ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 20-26 พฤศจิกายน 2563

ขอแสดงความนับถือ

 

ชิลีกำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
ในเดือนเมษายนปีหน้า
ก่อนที่จะมีการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี 2022
อันเป็นผลลัพธ์จากจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกัน
นั่นคือการประท้วงของนักเรียนมัธยม
ซึ่งไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่ารถไฟฟ้าในกรุงซานติอาโก
แล้วค่อยๆ ลุกลามมาเป็นข้อเรียกร้องเรื่องความเหลื่อมล้ำซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในชิลี
เลยไปถึงเรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย
การประท้วงค่อยๆ ขยายตัวกระทั่งมีคนนับล้านออกมาร่วมขบวน
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 1,800 คน
นำไปสู่กระแสเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา ลาออกจากตำแหน่ง
ฝั่งประธานาธิบดีเสนอให้มีกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยให้ทำประชามติถามความเห็นประชาชน
เนื่องด้วยประชาชนมองว่ามีหลายอย่างในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นมรดกจากรัฐบาลเผด็จการของนายพลปิโนเชต์นั้นมีปัญหา
แม้ได้รับการแก้ไขไปบ้างในบางมาตราแต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ปรากฏว่า ประชาชนลงคะแนนเสียงเห็นชอบให้มีการร่างฉบับใหม่กันถล่มทลาย
โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญต้องเลือกตั้งโดยประชาชน
ไม่มีนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง
ในขบวนประท้วง ประชาชนถือป้ายเขียนข้อความส่งไปยังอดีตผู้นำเผด็จการอย่างปิโนเชต์ว่า “ลาก่อนท่านนายพล”
กว่าจะถึงวันนี้ ชิลีผ่านอะไรมาบ้าง นายพลปิโนเชต์มีเส้นทางความเป็นมาอย่างไร เขาทำอะไรไว้กับชิลีบ้าง
เรามาลองย้อนอดีตของชิลีไปด้วยกัน

นั่นคือ บทเกริ่นนำของบทความ “ชิลี : เลือดและน้ำตากว่าจะเป็นประชาธิปไตย”
ในคอลัมน์ “มิตรสหายเล่มหนึ่ง” ของนิ้วกลม (หน้า 51)
อ่านแล้ว
หลายคนคงอยากเปลี่ยนจาก “ชิลี” เป็น”ไทย”
—“ไทย” กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในเดือนเมษายนปีหน้า”—
ถ้าเป็นจริงตามนั้น คงจะดี
แต่สำหรับไทยแล้ว ยังอยู่ในแค่ระดับ “เกิดการปะทะระหว่างประชาชนกับตำรวจ”
แถมยังน่าสลดที่ “ชาวบ้าน” ยังมาปะทะกันอีก
ฝันที่จะเป็นอย่างชิลี ยังอีกนานจะกลายเป็นจริง

ขอแสดงนับถือ เขียนระหว่างการโหวตรัฐธรรมนูญ 7 ร่างในรัฐสภา
ยังไม่รู้ผล จะออกหัวออกก้อยอย่างไร
ดูสถานการณ์แล้ว ร่างของประชาชนคงยากที่จะผ่าน
แต่กระนั้น คงไม่ใช่เรื่องความพ่ายแพ้ ที่ต้องถอดใจหรือหมดกำลังใจ
ด้วย 2 รายทางที่เยาวชนและประชาชนกลุ่มต่างๆ ขับเคลื่อนให้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนผ่านเข้าไปในสภานั้น
ได้ทิ้ง “ประเด็น–บิ๊กเบิ้ม” เอาไว้มากมายหลายประเด็น
บางประเด็น ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น ก็ได้เห็น
ไม่เคยได้ยิน ก็ได้ยิน
นี่ย่อมเป็นผลมาการขับเคลื่อนดังกล่าว
ถึงจะไม่บรรลุผลในวันนี้ หรือในอนาคตอันใกล้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
จะลาก ฉุด ดึง กลับไปอยู่หล่มตมเช่นเดิม คงไม่ได้อีกแล้ว
ดังไปรษณียบัตรของ “บรรณกร กลั่นขจร”

กางปีก
แล้วต้องบิน
บินไปในสายลม
ปีกกาง
ต้านพายุ