ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์ / JINGLE JANGLE : A CHRISTMAS JOURNEY ‘เทศกาล’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

JINGLE JANGLE : A CHRISTMAS JOURNEY

‘เทศกาล’

 

กำกับการแสดง David Talbort

นำแสดง Forest Whitaker Keegan Michael Ray Hugh Bonneville Anika Noni Rose

Madalen Mills Phylicia Rashad Ricky Martin

 

ใกล้เทศกาลคริสต์มาสแล้ว หนังคริสต์มาสจึงเริ่มออกฉายปลายปีไปจนถึงต้นปีใหม่

ช่วงนี้หนังที่เฉลิมฉลองเทศกาลนี้แต่เนิ่นๆ สักหน่อยคือ Jingle Jangle : A Christmas Journey ซึ่งชื่อเรื่องก็บอกอยู่โต้งๆ แล้วว่าเกี่ยวกับคริสต์มาส แถมยังมีเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเรื่องที่ซานตาคลอสลากเอาของขวัญมาส่งให้เด็กๆ เหมือนในเพลง Jingle Bell ที่เราได้ยินกันทั่วไปสำหรับเทศกาลนี้

แจงเกิลก็เป็นคำเลียนเสียงสำหรับจิงเกิล และเป็นชื่อสกุลของตัวละครหลักในเรื่อง ซึ่งมีชื่อว่า เจโรนิคัส แจงเกิล (จัสติน คอร์นวอลล์ ในตอนหนุ่ม และฟอเรสต์ วิตเทกเคอร์ ในตอนสูงวัย)

หนังเรื่องนี้เป็นหนังคริสต์มาสที่แปลกตาสักหน่อย คือตัวละครเกือบทั้งหมดเป็นคนผิวสี และฟอเรสต์ วิตเทกเคอร์ ก็เป็นนักแสดงผิวสีที่คงจำกันได้ว่าเคยได้รับรางวัลออสการ์จากบทบาทของจอมเผด็จการอิดี้ อามิน แห่งยูกันดา จากหนังเรื่อง The Last King of Scotland

ส่วนหนูน้อยที่เล่นบทบาทของตัวละครที่เป็นชื่อหนังเหมือนกัน คือ มาดาเลน มิลล์ ก็เป็นนักแสดงเด็กหน้าใหม่ซึ่งทำท่าว่าจะไปได้ไกลในวงการ

 

เรื่องของเรื่องคือ คุณยาย (ฟิลิเชีย ราชิด) ตัดสินใจเล่าเรื่องราวของในหนังสือนิทานเล่มใหม่ให้หลานสาวที่มีจินตนาการฟัง

และเริ่มที่เมืองเล็กๆ ที่มีสีสันสวยงามเมืองหนึ่ง ชื่อเมืองคอบเบิลตัน

ที่นี่มีนักประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านของเล่นใหญ่ในเมือง ใช้ชื่อเจ้าของร้านเป็นชื่อร้านส่วนหนึ่ง ชื่อร้าน Jangle and Things

ที่ร้านมีลูกมือฝึกงานที่อยากเป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อ กุสตาฟสัน (คีแกน ไมเคิล เบย์) กุสตาฟสันกำลังสร้างของเล่นบินได้ชิ้นหนึ่ง ซึ่งยังทำได้ไม่สำเร็จ เพราะขึ้นบินเพียงครู่เดียวก็ตกลงมาพัง

ขณะเดียวกัน เจโรนิคัส แจงเกิล กำลังรอส่วนประกอบชิ้นสุดท้ายที่สั่งมาทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะสร้างของเล่นชิ้นใหม่ที่เขาตั้งใจจะให้เด็กทุกคนได้เป็นเจ้าของ

เป็นตุ๊กตาพูดได้ เคลื่อนไหวได้ เป็นตัวมาทาดอร์ในเครื่องแบบสู้วัวกระทิง และตั้งชื่อไว้ว่า “ดอน ฮวน ดิเอโก” (ให้เสียงโดยนักร้องละติโนชื่อดัง ริกกี้ มาร์ติน)

และเจโรนิคัสก็ประดิษฐ์ของเล่นมหัศจรรย์ชิ้นนี้สำเร็จอย่างสวยงาม

ทว่า กุสตาฟสัน ผู้ช่วยในร้าน ก็โดนตุ๊กตาจอมยโส “ดอน ฮวน” เป่าหูให้ขโมยผลงานชิ้นสำคัญรวมทั้งหนังสือรวบรวมความคิดและผลงานประดิษฐ์ของเจโรนิคัสไป

