อุรุดา โควินท์ / ทางรอดอยู่ในครัว : ยำรวมโดยหลานพม่ามอญ

เพื่อนบ้าน inbox มาแต่เช้า

เขาส่งรูปต้นมะละกอมา

ชอบทำส้มตำมั้ย

มะละกออะไร ลูกดกขนาดนั้น ฉันคิด ฉันไม่ค่อยชอบทำส้มตำ แต่มะละกอดิบ เอามาแกงส้มกับกุ้งอร่อย แกงกะทิก็อร่อย ดองกินกับขนมจีนได้ อ้อ ลืมไปอีกเมนู มะละกอผัดไข่ ก็เป็นอาหารที่อร่อยเกินราคา

งั้นช่วยเรากินสักสองลูกนะ ไม่งั้นต้นมันจะหัก

 

สรุปใน inbox ไม่ถึงสิบนาที ฉันได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์จอดหน้าบ้าน เขาเอามะละกอดิบมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบาร์

บ่อยครั้งที่เขาเอาของมาให้ โดยวางทิ้งไว้แบบนี้ กล้วย มะละกอ ฟัก นอกจากเป็นเพื่อนบ้าน เขายังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนมัธยมด้วย ห้องของเราอยู่ติดกัน ฉันไม่ค่อยได้คุยกับเขานัก (จะว่าไป ช่วง ม.ปลาย ฉันไม่ค่อยพูดกับใครอยู่แล้ว) แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มีน้ำใจให้ฉันเสมอ และการให้ของเขาก็มักจะมาอย่างเงียบเชียบเช่นนี้

ฉันอยากกินแกงส้มมะละกอ แต่วันนี้ฉันต้องอยู่ช่วยซันทำงานบ้าน คงไม่ได้ไปตลาดซื้อกุ้ง เราวุ่นวายมาก เพราะมีแผนจะจัดชั้นวางจานใหม่

จานของฉันมากพอจะเปิดร้านอาหารได้สบาย และเพราะมันมากมายหลายขนาด หาตู้ยังไงก็ไม่พอ ฉันจึงเก็บจานไว้บนชั้นเปลือย

ถ้ามีคนถามว่า ฉันทำอะไรเป็นอย่างแรกในมื้ออาหาร

คำตอบของฉันคือเลือกจานที่อยากใช้มาล้าง

ฉันวางมะละกอในครัว “ควรทำส้มตำมั้ย เจ้าของมะละกออยากให้ทำ” ฉันถามซัน

“มะละกอดิบสวยๆ แบบนี้ คนพม่าเอามายำอร่อยนะคะ” เธอบอก

ยำมะละกอดิบ?

“ทำยากมั้ย ต้องใช้อะไรบ้าง” ฉันถาม

“ก็… พี่ชอบผักอะไร ใส่ได้หมดเลยค่ะ ถั่วฝักยาว ถั่วงอก อะไรอีกดีล่ะ…” ซันหยุดคิด ก่อนคว้าโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปให้ฉันดู

รูปถาดขนาดใหญ่ที่ใส่สารพัดผัก แน่นอน มีมะละกอขูดด้วย มันดูน่ากินมาก

“อันนี้คือผักที่เขาใส่ค่ะ ขายตามร้านข้างทาง เราไม่ต้องใส่หมดก็ได้ เลือกที่พี่ชอบ เดี๋ยวซันไปซื้อให้ แล้วจะแวะเอาแป้งถั่วที่บ้านมา”

ฉันทำหน้างง

“แป้งที่ทำจากถั่วคั่วแล้วบดละเอียดค่ะ ใส่ในอาหารพม่าหลายชนิด อร่อยมาก ยำมะละกอเนียะ ไม่ใส่ไม่ได้”

เราช่วยกันเลือกผัก นอกจากถั่วฝักยาว ถั่วงอก และมะละกอ เราจะใส่มันฝรั่งต้มอีกอย่าง และแคร์รอตขูดเพื่อความสวยงาม

ฉันชี้ในรูป “เอาเต้าหู้มาทอดแบบนี้ และพี่จะต้มไข่”

 

ซันหายไปราว 40 นาที

เธอกลับมาพร้อมกับวัตถุดิบ ระหว่างที่รอเธอ ฉันต้มมันฝรั่ง เราใช้มันฝรั่งสุก หั่นเป็นเต๋าเล็กๆ

