ฟ้า พูลวรลักษณ์ | เพราะอะไร คนรุ่นเก่าจึงไม่มีทางชนะ ?

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๗๖)

การต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

นับเป็นสิ่งใหม่

เพราะเด็กๆ ต่อสู้ไม่เหมือนคนรุ่นเก่าเลย พวกเขาต่อสู้แบบผ่อนคลาย เหมือนกำลังเล่นเกม และเป็นเกมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด ขึ้นทีละ stage

ฝ่ายทหารเป็นคนรุ่นเก่า พวกเขาแม้จะเรียนรู้วิธีการต่อสู้มาจนจบครบทุกรูปแบบ แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเก่า อุ้ยอ้าย เชื่องช้า และแม้พวกเขาจะมีอาวุธ รถถัง ครบถ้วน มีเงิน มีกฎหมายในมือ แต่ก็ยากจะทำอะไรเด็กๆ ได้

จะจับเด็กๆ เข้าคุกได้กี่คน ในเมื่อเด็กๆ มีจำนวนมากมาย เป็นหนึ่ง generation ของอายุคน พวกเขามีพลัง ความจริงใจ มีเสรีภาพ

จับเข้าคุกร้อยคน ก็ไม่อาจทำลายกระบวนการของเด็กๆ ได้ จับไปพันคน ก็ยังไม่ได้อยู่นั่นเอง แต่จะจับเข้าคุกเป็นหมื่นเป็นแสนคนละหรือ สิ่งนี้คิดไม่ได้ มันคือการทำลายประเทศตัวเอง ยังนึกไม่ออกว่าคนไทยจะฆ่าตัวตายแบบนั้นได้

ดังนั้น คนรุ่นเก่าจึงไม่มีทางชนะ

แต่เด็กๆ จะชนะได้ไหม

น่าจะได้ แต่ทว่า ด้วยความอำมหิตอย่างเหลือล้น และความหน้าด้านอย่างสุดจะประมาณ ประกอบกับยึดกฎหมายอยู่ในมือ มีอาวุธที่เพียบพร้อม เราก็ยังประเมินคนรุ่นเก่าไม่ได้

พวกเขาไม่ยอมเสียอย่าง ใครจะทำไม

หากพวกเขาจะถ่วงเวลาให้นานที่สุดละ มันจะนานแค่ไหน นานจนกว่าเด็กๆ จะแก่ตายไปเองดีไหม ทั้งๆ ที่คนรุ่นเก่าแก่กว่า แต่ทว่าพวกเขาไม่ยอมตายซะอย่าง คุณเคยเห็นภาพมนุษย์อมตะเหล่านี้ไหม

พวกเขามีชื่อว่า the immortals

ทหารพยายามจะปรับตัว

แต่ทำอย่างไรก็ไม่ทันเด็กๆ ต้องถูกจูงจมูกให้วิ่งตาม เพราะเป็นคนละรุ่น

กว่าทหารจะออกคำสั่งมาแต่ละฉบับ กว่าจะเตรียมการ เด็กๆ ก็เปลี่ยนแผนเรียบร้อยแล้ว

กว่าตำรวจ ทหารจะยกขบวนไปถึงที่เด็กชุมนุมกัน เด็กๆ ก็เคลื่อนย้ายไปที่อื่น หรือเดินกลับบ้าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่

ทำแบบนี้บ่อยๆ รัฐไม่เหนื่อยตาย ก็หมดตัวเสียก่อน

นิยายกำลังภายในเรื่องยาวของกิมย้ง มีทั้งหมด ๑๒ เรื่อง ในนั้น เขาจะเขียนถึงตัวเอกที่เป็นวีรบุรุษห้าแบบ ได้แก่

๑ วีรบุรุษใหญ่

๒ วีรบุรุษปานกลาง

๓ วีรบุรุษเล็กๆ

๔ ผู้ไม่ใช่วีรบุรุษ

๕ ผู้แอนตี้วีรบุรุษ

โดยเริ่มจากวีรบุรุษใหญ่ จากนิยายเรื่องแรก คือจอมใจจอมยุทธ์ และก๊วยเจ๋งในมังกรหยก

และค่อยๆ เล็กลง เห็นได้จากเอี้ยก้วย ซึ่งเป็นวีรบุรุษเล็กลง ไล่ลงมาเรื่อย

จนมาถึงบทสรุปในนิยายเรื่องสุดท้าย คืออุ้ยเสี่ยวป้อ คนที่เป็นแอนตี้วีรบุรุษ คนที่พร้อมจะประจบสอพลอผู้มีอำนาจ คนที่ดิ้นรนเอาตัวรอด อย่างคนกะล่อน เหมือนคนหลายคนในสังคมไทยนี้

ที่จริงแล้ว ตัวละครวีรบุรุษห้าแบบ ท้ายที่สุด ก็ไม่มีใครดีกว่าใคร ขึ้นอยู่กับการเขียน ว่าเขียนออกมาแล้ว ใครจะกินใจผู้อ่านได้มากกว่า ดังนั้น อุ้ยเสี่ยวป้อจึงมิได้เป็นรองใครเลย บางคนยกย่องให้เขาเป็นพระเอกอันดับหนึ่งของกิมย้งด้วยซ้ำ

