ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
เผยแพร่ |
การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
เจ้าชายแวลเยนต์ เล่ม 2 ปี 1939-1940 (2)
ฮั่นรุกรานยุโรปอยู่นาน แม้ว่าอัตติล่าจะตายไปและกองทัพใหญ่จะถอยไป แต่กองทัพฮั่นที่แตกฉานซ่านเซ็นยังเพ่นพ่านอยู่ทั่วยุโรป บางส่วนตั้งค่ายใหญ่รอเวลาเอายุโรปคืน
กำลังพลของฮั่นต่อนักรบยุโรปเวลานั้นยังเป็น 20 ต่อ 1
ที่แพนดาริส (Pandaris) เคซาริโอ (Cesario) สกัดการบุกรุกของพวกฮั่นเอาไว้ แต่วันนี้เขาถูกน้องชายทรยศพิสคาโร่ (Piscaro) จับคุมขัง แวลพร้อมด้วยเด็กรับใช้สลิธและลาคู่ใจโสคราติสออกเดินทางไปแพนดาริส ละกองกำลังล่าฮั่นของเขาไว้ที่ช่องเขา
กองกำลังล่าฮั่น (Hun-Hunters) เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในปีที่เขียนหนังสือการ์ตูนนี้ สื่อความหมายของการเหยียดชนเผ่าฮั่นในเวลานั้น หรือเรื่องที่ฮั่นจะข่มขืนและฆ่าผู้หญิงยุโรปที่ตกเป็นเชลย
เป็นตัวอย่างหนึ่งของเรื่องที่ว่านักเขียนเขียนภายใต้บริบทของสังคมเวลานั้น อาจจะมีรูปหรือคำที่สร้างความไม่สบายใจเวลานี้บ้าง
แวลผ่านเข้าในเมืองแพนดาริส เขาปลอมตัวเป็นชาวบ้านเพื่อสืบข่าว แต่ด้วยรูปโฉม การเดินและการพูดจา ใครก็ดูออกว่าเขามิใช่ชาวบ้าน จึงถูกจับไปขังคุกใต้ดินเพื่อรอรับการทรมานอย่างง่ายดาย
คนทรยศพิสคาโร่บัญชาให้ทรมานแวลเพื่อให้บอกตำแหน่งของพวกนักล่าฮั่น แวลแสร้งทำเป็นอ่อนระโหยโรยแรงพูดเสียงเบา ครั้นพิสคาโร่เข้าใกล้เขาชิงลงมือ แวลเล่นงานพิสคาโร่หมดสติในคุกแล้วสลับชุดที่ใส่
บัดนี้พิสคาโร่มอมแมมอยู่ในชุดขอทานฉีกขาด ส่วนแวลโกรนหนวดเคราแล้วใส่ชุดเจ้าเมืองของพิสคาโร่เดินก้มหน้าออกไป
แวลอาศัยช่วงเวลาที่พวกทหารส่วนใหญ่เอาแต่ก้มหน้าเหมือนกันไม่ทันสังเกต ออกคำสั่งให้ทรมานเคซาริโอผู้พี่ชายซึ่งเป็นเจ้าเมืองที่แท้
เขาส่งสัญญาณให้เคซาริโอล่วงหน้าแล้วว่าให้แสร้งยอมแพ้และออกคำสั่งเรียกนักรบใต้ดินของเคซาริโอเข้ามามอบตัว
ด้วยวิธีนี้กองกำลังของเคซาริโอนับร้อยพันถูกกวาดต้อนเข้าสู่เขตปราสาทอย่างง่ายดาย
ที่เหลือเป็นเพียงขั้นตอนที่แวลจะมอบอาวุธให้แก่พวกเขาเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน สลิธและโสคราติสนั่งรอข่าวจากแวลอยู่นอกปราสาท เนื่องจากแวลหายไปนานแล้ว กองกำลังล่าฮั่นร้อนใจส่งฮัลตา (Hulta) ม้าเร็วหนุ่มหล่อรีบรุดมาสืบข่าว
