อภิญญา ตะวันออก / ไพลินฤดูร้อน : สังวาสอากาศเทีย

อภิญญา ตะวันออก

เหตุดาดๆ ที่โยงเวลาเดิมเมื่อหลายปีก่อนตอนที่ฉันตัดสินใจหิ้วกระเป๋าไปพักที่โฮเต็ลของยายกะโปดที่เมืองไพลินและเป็นครั้งแรกที่ไปที่นั่น

จุดมุ่งหมายคือพักร้อนที่ไม่ค่อยจะพบกันนักหรอก เว้นเสียแต่จะมีจุดมุ่งหมายอื่น เช่น แวะพักเล่นการพนันที่บ่อนตรงชายแดนที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทย

จะว่าไป ทุกๆ เมืองขอบตะเข็บเขตแดนไทย-เวียดนามของกัมพูชาล้วนมีแต่บ่อน บ่อน บ่อน

จนราวกับว่านี่คือของกำนัลพิเศษสำหรับประเทศเพื่อนบ้านนั่น

แต่ใครกันที่เรียกเจ้าของโรงแรมนั่นว่ายายกะโปด?

ธุรกิจของเศรษฐินีเห็นได้ชัดว่าเธอน่าจะอพยพมาจากกะโปดที่ติดชายทะเลฝั่งเวียดนาม

ฉันคิดว่าคนไพลินมองนายทุนแม้แต่เศรษฐินีที่มีภาพลักษณ์จนคนหนึ่งอย่างด้อยค่า

ใช่ละ ก็เมืองนี้เคยครอบครองโดยกำลังเขมรแดงและแนวคิดสุดโต่งแบบนั้นก็ยังหลงเหลืออยู่ในผู้คน

อย่างไรก็ตาม ชื่อของยายกะโปดคือนามเดียวที่โดดเด่นมากของไพลินเช่นเดียวกับห้องพักของเธอ

โดยเฉพาะยามพลบจวนค่ำที่น่าจดจำของไพลินเมษายนนั่น แลด้วยคำว่า อากาศเทีย (อา-กาด-สะ-เทีย) นั่น ไพลินยังมีความเขียวสะพรั่ง มีแม่น้ำที่ใสราวกับไหลมาจากภูเขาอันสูงชัน

มันเป็นเรื่องน่าแปลกอยู่เหมือนกันที่ภูเขาของจังหวัดในเขมรซึ่งไม่มากแต่มักถูกจดจำ

และฉันเองก็เช่นกันที่พบว่า ความลี้ลับของภูเขากัมพูชาในเขตนี้ที่ช่างรุ่มรวยชวนให้คิดถึงมนต์ขลังคำว่าดงพญาเย็นของไทยในอดีต

จ้ะ ท่านอย่าได้ถือสาเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยของฉัน หัวเรื่องก็แค่นั้น-อากาศเทีย เรื่องของดินฟ้าอากาศที่ไม่ต่างจากชื่อของยายกะโปดนั่น!

แต่ใครกันล่ะจะอยากรู้เรื่องของยายกะโปดเล่า?

 

ฟังนะ ไพลินมีเส้นทางยาวระนาบทางตอนบนติดกับที่ราบฝั่งตะวันตกตอนล่างของพระตะบอง

แต่ทันทีที่ข้ามแม่น้ำไปเท่านั้น ส่วนอีกฝั่งตรงข้ามเป็นทิวเขาอันตระหง่าน

ตั้งแต่อดีตในยุครุ่งเรืองค้าอัญมณี ที่ทำให้ไพลินกลายเป็นเมืองลับแลที่ยากจะไปถึง ราวกับมีผู้จงใจทำให้เมืองนี้ถูกลืมเลือนในทันทีที่กองกำลังเขมรแดงกลุ่มหนึ่งเข้ามายึดครอง

ด้วยเหตุนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าของชาวนักล่าพลอยที่เคยมีชีวิตอยู่ที่นี่ในยุคก่อน

แต่พอไพลินหมดสิ้นยุคสัมปทานแร่สิน เหลือแต่เชิงเขาหินที่ขรุขระ ทุรกันดารและอากาศเทียที่ร้อนจัดนั่น จนแม้แต่กรรมกรขุดพลอยที่เก่งกาจอย่างชาวกุลาก็หายไปจากที่นี่ ราวกับไม่มีตัวตน

