยอยผลิตสิ่งประดิษฐ์ในสมุดออกขาย เวลาผ่านไป 30 คริสต์มาส หรือก็คือ 30 ปี ก็หมดเกลี้ยง คิดเองก็ไม่ได้ เลยต้องกลับมาแอบดู จะได้หาทางขโมยอีก

สนุกดีหนา หนังเป็นหนังเพลง มีร้องเพลงและเต้นสลับกันไปกับพูดคุย บทเด็กหญิงนักประดิษฐ์ก็ดี ฉันชอบ ให้เด็กผู้หญิงผิวสีฉลาดเฉลียวกับเขาบ้าง

ที่สำคัญหนังนำไปสู่คริสต์มาสสปิริต อยากออกจากบ้านไปร้านของเล่นเดี๋ยวนี้เลย

หนังเรื่องนี้ดูแล้วชื่นใจ ได้เห็นคนสองวัยผูกพันกัน น้ำตาจะไหลตอนคุณตาสอนหลาน “Never be afraid when people can’t see what you see. Only be afraid if you no longer see it.” หลานอย่ากลัวที่คนเขาไม่เห็นอย่างที่หลานเห็น จงกลัวก็ต่อเมื่อเราไม่เห็นสิ่งนั้นแล้วต่างหาก

เราต้องไม่กลัว ชนใดมีอุดมการณ์ก็ดีแล้วชอบแล้ว รักษาไว้ ดำเนินชีวิตไปตามนั้น มันจะสิบปียี่สิบปีหรือสามสิบปีผ่านไป ให้เรายึดมั่นไว้ คนอื่นจะเห็นอย่างเราจนได้ในที่สุด ฉันเชื่อเช่นนั้น

ฉันเอง