เจโรนิคัสเสียใจมากจนหมดกำลังใจจะทำงานสร้างสรรค์ต่อไป และร้านขายของเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจของเขาทรุดโทรมลง เพราะเขาไม่มีสินค้าใหม่ๆ จะขายอีกต่อไป

ร้านขายของเล่นประจำเมือง แปรสภาพเป็นโรงรับจำนำไปอย่างน่าเสียดาย

และเมื่อภรรยาที่รักของเขาเสียชีวิตลง เจโรนิคัสก็ใช้ชีวิตอย่างซังกะตายไป ปล่อยเวลาให้หมดไปวันๆ โดยไม่สนใจกับลูกสาวคนเดียวที่ยังอยู่กับเขา

จนลูกสาวทนเห็นพ่อเป็นแบบนั้นไม่ได้ และจากไปใช้ชีวิตเผชิญโชคของตัวเองในโลกกว้าง

เลยส่งลูกสาววัยสิบขวบชื่อ เจอร์นี่ ที่แปลว่า “การเดินทาง” ตามชื่อหนังมาทำความรู้จักกับคุณตา ที่แทบไม่สนใจไยดีกับอะไรเลย

แต่ความเฉลียวฉลาดของเจอร์นี่ ก็ทำให้เจโรนิคัสกลับคืนสู่ตัวตนคนเดิมของเขาได้ในที่สุด

 

หนังออกจะยาวไปสักนิดสำหรับหนังครอบครัวหรือหนังสำหรับเด็กแบบนี้ มีพล็อตเกี่ยวกับกุสตาฟสันกับดอน ฮวน กับความละโมบและความไม่ซื่อสัตย์ผสานเข้ามา และให้ความรู้สึกเหมือนโรงงานของเล่นที่น่าเกรงขาม

นอกจากนั้น ยังมีเพลงแบบมิวสิคัลสมัยก่อนแทรกเข้ามาระหว่างการเดินเรื่องถึง 11 เพลง ทำให้รู้สึกเหมือนว่าหนังเรื่องนี้น่าจะตั้งใจเขียนให้เป็นละครมิวสิคัล และเพลงทุกเพลงมีการออกแบบท่าเต้นอย่างสวยงามท่ามกลางโปรดักชั่นที่มีสีสันสดใสตระการตา ที่เป็นแบบฉบับของเทศกาลคริสต์มาสที่ใช้สีเขียวตัดกับสีแดงฉูดฉาด

ตัดกันฉับอย่างไม่ต้องเกรงใจว่าจะไม่ไปด้วยกัน

 

ธีมหลักที่พบบ่อยๆ ในหนังสำหรับครอบครัว จนเกือบจะกลายเป็นธีมจำเจซ้ำซากสำหรับคนดูผู้ใหญ่ คือการเสริมสร้างความเชื่อมั่น แต่เราต้องไม่ลืมว่านี่เป็นหนังสำหรับเด็ก เพราะฉะนั้น เด็กก็คงไม่ได้ผ่านอะไรมามากพอที่จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องจำเจ

เหมือนกับว่าถ้าเราเชื่อในอะไรสักอย่าง สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นจริงขึ้นมาในที่สุด

และธีมนี้ก็ครอบคลุมเนื้อหาของหนังทั้งเรื่อง นั่นคือ เจโรนิคัสหมดความเชื่อในคุณงามความดีของเพื่อนมนุษย์ เขาจึงหมดความเชื่อในมนต์วิเศษของโลกที่เขาสร้างขึ้น และสิ่งนั้นทำให้ความสามารถในการสร้างสรรค์ของเขาหมดไปจากตัว

ความเชื่อมั่นของเขากลับคืนมาอีกครั้งเมื่อได้รับแรงบันดาลใจจากเจอร์นี่ หลานสาวตัวน้อยที่เดินทางมาพร้อมกับนำคริสต์มาสกลับคืนมาสู่ชีวิตอีกครั้ง

ถึงจะไม่มีซานตาคลอสเคราขาวพุงพลุ้ยเข้ามาหัวเราะ โฮ โฮ โฮ (กลับตาลปัตรกันสำหรับเสียงอุทานเดียวกันนี้ สำหรับคนไทย เสียงโฮโฮโฮคือเสียงร้องไห้ แต่ซานตาคลอสตัวจริงเสียงจริงต้องร้องแบบนี้ทุกที)

ทว่า ตัวเจโรนิคัส แจงเกิล นักประดิษฐ์และผู้ผลิตของเล่นให้เด็กสนุกสนานในเทศกาลคริสต์มาส ก็ไม่ผิดอะไรกับซานตาคลอสมาเองในเทศกาลนี้ค่ะ