ไพลิน ณ วันที่เป็นเพียงทางไปสู่พระตะบอง เสียมราฐเพื่อท่องเที่ยว

จึงไม่มีอะไรให้จดจำ นอกจากฤดูร้อนที่แผดเผาไปทุกปลายอณู

นานๆ ครั้งเราจะได้ยินเสียงรถแล่นผ่านไปบนถนนในตอนกลางวันที่ผู้คนหลับใหลจากการนอนกลางวัน วัฒนธรรมเก่าแก่นี้จริงแล้วพบว่าไม่ได้มาจากอาณานิคมบารัง หากแต่ฤดูร้อนต่างหากที่นำมา ให้การพักผ่อนนี้มีกันเสมอหน้าแม้แต่ร้านรวงในตลาด

ซึ่งย้อนแย้งมากกับวิถีท่องเที่ยว

 

เหอะ ไพลินก็เหมือนกับเกือบทุกเมืองของเขมรทั่วไป ทั้งภูมิลำเนาและอากาศเทีย ทั้งหมดนอกจากพระตะบอง เสียมราฐและจังหวัดรอบทะเลสาบ ล้วนเป็นขอบแอ่งกระทะหรือไม่? โดยเฉพาะในจังหวัดชนบทใกล้เขตชายแดน และไพลินก็มีภูมิประเทศในแบบนั้น

ป่าหลายแห่งถูกทำลายเป็นที่ราบจนเหี้ยนเตียนไม่ต่างจากสุสาน ทั้งในรัตนคีรี มณฑลคีรีที่ฉันเคยเห็นมาจนไพลิน-ที่นี่ไม่มีอะไรให้แปลกใจ สำหรับนักท่องเที่ยวบางคนแล้ว ร่องรอยของสุสานเหล่านี้ เป็นเหมือนอัญมณีแห่งการเดินทาง

น่าแปลกใจว่า ฉันมักจะได้ไปอยู่ตามเมืองต่างๆ ที่ช่างคล้ายกัน? หักโค่นและเตียนราบในหลายเมืองเหล่านี้ รัตนคีรี มณฑลคีรี และไพลินที่นี่ โดยเฉพาะในเมษายนที่ร้อนราวกับพระอาทิตย์อยู่ติดศีรษะ และลมแดดที่เหนือขึ้นไปนั่น อาจกระโชกจนกลายเป็นลมหมุนวนที่เคลื่อนไปอย่างไร้ทิศทาง มันยังนำเอาขยะต่างๆ ลอยละลิ่วไปด้วย พวกเด็กๆ นักเรียนถีบจักรยานกำลังกลับบ้านตอนกลางวันต้องต่อสู้กับลมนั่น

ช่างเป็นภาพที่น่าจดจำ สำหรับฉันที่วันๆ เอาแต่มองออกมาจากสันตาเคีย/โรงแรมยายกะโปด ตรงปีกห้องพักซ้ายสุดนั่น พัดลมเตียงเดี่ยว ห้องน้ำชักโครก ทีวีหนึ่งตัว ราคาต่อคืนสองร้อยบาท

มันป็นความจริงที่ฉันมานอนสูดอากาศเทียแบบเขมรวันละสองครั้ง ตอนรุ่งอรุณสาง และยามบ่ายที่ลมแดดพัดมาอุ่นสบาย นับตั้งแต่วันแรกที่มันมาเยือน และก่อนวันสุดท้ายที่มันจากไป

เด็กยกกระเป๋าของยายกะโปดที่อายุแก่ดึกและอาจทำให้เรารู้สึกหวาดระแวง แต่ทันทีที่ประตูเปิดและกระเป๋าเดินทางถูกส่งเข้าไปในนั้น

ไฟดวงหนึ่งถูกเปิด ลมเพดานที่หมุนไปมาราวกับจังหวะรำวงสาละวันตอนที่มันหมุน ด้วยลีลาอันน่าทึ่ง เขาสาธิตการกดรีโมตโทรทัศน์ ตบป้าบเข้าที่หมอนบนเตียง พลางเชื้อเชิญราวกับว่า นี่คือบริการอันสูงส่งที่ฉันจะได้รับเช่นเดียวกับค่าทิปของเขาด้วย

