รายงานพิเศษ / โชคชัย บุณยะกลัมพ/เน็ตดาวเทียมสตาร์ลิงก์ อีลอน มัสก์ ปล่อยดาวเทียม 12,000 ดวงคุมทั่วโลก

รายงานพิเศษ/โชคชัย บุณยะกลัมพ

https://www.facebook.com/ChokCyberAIEntertainment/

เน็ตดาวเทียมสตาร์ลิงก์

อีลอน มัสก์

ปล่อยดาวเทียม 12,000 ดวงคุมทั่วโลก

 

นับวันโลกกำลังเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างไม่หยุดยั้ง สร้างนวัตกรรมแบบใหม่มากขึ้น

ตอนนี้เข้าสู่ยุคของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมบนอวกาศกันแล้ว

แน่นอนว่าวงการโทรคมนาคมพากันจับตามอง เมื่อ Elon Musk “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน นักลงทุนและนักประดิษฐ์อุปกรณ์ไฮเทครายใหญ่เจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพ รถยนต์ไฟฟ้า ยานอวกาศ กำลังจะเปิดอินเตอร์เน็ตที่จะให้บริการผ่านดาวเทียมที่การใช้งานครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วโลก ที่จะใช้เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.11 แสนล้านบาท

และคาดการณ์ว่าจะทำเงินรายได้ถึงปีละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.34 แสนล้านบาท

 

โครงการ Starlink อินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของบริษัท SpaceX Starlink เป็นดาวเทียมรับ-ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มีจุดเด่นคือราคาถูกและสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ได้ทั่วโลก โดยสามารถส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Falcon 9 ได้สูงสุดครั้งละ 60 ดวง รวมถึงสามารถนำจรวด Falcon 9 กลับมาใช้งานใหม่ได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้มหาศาล

ภารกิจนี้เป็นการส่งดาวเทียม Starlink เพิ่มจำนวนดาวเทียม ตามแผนแล้ว SpaceX จะเริ่มให้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงเชิงพาณิชย์กับลูกค้า ซึ่งมีความหน่วงที่ต่ำกว่าและความเร็วที่ดีกว่าการใช้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่มีอยู่

โดยเป็นดาวเทียมแบบ Geosynchronous ที่มีขนาดใหญ่และมีคาบการโคจรเท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก รวมทั้งถูกวางตำแหน่งไกลออกไปจากโลก

ซึ่ง SpaceX ได้เริ่มต้นโครงการ “Starlink” ในปี 2015  เพื่อให้บริการไฮสปีดอินเตอร์เน็ตกับทุกพื้นที่ในโลกโดยเฉพาะในพื้นที่ที่สายไฟเบอร์ออปติกไปถึงได้ยาก รวมถึงในพื้นที่กันดารในเครื่องบินหรือในเรือเดินสมุทร ด้วยแผนการส่งดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit, LEO) จำนวนเกือบ 12,000 ดวงเข้าสู่วงโคจรของโลกให้เสร็จสิ้นภายในปี 2027 ซึ่งอาจใช้เงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์

โดยจะได้ไฮสปีดที่เร็วกว่าการใช้สายไฟเบอร์ออฟติกถึงเกือบ 50% โดยไม่เกิดความหน่วง

 

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานการอัพเดตความคืบหน้าของโครงการ Starlink ว่า บริษัทสเปซเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ ได้เริ่มต้นทดสอบระบบอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) อินเตอร์เน็ตที่ตั้งเป้าให้บริการได้ทุกพื้นที่ในโลก โดยมีค่าบริการสำหรับการทดลองใช้เริ่มต้นที่ 99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือราว 3,000 บาท

รายงานระบุว่าสตาร์ลิงก์ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าบางส่วนเพื่อเชิญให้ทดลองใช้ระบบโดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,080 บาท มีความเร็วอยู่ที่ 50-150 MB/s ค่า Ping อยู่ที่ 20-40 ms

ซึ่งในช่วงแรกอาจมีปัญหาเน็ตหลุดอยู่บ้างเนื่องจากเป็นช่วงทดลองให้บริการ

มัสก์ระบุว่า เวลานี้มีผู้สนใจลงทะเบียนร่วมทดลองใช้บริการแล้วกว่า 700,000 รายในสหรัฐ

โดยมัสก์ตั้งเป้าที่จะให้สตาร์ลิงก์ให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบครอบคลุมทั่วโลก

โดยล่าสุดสเปซเอ็กซ์ปล่อยดาวเทียมสำหรับระบบสตาร์ลิงก์ไปแล้วกว่า 400 ดวง คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ทั่วโลกในปี 2021

ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ ได้รับอนุญาตให้ส่งดาวเทียม 12,000 ดวงขึ้นไปอยู่ในวงโคจรที่ระดับความสูงต่างๆ ในชื่อโครงข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink constellation)

สำหรับอินเตอร์เน็ตที่ส่งมาจากอวกาศนั้นมีความสำคัญสำหรับโซนแยกมากกว่าการใช้งานในเมือง ที่ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตจะมีการเชื่อมต่อด้วยใยแก้วนำแสงหรือสายเคเบิล

แต่สำหรับโครงข่ายอินเตอร์เน็ตดาวเทียมไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลก เสาอากาศทั้งหมดก็จะได้รับสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

โดยล่าสุดมีข่าวว่า SpaceX กำลังขออนุญาตจาก International Telecommunication Union (ITU) ที่จะเพิ่มจำนวนดาวเทียมขึ้นอีก 30,000 ดวงรวมเป็น 42,000 ดวง

 

ในปัจจุบันมีหลายบริษัทได้วางแผนจะนำดาวเทียมเพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม

อย่างเช่น โครงการไคเปอร์ (Project Kuiper) ของเจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่ออะเมซอน ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกทางออนไลน์ มีแผนการที่จะนำดาวเทียมจำนวน 3,236 ดวงขึ้นสู่วงโคจรเพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม โดยจะมีความเร็วสูงและถูกส่งไปทั่วโลก Project Kuiper ซึ่งมี Kuiper System บริษัทลูกของ Amazon ยื่นขออนุญาต FCC (กสทช.สหรัฐ) ยิงดาวเทียมจำนวน 3,236 ดวง เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตทั่วโลก

บริษัทวันเว็บ (OneWeb) มีแผนจะสร้างดาวเทียม 2 ดวงเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาในรัฐฟลอริดา สำหรับโครงข่ายดาวเทียมกว่า 600 ดวง ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี พ.ศ.2564 OneWeb องค์กรที่เป็นความร่วมมือของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เวลานี้มีการจับมือกันทั้งหมด 8 บริษัทด้วยกันคือ Bharti Enterprises, Virgin Group, Intelsat, Hughes Network Systems, Qualcomm, Totalplay, Coca-Cola Founders และ Airbus Group

ซึ่งต่อจากนี้ไปโลกในอนาคตกำลังเข้าสู่ยุคของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมบนอวกาศ ด้วยแนวคิดที่หลีกเลี่ยงปัญหาในปัจจุบัน ทำให้เกิดเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าวิวัฒนาการล้ำสมัยขึ้นให้สอดคล้องกับความต้องการความเร็วและแรง ส่งข้อมูลได้มากกว่าเดิม เกิดการเชื่อมต่อสัญญาณกับภาคพื้นโลกเร็วขึ้น ไม่เกิดการหน่วงเวลามาก

Starlink นับเป็นดาวเทียมรับ-ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มีจุดเด่นคือราคาถูกและสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ได้ทั่วโลก

หากโครงการ Starlink ประสบความสำเร็จเราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงระบบโทรคมนาคมอย่างแน่นอน