รายงานพิเศษ / โชคชัย บุณยะกลัมพ/Facebook จะเริ่มใช้เงิน Libra ต้นปี 2021

PARIS, FRANCE - OCTOBER 21: In this photo illustration, a visual representation of digital cryptocurrency coins sit on display in front of a Libra logo on October 21, 2019 in Paris, France. Several European countries, including France, are preparing to veto the virtual currency project Libra, dangerous for the global economy, according to the French Minister of Economy, Bruno Le Maire. Libra is a cryptocurrency and virtual currency project initiated by Facebook that includes a consortium of twenty-one major corporations and international NGOs. (Photo by Chesnot/Getty Images)

รายงานพิเศษ/โชคชัย บุณยะกลัมพ

https://www.facebook.com/ChokCyberAIEntertainment/

Facebook

จะเริ่มใช้เงิน Libra

ต้นปี 2021

ในยุคปัจจุบันจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดและผู้คนหันมาทำธุรกรรมการเงินและชำระค่าบริการทางออนไลน์กันมากขึ้น

การปฏิวัติพัฒนาระบบการเงินดิจิตอลของ Facebook อาจเริ่มถูกนำมาใช้ช่วงต้นเดือนมกราคม 2021

หลังจากการเปิดตัวเงินดิจิตอลใหม่ที่เรียกว่า “ลิบรา” ที่ Facebook ได้พัฒนาขึ้น โดยต้องการใช้เป็นสกุลเงินดิจิตอลสากลที่นำเทคโนโลยี “บล็อกเชน” มาใช้ในการทำธุรกรรม เพื่อช่วยขจัดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายการโอนเงินข้ามประเทศ ที่ปัจจุบันต้องโอนผ่านคนกลางซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

เงินดิจิตอล “ลิบรา” (Libra) ได้เปิดตัวเมื่อปี 2019 หลังจากที่เฟซบุ๊กได้ประกาศว่าจะออกเงินดิจิตอลลิบรา (Libra) ออกมาใช้ ทำให้เป็นข่าวใหญ่โต ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็หยิบยกขึ้นมาพิจารณา

ทั้งนี้ Facebook ได้ร่วมกับ 27 พันธมิตรพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลใหม่ มีเป้าหมายเพื่อสร้าง Stablecoin (สเตเบิลคอยน์) หลายสกุล สำหรับนำมาใช้เช่นเดียวกับ Fiat Currency หรือเงินตราที่ใช้กันในปัจจุบันที่มีค่าเงินเสถียรและไม่ผันผวนตามค่าเงินตราอื่นๆ รวมทั้งสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เช่น ทอง หรือน้ำมัน เป็นต้น

โดยเงิน Libra จำนวน 1 เหรียญ จะมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์เสมอ

นอกจากนั้น เงินดิจิตอล Libra เฟซบุ๊กจะดำเนินงานอยู่บนระบบ Blockchain ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานด้วยเงินทุนสำรอง เปรียบเสมือนธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ที่ออกใช้เงินแต่ละสกุล เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, เยน, ปอนด์, ฟรังก์สวิส, หยวน ฯลฯ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ Libra มีมูลค่าในตัวเอง และมีเสถียรภาพ

เป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาท้าทายระบบการเงินปัจจุบัน

 

Facebook ซึ่งมีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกเปิดตัวสกุลเงินดิจิตอลของตัวเองที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรและบริษัทชั้นนำ 27 แห่ง ทั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร บริษัทการเงิน บริษัทอีคอมเมิร์ซและเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ เช่น Paypal, Visa, Mastercard, Booking.com, Uber, Ebay และอื่นๆ

จึงทำให้เงิน Libra นอกจากจะสามารถใช้จ่ายผ่าน Facebook Messenger และ WhatsApp ได้แล้ว ยังสามารถใช้ชำระค่าบริการในการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ จ่ายค่าบริการ Uber หรือ Spotify ได้อีกด้วย

การที่ลิบรามีสกุลเงินหลักของโลกถึง 6 สกุลเงินมาเป็นสินทรัพย์สำรอง เป็นหลักการันตีว่าลิบราจะมีมูลค่าค่อนข้างคงที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความผันผวนของสกุลเงินนั้นๆ ด้วย