จากวันนั้นมา การบูชาอากาศเทียของฉันก็เริ่มต้น

 

ตามสายลมเย็นสบายก่อนฟ้าสาง ฉันจะออกมาสูดอากาศจากขุนเขาที่เยื้องออกไปทางระเบียงข้าง จากนั้นการมองลงไปในห้องครัวด้านหลังร้านอาหารของโรงแรมก็เป็นความเพลิดเพลินที่พอกัน และความพึงพอใจที่ง่ายๆ แบบนั้น จะกลับมาเยือนอีกครั้งในตอนค่ำ เมื่อตะวันตกดินและผืนที่ราบของเมืองไพลินเบื้องล่าง ดูจะเหยียดยาวออกไป

ช่างเป็นเรื่องที่ชวนให้เหลวไหล สำหรับนักบูชาอากาศเทียนั่น ตั้งแต่วันแรกของการมาเยือน การอ่านหนังสือดูจะเป็นความรื่นรมย์ แม้ไพลินจะกันดารกว่าทุกเมืองที่พบพาน พนมเปญ พระตะบอง หรือกำโปดรวมกัน

แต่บางทีเรื่องราวการตากอากาศแบบนั้น เราจะได้เห็นกันของพวกกินดื่มด่ำฝุ่นฤดูร้อนบนถนนลูกรังที่นักท่องเที่ยวพวกหนึ่งกำลังตะบึงมอเตอร์ไซค์

หรือนี่คือเรื่องเล่าการตากอากาศของใคร? หรือฉันเพียงบอกเล่าเรื่องอะไร?

วิถีเฉื่อยเนือยชนบทของเขมร? อากาศเทียอันร้อนคลั่งนั่น ช่างเป็นวิถีที่ไม่ค่อยจะปกติหรือไม่สำหรับการเดินทางของเรา-นายสารถีมอเตอร์ไซค์ ระหว่างที่ราบรอยต่อของพระตะบอง-ไพลินตอนขากลับที่เรากำลังเผชิญกับระยะทางอันผกผันกับเวลา

เมื่อตะบึงไปข้างหน้า อย่างไม่คาดนึกมาก่อนว่า ในความมืดแห่งรัตติกาลที่มาเยือน ในค่ำคืนที่มืดมิด มีดวงดาวพราวพร่าง จู่ๆ ฉันก็พบกับคณะผีตาโขนที่แสดงโดยชาวเขมร ดูเหมือนการร่ายรำเพื่อร่ายบุญของพวกเขากำลังจู่โจมมาที่เรา

ขณะที่เคลื่อนมาใกล้ ในความมืด แสงวิบวาบจากโคมและไต้ไฟ ฉันหายใจระทึก และตกใจขนหัวลุก

 

เยี่ยงนี้ อากาศเทียทุกหนแห่ง ภูมิ หมู่บ้าน พนม ตำบล ตามพุ่มไม้ คันนา และป่าแห่งฤดูกาล หากออกไปจากจุดนั้น การเดินทางด้วยเส้นทางอันเหยียดยาวและเต็มไปด้วยหลุมบ่อนั่น สำหรับทิวเขาโล้นยืนทะมึน ความสงบงามกึ่งชวนทัศนาอีกอากาศที่ร้อนแล้งนั่น

กลับสมบูรณ์ไปกว่านั้น หากไม่ถูกรบกวนด้วยความระแวงที่ปรุงแต่งขึ้นมาจากตัวฉัน

อา มันเป็นแบบนี้เอง ไม่ช้า เมื่อลิ้มรสผลมะม่วงป่า ลูกหว้าและผลไม้ฤดูร้อนอื่นๆ รสชาติหวานฝาดเจือเปรี้ยวจากกระท่อมไม้หลังหนึ่งริมถนนชายป่า

พลันความรู้สึกปลดเปลื้องเยียวยาของจิตใจผู้สัญจรที่อ่อนล้า ก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมา

และพบว่า ในที่สุดความเศร้าก็ได้รับการเยียวยา