กรองกระแส / ปักธงความคิด จาก เยาวชนปลดแอก ทะลุไปยังปี 2564

กรองกระแส

 

ปักธงความคิด

จาก เยาวชนปลดแอก

ทะลุไปยังปี 2564

 

ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ “เยาวชนปลดแอก” ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเดือนกรกฎาคม ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ “ข้อเดียวมูฟเมนท์” ในเดือนธันวาคม

เป้าหมายในทาง “ยุทธศาสตร์” เป็นอย่างเดียวกัน

เพียงแต่ “ยุทธวิธี” ของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อเดือนกรกฎาคม คือการใช้รูปการชุมนุมโดยถือเอาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์

สัญลักษณ์ในทาง “ประชาธิปไตย”

หากมองในเชิง “ปริมาณ” ก็มีผู้เข้าร่วมไม่มากนัก นั่นก็คือ อย่างเก่งก็ “เรือนพัน” แต่หากเปรียบเทียบกับทุกการชุมนุมหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ก็ต้องยอมรับว่า “เรือนพัน” เป็นปริมาณที่มากเป็นอย่างยิ่ง

กระนั้น เป้าหมายอย่างแท้จริงของ “เยาวชนปลดแอก” ก็ยังเป็นการเคลื่อนไหวในทาง “ความคิด” โดยผ่านกระบวนการทาง “การเมือง”

เท่ากับเป็นการเริ่มต้น “ปักธง” ในทาง “ความคิด”

 

RT RESTART

ข้อเดียวมูฟเมนท์

ก่อนหน้าจะปรากฏเป็น RT มีการเคลื่อนไหวในทางความคิดเพื่อหยั่งเชิงและสร้างกระแสในทางสังคมอย่างเป็นจังหวะก้าว

นั่นก็คือ การเสนอคำว่า RE ขึ้นมา

อาจเป็นเพราะการเสนอพร้อมกับมีการนำเอาคำว่า “REPUBLIC” หรือ “สาธารณรัฐ” มาเป็นตัวเลือกหนึ่งจึงกลายเป็นประเด็น

สื่อหนังสือพิมพ์นำไปสะท้อนออกเป็นข่าวและบทวิจารณ์

และตีขลุมว่า “เยาวชนปลดแอก” ได้รุกคืบไปอีกก้าวสำคัญในการเปิดประเด็นว่าด้วย “สาธารณรัฐ” ขึ้นมาให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

แต่แล้วที่นำร่องด้วย RE กลับออกมาเป็น RESTART THAILAND

กระนั้น ที่เรื่องนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องกระทั่งทะลวงเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาลก็เนื่องมาจากโลโก RT คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นสัญลักษณ์ “ค้อน” กับ “เคียว”

คำว่า “คอมมิวนิสต์” คำว่า “พรรคคอมมิวนิสต์” จึงดังอึงคะนึง

 

เยาวชนปลดแอก

ข้อเดียวมูฟเมนท์

จากการแถลงของแกนนำ “เยาวชนปลดแอก” ก็ยังยืนยันในหลักการ “ประชาธิปไตย” ไม่เปลี่ยนแปลงเพียงแต่เป็นประชาธิปไตยอย่างที่เรียกว่า “สังคมประชาธิปไตย”

เหมือนในนอร์เวย์ เหมือนในเดนมาร์ก

ขณะเดียวกัน กล่าวในทางความคิดและทฤษฎีการวิเคราะห์ในทางสังคมเขากำหนดและแบ่งแยกสังคมออกเป็น 2 ส่วนภายใต้ความเหลื่อมล้ำที่ดำรงอยู่

นั่นก็คือ ระหว่างร้อยละ 1 กับร้อยละ 99

ร้อยละ 1 ถือได้ว่าเป็นชนชั้นที่ได้เปรียบ ครอบครองความมั่งคั่งไว้กับพวกของตน ขณะที่อีกร้อยละ 99 อันถือว่าประชาชนและเป็นผู้ใช้แรงงานยุคใหม่อยู่นอกวงจรความมั่งคั่ง

คนร้อยละ 99 นั่นแหละคือผู้ใช้แรงงานอย่างสาหัส

หากเทียบกับคอมมิวนิสต์ที่ถือว่าชนชั้นกรรมาชีพเป็นแกนหลัก ก็ต้องยอมรับว่ากรอบของประชาชน กรอบของผู้ใช้แรงงานของกลุ่ม RT มีความกว้างขวางมากกว่า

นี่ย่อมเป็นจุดต่างอย่างมีนัยสำคัญในทางความคิด

 

ปักธงทางความคิด

เคลื่อนไหวปี 2564

หากยอมรับว่าการปรากฏขึ้นของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อเดือนกรกฎาคม คือการปักธงในทางความคิดว่าด้วยประชาธิปไตย การปรากฏของ “ข้อเดียวมูฟเมนท์” ในเดือนธันวาคม

คือการพัฒนาและจังหวะก้าวใหม่ในทาง “ความคิด”

อาจเป็นเพราะมีเสียงคำรามจากทำเนียบรัฐบาลให้มีการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของ RT ว่าผิดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ อย่างไร

ส่งผลให้การอภิปรายในเรื่องของ RT กลายเป็น “วาระ”

ทั้งๆ ที่ไม่ว่าจะเป็น RT โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น “ข้อเดียวมูฟเมนท์” ยังไม่มีปฏิบัติการทางการเมืองใดๆ เหมือนที่ “เยาวชนปลดแอก” เคยปฏิบัติ

แต่ก็ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์ของ RT ประสบความสำเร็จ

ไม่เพียงแต่จะมีการถกเถียงและอภิปรายในเรื่องพรรคคอมมิวนิสต์ ในเรื่องทฤษฎีของคอมมิวนิสต์ว่าล้าหลังหรือตกยุคไปแล้วหรือไม่ในศตวรรษที่ 21

หากแต่ทำให้ RT มีที่ทางในสังคมขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

 

ปักธงทางความคิด

ปฏิบัติทางการเมือง

แท้จริงแล้ว นับแต่ “เยาวชนปลดแอก” ได้ก่อการเคลื่อนไหวในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ได้ส่งผลสะเทือนในทางความคิดอย่างกว้างขวาง ลึกซึ้ง

ยิ่งเมื่อ “เยาวชนปลดแอก” ประสานกับ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”

ปรากฏว่าการเสนอประเด็นในทาง “ความคิด” ได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นำไปสู่นวัตกรรมใหม่ในทางการเมืองอันแปลกใหม่

ขณะเดียวกัน ประเด็นและเนื้อหาในทางความคิดไม่เพียงแต่จะเป็นในเรื่องของประชาธิปไตย หากแต่ยังเป็นประชาธิปไตยที่ปรากฏทางเลือกอันหลากหลาย

  เชื่อได้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะคึกคักมากยิ่งขึ้นนับแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นไป