นอกจากนี้ ลิบรายังมีแผนขยายสินทรัพย์สำรองให้ครอบคลุมสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่มีสภาพคล่อง ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีความเข้มแข็งอีกด้วย

นอกจากนี้ มีรายงานว่า Facebook อาจจะเปิดตัวแอพพ์ Novi ซึ่งเป็นวอลเล็ตสำหรับใช้ในการรับและส่งเหรียญ Libra รวมถึงอาจใช้แอพพ์ Messenger และ WhatsApp สำหรับจัดการยอดเหรียญ Libra ได้อีกด้วย

โดยอาจเริ่มใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกไม่กี่ประเทศในแถบละตินอเมริกาที่มีความพร้อมในการใช้สกุลเงินดิจิตอลก่อนเป็นลำดับแรกๆ

 

จากการเปิดตัวสกุลเงินดิจิตอล “ลิบรา” (Libra) ของเฟซบุ๊ก เมื่อปี 2019 ครั้งนั้น สร้างความกังวลให้กับธนาคารทั่วโลกรวมทั้ง “ธนาคารประชาชนจีน” (PBOC) ที่ออกมาระบุว่า สกุลเงินดิจิตอลควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลาง เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่ออัตราแลกเปลี่ยนและรักษาอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการออกนโยบายทางการเงิน

จากความกังวลต่อเสถียรภาพการเงินของจีนจึงทำให้ “ธนาคารประชาชนจีน” (PBOC) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของจีนเปิดตัวสกุลเงินดิจิตอล หรือ “คริปโตเคอร์เรนซี่” ของตนเองที่พัฒนาระบบบล็อกเชนมาใช้กับสกุลเงินหยวนแทนที่ฐานเงินสดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบปัจจุบัน สกุลเงินดิจิตอลยังจะช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนของเงินหยวนในระดับสากล

การเปิดตัวสกุลเงินดิจิตอลของ PBOC ได้ริเริ่มการศึกษาวิจัยมาเป็นเวลากว่า 5 ปี นับจากที่ “เฟซบุ๊ก” ประกาศร่วมกับ 27 พันธมิตรพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลใหม่ที่เรียกว่า “ลิบรา” (Libra)  ไม่นานนักจีนได้ทดลองใช้เงินหยวนดิจิตอลมาอย่างต่อเนื่อง

และพร้อมที่จะเปิดตัวหยวนดิจิตอล หรือชื่อเต็มๆ ว่า Digital Currency Electronic Payment (DCEP) อย่างเต็มตัวในรูปแบบของสกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางจีน (CBDC) ที่จะมาแทนที่การใช้เงินในรูปแบบเงินสดหรือรูปแบบธนบัตร

นับว่าเป็นธนาคารกลางแห่งแรกของโลกที่ประกาศใช้สกุลเงินของตัวเองผ่านธนาคารพาณิชย์ DCEP เงินหยวนดิจิตอล อาจเป็นสกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางเหรียญแรกของโลกเลยก็ว่าได้

 

เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐบาลจีนในเซินเจิ้นจัดหนักจับรางวัลหรือออกล็อตเตอรี่แจกเงินหยวนดิจิตอลมูลค่า 10 ล้านหยวน (46 ล้านบาท) เพื่อต้องการทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิตอลของจีนครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

เพราะฉะนั้น ข้อมูลการซื้อ-ขายในระบบทั้งหมดจะสามารถนำไปใช้ต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสินเชื่อ การลงทุน การซื้อประกัน โดยอาจจะคล้ายกับโมเดลการต่อยอดธุรกิจ payment หาก Libra กลายเป็น “เงินสกุลโลก” จริง และ Libra Association ก็จะเป็นเสมือน “ธนาคารกลางโลก”

ทางด้านความปลอดภัย Facebook ยืนยันว่าจะไม่มีการแชร์ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินให้กับผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาดอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่จะได้รับการยินยอมจากลูกค้าเสียก่อน

ซึ่ง Facebook คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้สกุลเงิน Libra ได้ภายในต้นเดือนมกราคม ปี 2021

 

ที่มา : https://www.engadget.com/facebook-libra-cryptocurrency-launch-january-200033579.html?guccounter=1