มะละกอของเพื่อนบ้าน ซันขูดเป็นเส้นฝอย เช่นเดียวกับแคร์รอต ถั่วงอกลวกพอสะดุ้งไฟ ถั่วฝักยาวลวกให้สุก แล้วซอยเป็นชิ้นบางเหมือนกินกับขนมจีน

เต้าหู้แข็งนั้น ซันทอดทั้งก้อน แล้วค่อยหั่นเป็นชิ้น ส่วนฉันก็ต้มไข่และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

“ไข่เราจะไม่ยำนะพี่ เอาโรยหน้า เหมือนต้นหอมผักชี”

ฉันพยักหน้า “ว่าแต่ เราปรุงกับอะไรบ้าง เผ็ดจากไหน เปรี้ยวอะไร เค็มอะไร”

“เปรี้ยวต้องจากน้ำมะขามเปียกค่ะ ซันเตรียมมาแล้ว” เธอเทน้ำร้อนลงในถ้วยมะขามเปียก แช่ไว้ไม่นาน ค่อยเอามากรอง ได้น้ำมะขามเปียกข้นๆ ที่เปรี้ยวได้ใจ

“ใช้น้ำปลาหรือเกลือก็ได้ค่ะ แล้วก็ใช้พริกแห้งคั่วป่นหอมๆ” ซันบอก “ถ้าพี่จะใส่น้ำตาลหน่อยหนึ่งก็ได้”

ฉันเข้าใจแล้ว งั้นเราจะเอาน้ำมะขามเปียกตั้งไฟสักหน่อย เติมน้ำปลากับน้ำตาลลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ก็ได้น้ำปรุงที่พร้อมปรุง

“ยำกันเลยนะคะ” ซันส่งถุงมือให้ฉัน

 

ฉันหยิบชามสลัดออกมาหนึ่งใบ ซันใส่ผักทุกชนิดลงไปในนั้น โดยเน้นมะละกอ จากนั้นเธอก็ใส่น้ำปรุงที่ฉันทำไว้ และพริกแห้งคั่ว

ฉันใส่ถุงมือแล้ว คลุกยำอย่างเบามือและทั่วถึง

ตักแบ่งกันชิม เปรี้ยว เค็ม และเผ็ด มีหวานจางๆ อืม…จะว่าไป เปรี้ยวมะขามเปียกเนียะ เอามายำก็อร่อย แต่เราไม่ค่อยใช้ในจานยำของเรา

ซันเติมเต้าหู้ทอดลงถ้วย เติมน้ำปรุงนิดหน่อย และที่เธอบอกว่าขาดไม่ได้เด็ดขาด ก็คือแป้งถั่วของพม่า ซึ่งฉันลองชิมแล้ว คิดว่าถ้าไม่มีจริงๆ อาจใช้ถั่วลิสงคั่ว แล้วบดให้ละเอียดแทนได้

“อา…” จู่ๆ เธอก็พูด “ซันลืมไปอย่างหนึ่ง กระเทียมเจียวค่ะ พี่ถอดถุงมือก่อนก็ได้ เดี๋ยวเราใช้ทัพพีคน”

เธอตำกระเทียม เจียวด้วยไฟอ่อน โดยใส่ผงขมิ้นไปด้วย ได้น้ำมันกระเทียมเจียวสีส้มแปลกตา

ตักกระเทียมเจียวลงชามยำ โรยต้นหอมผักชี คลุกให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วตักใส่จาน โปะหน้าด้วยไข่ต้ม

 

แป้งถั่วทำให้รสยำกลมเกลี้ยงอย่างประหลาด และฉันรักกลิ่นขมิ้นในกระเทียมเจียวนั่นเหลือเกิน

เราไม่กินข้าว กินแต่ยำรวมพม่าคนละชามใหญ่ ตอนที่เธอล้างจาน ฉันพูด “พี่เคยบอกซันหรือยัง ว่ายายพี่เป็นพม่า”

“จริงเหรอคะ” เธอทำตาโต

ฉันพยักหน้า ยายเป็นพม่าเชื้อสายมอญ บางที นั่นอาจมีส่วนให้ฉันถูกชะตากับซันตั้งแต่แรก