ฮัลตาทราบจากสลิธว่าแวลถูกจับเป็นนักโทษอยู่ภายในจึงกลับไปแจ้งเซอร์กาเว็นและทริสแทรม สองอัศวินยกทัพใหญ่มาในทันทีเป็นเวลาเดียวกับกองกำลังของเคซาริโอในคุกลุกฮือด้วยอาวุธครบมือ พวกเขายึดเมืองคืนได้โดยไม่ยาก พวกฮั่นจึงถอยร่นออกจากเขตแดนยุโรปไกลออกไปอีกระยะทางหนึ่ง
แวลเดินทางกลับจากแพนดาริสมาที่ค่ายของตนเอง เขาพบว่านักรบยุโรปที่ได้ยินกิตติศัพท์ของเขาเดินทางมาสมทบจากทุกสารทิศมากขึ้นไปอีก บัดนี้เขามีทัพที่มีจำนวน 7,000 คน
การหาเสบียงดูแลคนเจ็ดพันคนมิใช่เรื่องที่เจ้าชายน้อยจะคิดออกได้ง่ายๆ อีกแล้ว
คาร์นัก ผู้นำฮั่นคนใหม่นำทัพนับหมื่นเดินข้ามทุ่งราบมาทางแวล จำนวนทัพและช่องเขาทำให้มองดูเหมือนหนวดปลาหมึกที่คืบคลานเข้ามาหลายทิศทาง แวลคิดออกแล้วว่าจะเอาเสบียงที่ไหนมาเลี้ยงกองทัพนักล่าฮั่นของเขา
ม้าเร็วฮัลตาดูเหมือนจะรู้ภูมิประเทศแถบนี้ดี ฮัลตาสามารถชี้ช่องที่แวลสามารถนำทัพเข้าตีตัดกำลังของคาร์นักได้ทุกๆ ตำแหน่ง
กองทัพของแวลเอาชนะกองทัพของคาร์นักได้อีก เมื่อฝุ่นจางแวลพบร่างของฮัลตานอนบาดเจ็บอยู่กลางสนามรบ
เขาอุ้มฮัลตากลับที่พักเพื่อให้การดูแลก่อนจะพบว่าฮัลตาเป็นสตรีร่างสูงผมทองที่สวยงามนางหนึ่ง
ที่แท้เธอเป็นประมุขของชาติพันธุ์หนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้ก่อนที่ฮั่นจะมายึดครอง
หนังสือหยุดการสู้รบชั่วคราวเล่าเรื่องโรแมนติกระหว่างฮัลตาสตรีสูงศักดิ์กับสลิธเด็กรับใช้ของแวล พอให้นักอ่านได้หายใจหายคอ
ระหว่างนั้นแวลซึ่งเหนื่อยล้ากับการเป็นผู้นำปลีกตัวออกไปหาความสงบในป่าตามลำพัง
เมื่อเขากลับมาอีกครั้งปรากฏว่านักรบยุโรปและผู้นำแคว้นอีกหลายคนมารอพบเพื่อขอให้เขานำทัพใหญ่พิชิตแพนโนเนียและกำจัดพวกฮั่นให้สิ้นซาก
เมื่อแวลในชุดตกปลาเดินเข้ามาในค่าย ผู้นำแคว้นต่างๆ ไม่พอใจที่เจ้าชายแวลเยนต์ส่งเด็กหน้าอ่อนมอมแมมมาพบ แต่บารมีของแวลนั้นฉายแสงได้ทุกเวลา เพียงเขาเอ่ยวาจา ทุกคนก็รู้ในทันทีว่านี่คือเจ้าชายแวลเยนต์รัชทายาทแห่งกษัตริย์
แวลปฏิเสธคำขอนั้นแม้จะได้รับการยกยอปอปั้นเทียบเท่าอเล็กซานเดอร์และซีซาร์
“ดาบของข้า สู้เพื่อความเที่ยงธรรมและเสรีภาพเท่านั้น” แวลประกาศ
สลิธเอาชนะใจฮัลตาและขุนนางของเธอได้ ผู้นำแคว้นต่างๆ นำนักรบของตัวกลับคืนถิ่นฐาน วันนี้ยุโรปสงบแล้ว แวลชวนเซอร์กาเว็นและทริสแทรมออกเดินทางไปโรม ระหว่างทางกาเว็นและทริสแทรมพบนักพนันจอมขี้โกงสามคน ส่วนแวลพบยักษ์ใหญ่หนึ่งตนขวางทาง
ยักษ์ใหญ่ในตำนานส่งคนแคระคนหนึ่งมาทวงของกำนัลชาวบ้านทุกปี แวลอาสาติดตามคนแคระนั้นไปจนพบหมู่บ้านของยักษ์ในหุบเขาลึกลับ ที่นั่นเหมือนสวรรค์ของยักษ์ คนแคระ คนพิการ อสุรกายผิดรูป ขอทาน คนนอก พวกเขาเห็นแรงงานชาวบ้านที่ถูกจับตัวมาช่วยกันเพาะปลูกอย่างสงบ
