เผยแพร่ |
---|
หากพรรคก้าวไกลมี”คณะก้าวหน้า”เป็นเหมือนแขนขาในการเคลื่อน ไหว ก็ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยก็มี “แคร์ : ขับเคลื่อนไทย”เป็นดั่งแขนขาในการเคลื่อนไหว
นี่ย่อมเป็นบทบาทและการเคลื่อนไหวในทางสังคมอันต่างไปจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองในกาลอดีต
จะเข้าใจบทบาทเช่นนี้ต้องดูสถานการณ์ของ”อนาคตใหม่”
ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ต้องคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญให้ยุบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก่อให้เกิดแม่น้ำแยกสาย ไผ่แตกกอในทางการเมืองขึ้น
บรรดา ส.ส.ที่ยังคงสถานะทางการเมืองอยู่ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปพร้อมกับการยุบพรรคได้รวมตัวกันอยู่ภายใต้พรรค การเมืองใหม่ นั่นก็คือ พรรคก้าวไกล
ขณะเดียวกัน บรรดากรรมการบริหารและส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองก็ไปรวมตัวกันภายใต้ร่มธง”คณะก้าวหน้า”
พรรคก้าวไกลเคลื่อนในสภา คณะก้าวหน้าเคลื่อนนอกสภา
สังคมรับรู้และเห็นเช่นนี้นับแต่ 2-3 เดือนภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
ภายหลังการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคเพื่อไทยจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย ไปเป็น น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พร้อมกับการมีบทบาทยิ่งขึ้นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ข่าวการจัดตั้ง”กลุ่มแคร์”ก็ปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบจากหลายคนที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย
ภาพที่ชูขึ้นสูงเด่นย่อมเป็น 1 นายพงษ์ศักดิ์ รัตพงษ์ไพศาล 1 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช 1 นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ 1 นายภูมิ ธรรม เวชยชัย
โดยมีคนเด่นคนดังอย่าง นายศุภวุฒิ สายเชื้อ อย่าง นายดวงฤทธิ์ บุนนาค อย่าง น.ส.ลักขณา ปันวิชัย อย่าง วีรพร นิธิประภา เข้ามาแวดล้อม
นี่คือการแสดงบทบาทของคนพรรคเพื่อไทยแต่เสมือนเป็นคนเสมอนอกในทางการเมือง
เมื่อมองไปยัง”คณะก้าวหน้า”ก็มองเห็นสายสัมพันธ์อันเชื่อมโยงไปยังพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับ เมื่อมองไปยัง”แคร์:ขับเคลื่อนไทย”ก็มองเห็นสายสัมพันธ์อันเชื่อมโยงไปยังพรรคเพื่อไทย
นี่คือกระบวนการอันเกิดขึ้นในท่ามกลางการพัฒนาสร้างบทบาทของการเมืองยุคใหม่ การเมืองที่สร้างสรรค์
เหมือนกับที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ กำลังขยับ