ยังมีตัวละครอื่นอีกมากมาย ที่ลึกลับซับซ้อน มีเสน่ห์ เช่น ตวนอื้อ ในแปดเทพอสูรมังกรฟ้า ชายผู้นี้ไม่ใช่วีรบุรุษ เขาอยู่ในโลกของตัวเองมากเกินไป ให้ใจกับความรักมากเกินไป ให้ค่ากับความประทับใจและความหลัง

ในโลกนี้ มนุษย์เรานั้น ก็ต้องตกอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยกตัวอย่าง ตัวฉัน ก็ต้องตกอยู่ในกลุ่มผู้ไม่ใช่วีรบุรุษ

กลุ่มวีรบุรุษใหญ่ เช่น คุณทักษิณ คุณธนาธร คุณปิยบุตร จุดจบของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ไม่รู้ แต่พวกเขามีบทบาทที่โดดเด่น เป็นผู้นำ คนพวกนี้มีผลต่อประวัติศาสตร์ ยกเว้นแต่ว่าคุณจะบิดเบือนประวัติศาสตร์ หากคุณบิดไหว

เด็กๆ ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย พวกเขาคือวีรบุรุษเล็กๆ หรือปานกลาง บางคน ในอนาคต ด้วยโชคชะตา หรือเหตุการณ์ใดมากระทบ ก็อาจกลายเป็นวีรบุรุษใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเป็นคนหน้าใหม่ หน้ากลมๆ หน้ามนๆ

คนที่แอนตี้วีรบุรุษ เช่น คุณปวีณา คุณแรมโบ้ ฯลฯ น่าประหลาด พลังงานใดที่ทำให้เกิดผู้แอนตี้วีรบุรุษ มันคงมีพลังน่าดู เพราะชีวิตของพวกเขาถูกด่าว่าอย่างยับเยิน ในทุกวันเวลา ถูกเหยียบย่ำ ขากถุย ทุกเช้าค่ำ ต่อให้คิดว่าไม่สนใจอย่างไร ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามว่า ชีวิตแบบไหนที่ทนอยู่อย่างนี้ได้

ขนาดฉัน หากมีคนเกลียดฉันสักห้าหกคน ฉันยังอยู่อย่างทรมาน แต่นี่มีคนเกลียดชังพวกเขาห้าหกแสนคน พวกเขาอยู่ได้อย่างไร หรือว่าพวกเขาต่อสู้เพื่อความอยู่รอด เพราะอีกทางสายหนึ่งคือคุกตะราง โดยสรุป พวกเขาไม่มีทางเลือก

แต่คนที่เป็นผู้แอนตี้วีรบุรุษ ก็อาจเหมือนอุ้ยเสี่ยวป้อ คือสนุกสนานไปกับบทบาทของตัวเอง จนลืมหมดทุกสิ่ง เป็นพระเอกในนิยายของตัวเอง

แต่ความลึกซึ้งของชีวิตอยู่ที่ว่า เรากำหนดตายตัวไม่ได้จริงๆ ว่าใครดีที่สุด ใครถูกต้องที่สุด เราเป็นเพียงตัวละครท่ามกลางคนนับไม่ถ้วน เคลื่อนไป เดินไป พูดไป จนกว่าจะตาย

ในสังคม วีรบุรุษเหล่านี้ มีผลต่อชีวิตของฉัน พวกเขาโลดเต้น โดดเด่น แต่กระนั้น ชีวิตจริงๆ คนจริงๆ ที่ฉันรู้จัก และรัก กลับอาจจะไม่ใช่วีรบุรุษ อาจเพราะตัวฉันไม่ใช่วีรบุรุษเป็นเหตุผลแรก แต่กระนั้นมีเหตุผลอื่นอีก เช่น บางคนที่ฉันรู้จัก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่เป็น loser ไร้ชื่อเสียง เขาจะไม่มีวันประสบความสำเร็จใดได้เลย แต่ทำไมฉันกลับชอบเขามากกว่าคนมีชื่อเสียง คนที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะ ทำไมความเป็นตัวของตัวเองนี้ สิ่งเรียบง่ายนี้ กลับมีพลังกว่าอัตตา ที่เรืองอร่าม

อัตตาเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกับสิ่งที่เรียกว่าความเป็นตัวของตัวเอง

อันหลังอาจเป็นอะไรก็ได้ อาจมีอัตตาเล็กนิดเดียว หรืออาจไม่มีเลย

มนุษย์เรานี้ ที่จริง หากสามารถทำได้

๑ จิตใจ

๒ เจตนา

๓ ตัวตน

๔ ดวงวิญญาณ

ถ้าไปในทิศทางเดียวกันหมด มีพลังน่าดู แม้ดูสิ่งทั้งสี่นี้จะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่มันก็เรียบง่าย เข้าใจได้

ขอเพียงใครทำได้ก็พอ