ที่แท้ยักษ์มิได้ดุร้าย เขาเป็นยักษ์ขี้กลัวที่ถูกกลั่นแกล้งมาตั้งแต่กำเนิดเพียงเพราะเกิดมาพิกลพิการ
เขาใช้ความน่ากลัวของตนจับชาวบ้านมาช่วยกันสร้างแดนลี้ลับเพื่อเป็นที่ลี้ภัยของเด็กๆ ที่พบชะตากรรมแบบเดียวกัน และคงข่าวลือน่าสะพรึงกลัวไว้เท่านั้นเอง
แวลรับฟังและแนะยักษ์ให้เปิดตัว ปลดปล่อยชาวบ้านที่จับมาไป ให้พวกเขาได้ไปเผยแพร่ความกรุณาและความสงบของสถานที่แห่งนี้
แวลเชื่อว่าชาวบ้านที่เคยได้รับน้ำใจจากยักษ์จำนวนมากจะเป็นกระบอกเสียงที่ดีและนำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติในที่สุด
แวล กาเว็น และทริสแทรมเดินทางต่อไปโรม ที่ริมฝั่งทะเลเอเดรียติก พวกเขาพบว่ายังมีกองกำลังฮั่นเหลืออยู่ แวลและสหายต้อนฝูงม้าป่าทลายค่ายของฮั่นอย่างง่ายดาย แล้วสอนชาวบ้านบริเวณนั้นให้รู้จักใช้ม้า สะสมอาวุธ และฝึกการสู้รบป้องกันตนเองให้ด้วย
ชาวบ้านเหล่านี้เรียกตัวเองว่าเวเนติ (Veneti) จากนั้นสามสหายออกเดินทางต่อไป พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเมืองเวนิซและกองทัพเรือของอาณาจักรเวนิซในเวลาต่อมา
สามสหายเดินทางถึงโรม พบเอเทียส (Aetius) นักรบโรมันคนสุดท้าย และจักรพรรดิวาเลนติเนียน (Valentinian) ผู้ละโมบ สามสหายเข้าไปพัวพันกับการเมืองภายในซึ่งจบลงด้วยความตายของเอเทียสและจักรพรรดิ พวกโรมันออกตามล่าพวกเขา สามสหายยันทัพโรมันที่ติดตามมากลับไป จากนั้นจึงแยกทางเพื่อสำรวจโลกใหม่สามเส้นทาง ทริสแทรมไปทิศเหนือ กาเว็นออกทะเลทางทิศตะวันตก แวลเลือกเดินทางต่อลงไปทางทิศใต้
แวลไปถึงเนเปิล ผ่านภูเขาไฟวิสุเวียส เขาถึงกับขึ้นไปดูปากปล่องภูเขาไฟที่ยังแดงฉาน จากนั้นจึงออกทะเลฝ่าโจรร้ายและพายุดำมืดเพื่อไปซิซิลี คือหน้าสุดท้ายเขียนเมื่อ 29 ธันวาคม ปี 1940
จักรพรรดิวาเลนติเนียนที่ตายนี้คือวาเลติเนียนที่ 3 เป็นหลานทวดของจักรพรรดิวาเลนตินเนียนมหาราชแห่งอาณาจักรโรมันตะวันตก ครองบัลลังก์ระหว่างปี 429-455 คือช่วงเวลาที่อัตติล่าและฮั่นรุกรานยุโรป เขาสังหารขุนพลอีเตียสแล้วถูกกองกำลังของอีเตียสสังหารในที่สุด เป็นการสิ้นสุดอำนาจของโรมันตะวันตก
ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดครั้งใหญ่เมื่อปี 79 กลบฝังปอมเปอีไว้ใต้ดิน หลังจากนั้นยังมีการปะทุอีกหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน
จัดเป็นภูเขาไฟอันตรายที่มีผู้คนอาศัยอยู่โดยรอบมากที่สุดแห่งหนึ่ง