ล้วงลึกเรื่องน่ารัก ของกมลา แฮร์ริส

พิศณุ นิลกลัด

กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่โจ ไบเดน และเธอ ชนะโดนัลด์ ทรัมป์ และไมก์ เพนซ์ ในการเลือกตั้งที่ตอนนี้ทรัมป์ยังไม่ยอมรับผลว่าตัวเองเป็นผู้แพ้

แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นประเทศที่ให้ความความสำคัญกับความเท่าเทียมของหญิงและชายอย่างยิ่ง

แต่ไม่น่าเชื่อว่า นับตั้งแต่จอร์จ วอชิงตัน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 1789 โดยมีจอน อดัมส์ เป็นรองประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา และต่อมาในปี 1797 จอน อดัมส์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 2 ต้องใช้เวลายาวนานถึง 231 ปี

กว่าที่อเมริกาจะมีรองประธานาธิบดีเป็นผู้หญิง

ในวันที่กมลา แฮร์ริส กล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะเป็นครั้งแรก เธอพูดไว้อย่างซาบซึ้งว่า

“While I may be the first woman in this office, I will not be the last, because every little girl watching tonight sees that this is a country of possibilities.”

แปลว่า แม้เธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ แต่เธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนสุดท้าย เพราะเด็กหญิงตัวน้อยๆ ทุกคนที่กำลังชมอยู่ในขณะนี้ได้เห็นแล้วว่านี่คือประเทศแห่งความเป็นไปได้

นอกจากกมลา แฮร์ริส วัย 56 ปี จะเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกาแล้ว

ดักลาส เอ็มฮอฟฟ์ (Douglas Emhoff) สามีที่อายุมากกว่ากมลา 7 วัน ยังเป็นสุภาพบุรุษหมายเลข 2 หรือ Second Gentleman คนแรกในประวัติศาสตร์ของอเมริกา

ตามธรรมเนียม ภริยาของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะได้รับเรียกว่า First Lady หรือสุภาพสตรีหมายเลข 1

ส่วนภริยาของรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะได้รับเรียกว่า Second Lady หรือสุภาพสตรีหมายเลข 2

ตอนนี้ สื่อที่อเมริกาเรียกดักลาส เอ็มฮอฟฟ์ เล่นๆ ว่า Second Dude หรือไอ้เพื่อนเกลอหมายเลข 2

ซึ่งเป็นตำแหน่งที่คนอเมริกันให้ความสนใจอยู่ในตอนนี้

ที่ผ่านมา สามีของนักการเมืองหญิงมักไม่ตระเวนหาเสียงกับภรรยา วิเคราะห์กันว่าเป็นเพราะสามีไม่อยากถูกมองว่าไม่มีงานทำ เอาแต่ติดสอยห้อยตามภรรยาไปหาเสียง ซึ่งไม่ใช่ภาพลักษณ์ของสามีที่ประสบความสำเร็จ

แต่สำหรับดักลาสหรือที่เรียกสั้นๆ ว่าดั๊ก เขาติดตามกมลาไปทุกที่ที่เธอไปหาเสียง แม้เขาจะเป็นทนายที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจบันเทิงที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้ต่อปีมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 30 ล้านบาท แต่ไม่เคยรู้สึกว่าการติดสอยห้อยตามกมลาเป็นเรื่องที่ทำให้ความเป็นชายของเขาลดลง

ดั๊กมีลูก 2 คนกับภรรยาเก่า ก่อนพบรักกับกมลาในปี 2013 จากการจับคู่ของเพื่อน

หนึ่งปีให้หลังทั้งคู่แต่งงานกัน จัดพิธีที่เรียบง่ายทั้งๆ ที่เป็นการแต่งงานครั้งแรกของกมลา

กมลาเล่าถึงตอนที่ดั๊กคุกเข่าขอแต่งงานว่า เกิดขึ้นที่บ้านขณะที่เธอกำลังวุ่นอยู่กับการสั่งผัดไทยให้มาส่งที่บ้าน โดยเธอได้ยินดั๊กพูดว่าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอตลอดไป แต่ก็ไม่ได้หันไปดูว่าดั๊กกำลังอยู่ในท่าไหน ซึ่งกมลาตอบไปว่า “That”s nice, honey.” และเธอก็ถามดั๊กไปว่า “จะกินผัดไทยไก่หรือกุ้งดี”

กระทั่งเธอหันไปมองดั๊ก ถึงได้เห็นว่า ดั๊กกำลังคุกเข่าขอเธอแต่งงาน!

ลูกติดของดั๊กสองคนเรียกกมลาว่า Momala (มัมมาลา) เพื่อจะได้รู้สึกใกล้ชิดผูกพันเหมือนกับกมลาเป็นแม่อีกคนหนึ่ง ไม่ใช่เรียกชื่อเฉยๆ เหมือนกับลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยงหรือพ่อเลี้ยงส่วนใหญ่ในอเมริกา ที่ไม่เรียกแม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงว่าแม่หรือพ่อ

ดั๊กโพสต์รูปคู่หวานๆ ของกมลากับเขาและเขียนแสดงความรักที่มีต่อกมลาอยู่เป็นประจำ ไม่เคยรู้สึกว่าการมีภรรยาเก่งทำให้ตัวเองดูด้อยลง ทำให้สาวๆ อยากมีสามีที่คอยสนับสนุน เป็นกำลังใจ ภูมิใจในตัวภรรยาอย่างดั๊ก

หนังสือพิมพ์ Washington Post ถึงกับเขียนบทความว่า ชีวิตแต่งงานของกมลากับดั๊กเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ ค้นหาเนื้อคู่ที่คอยให้การสนับสนุน หรือ “Our Doug” ให้พบ

มีคำกล่าวว่า “Behind every successful man, there”s a great woman.”

ข้างหลังผู้ชายที่ประสบความสําเร็จทุกคน มีผู้หญิงเก่งยืนอยู่

ต่อไปเราอาจได้ยินคำกล่าวใหม่บ่อยๆ ว่า “Behind every successful woman, there”s a great man.”