ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 พฤศจิกายน 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | อาณาจักรใจ |
เผยแพร่ |
…จึงเมื่อแสงแดดส่องท้องถนน
ก็ย่างตีนเหยียบบนใบไม้เกลื่อน
วะวิบวับรับเงามาเย้าเยือน
พลันฟ้าเหมือนแว่บฉายประกายรุ้ง…
แต่โอ้รุ้งพุ่งสายเพียงพรายวาบ
ก็เงาทาบอาบทับลงยับยุ่ง
เหมือนแมวข่วนตะกายอยู่ในมุ้ง
กูจะมุ่งทางใดสู่ไหนกัน
[…รวยรื่นชื่นรศเสาวคนธ์
ปนกลิ่นแก้มน้องเกษมสันต์
หอมกลิ่นบุปผาพนาวัน
พระจันทร์ดั้นขึ้นแดงดวง
ส่องต้องบุปผาชาติสะอาดช่อ
อ่อนละออเกสรขจรร่วง
ตูมติดพลิดผลิเป็นพุ่มพวง…
บทกวีผลิร่วงอีกเนืองนอง
เมื่อขุนแผนแสนชั่วเอาตัวรอด
สวมสอดรึงรัดแม้ปัดป้อง
บังคับขืนใจในวันทอง
ด้วยต้องการเจ้าจะเอาซ้ำ
ต่อให้วันทองจะร้องขัด
ก็ปัดตกทุกกระดานต่ำ
หมากเบี้ยเสียออกผู้ชอกช้ำ
คือนางผู้ถูกนำอยู่จำใจ
วันทองก้มหน้าตาตะแคง
นี่ใครแกล้งหรือว่าอย่าไปไม่
สะบัดหน้าลุกมาด้วยขัดใจ
ไปไปเร็วเร็วจะวิ่งตาม
น้องเอ๋ยพี่ไม่เคยพื้นกระดาน
คร้ามจ้านระวังตัวด้วยกลัวหนาม
จะจูงมือรื้อรุดสะดุดชาม
กระเบื้องจะปามเข้าอย่าวิ่งเลย
น่าแค้นแน่นใจกระไรหนอ
เฝ้าพูดพ้อไปทีเดียวพ่อแม่เอ๋ย
ว่าพลางย่างไปมิได้เงย
ล่วงเลยลัดออกจากห้องนอน]
อันว่ากาเมสุมิจฉา
โลกีย์มีมาแต่กาลก่อน
หากเมื่อคิดทวนอยู่หวนย้อน
เจ็บร้อนก็ด้วยฅวยนำทาง
[จิ้งหรีดหรีดหริ่งระงมใจ
รองไนกริ่งกริ่งมารอบข้าง
จักกระจั่นสั่นเสียงเสนาะคราง
เมื่อแสงทองส่องสางสุธาดล
สกุณากาแกเซ่ซ้อง
ชะนีคะนองเหนี่ยวไม้ในไพรสณฑ์
เมื่อแสงอาทิตย์ผิดวิกล
วะโหวตโหวยเวียนวนว่าเลือดย้อย
เสียงเย็นยะเยือกบนปลายไม้
ไหวไหวผัวโวยละโหยห้อย
เห็นคนขนลุกกระโดดลอย
ลูกน้อยแล่นไล่กันตามลิง
ลางลิงเด็ดลูกมะปรางปริด
ลางลิงไล่ติดกันวุ่นวิ่ง
ลางลิงชิงค่าลางลิงชิง
กาหลงลงกิ่งกาหลงลง
เพกากาเกาะทุกก้านกิ่ง
กรรณิกากาชิงกันชมหลง
มัดกาการ้องออกก้องดง
กาฝากกาลงทำรังกา
เสือเพ่งแลดูลูกตาเสือ
ฟานฟืดฟานเฝือหูกวางป่า
อ้อยช้างช้างน้าวเป็นราวมา
สาลิกาเกาะกิ่งพิกุลกิน
เขาคุ่มกะลุมภูคูขันก้อ
นกกระทาปักกร้อในไพรสิณฑ์
คิริบูนบนป่ากระพือบิน
ขมิ้นจับโมกไม้อยู่ชายไพร
ดั้นตัดลัดออกไปนอกทุ่ง
นกกระทุงโทนเที่ยวอยู่ขวักไขว่…]
บทกลอนซ่อนเรื่องอยู่เนืองไป
กูไซร้อย่าเป็นเช่นฝูงชาย
ชีวิตจิตใจมีราคา
ความรู้สึกมีค่ากว่าซื้อขาย
รักษาศักดิ์ศรีมียางอาย
ฉิบหายก็ให้แต่เพียงตัว
ความรักภักดีที่เขามอบ
ใช่ตอบด้วยเท้าเข้ายีหัว
อาศัยศรัทธามาพอกพัว
ทำชั่วแล้วกลับระยับงาม
แปรทุกข์เป็นสุขได้ทุกเมื่อ
เกินเหลือผู้ใดจะปรามห้าม
พาเข้าป่าพงดงหนามลาม
กลับพลิกว่าป่างามชื่นตาจริง
[…เป็นตายก็ตามแต่เวรา
จะพาไปให้ตลอดแม่ยอดมิ่ง
กอดจูบลูบหลังไม่ชังชิง
นิ่งเถิดรักแล้วอย่าเคืองใจ
วันทองข่วนหยิกพลิกผลัก
อย่ามารักเลยข้าหาให้ชมไม่
ช้ำเสียเปล่าเปล่าเอาอะไร
หรือจะเอาค่าจ้างให้ขี่ม้ามา…
…วิ่งลมออกหูวะวู่เวียน
วันทองแอบแนบเนียนสนิทหน้า
ฉวยฉุดหยุดม้าบ้างเถิดรา
ฟ้าผ่าเถิดจะตกลงตายแล้ว…]
ว่าพลางทางท่องร้อยกรองอยู่
สะกดหูตาซ่อนกับกลอนแก้ว
จนผ่านโค้งรั้วผุทะลุแนว
เห็นตึกแถวหลังเก่าปะทะตา
อึกทึกผู้คนและรถแล่น
ดูเนืองแน่นเขม่าควันเข้าหน้า
ประหนึ่งตื่นจากฝันพลันเบิกตา
กูจากมาโดยไร้สิ้นใบแดง