ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
The Willoughbys
ลูกที่พ่อ-แม่ไม่รัก
การ์ตูนเน็ตฟลิกซ์สร้างจากหนังสือปี 2008 ของ Lois Lowry (1937-) ซึ่งเขียนหนังสือสำหรับเด็กและวัยรุ่นตอนต้นไว้จำนวนมาก หนังสือเล่าเรื่องเด็กสี่คนที่แม่ไม่รัก โครงเรื่องแบบนี้ทำเป็นหนังการ์ตูนได้อย่างไรก็ตลกอยู่ มิหนำซ้ำยังเป็นการ์ตูนตลก
เป็นการ์ตูนซีจีของบรอนสตูดิโอ กำกับฯ โดย Kris Pearn งานสร้างถือว่าดีมากทั้งภาพและเสียง ได้รับคำชมจากทุกสำนักอีกด้วย
ลองมาดูกัน
ฉากหลังเป็นบ้านเก่าแก่หลังหนึ่งของตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งคือวิลโลบี้ บ้านใหญ่โตโบราณเคร่งขรึมโอ่อ่าน่ากลัว มีรูปบรรพบุรุษของตระกูลวิลโลบี้ขนาดยักษ์ติดตามกำแพงและบันไดที่งามสง่า แต่ละคนมีชื่อเสียงด้วยคุณงามความดีหรือความกล้าหาญได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์
เวลากลางคืน แมวอ้วนสีน้ำเงินตัวหนึ่งเดินไปมา มันเป็นผู้เล่าเรื่อง
วันนี้คุณและคุณนายวิลโลบี้ผู้รักกันปานจะกลืนกินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันวันละสามเวลาระหว่างอาหาร ก่อนอาหาร และหลังอาหาร ให้กำเนิดทารกชายหนึ่งคน ชื่อทิม
ทิมกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจที่สุดที่พวกเขาเคยพบจึงนำออกไปนอกห้องในทันที
นับจากนี้ทิมเป็นส่วนเกินของบ้าน หนังไม่ได้บอกว่าเขาโตอย่างไร เขายิ้มแป้นเงยหน้ามองพ่อ-แม่ที่ไม่ต้องการเขา
หนังตัดมาที่ทิมเมื่อเป็นเด็กชายโตแล้ว จมูกแหลมเฟี้ยวเหมือนวิลโลบี้แต่ยังไม่มีหนวด
วันนี้ทิมมีน้องสาวอายุไล่กันมา ชื่อเจน และน้องฝาแฝดที่ชื่อเหมือนกันคือบาร์นาบี้ซึ่งก็โตพอสมควรแล้วเช่นกัน
พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา รักใคร่กลมเกลียวและถูกทอดทิ้งเหมือนๆ กัน
เด็กทั้งสี่ต้องทนหิวจนกว่าพ่อ-แม่จะกินเสร็จจึงได้กิน ทิมถูกนำไปขังในห้องเก็บถ่านหินเสมอๆ เวลาเขาทำผิด พ่อ-แม่เรียกว่าไทม์เอาต์
จนถึงนาทีนี้เด็กสี่คนยังคงยิ้มแย้มเป็นส่วนใหญ่แม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อ-แม่ไม่ต้องการพวกเขาเลยอย่างชัดเจน
พล็อตเรื่องเช่นนี้แหละที่ว่าเอามาทำการ์ตูน
ทิมมองหน้าพ่อ-แม่เสมอแม้ถูกทิ้ง จะเห็นว่าเด็กพยายามเกาะเกี่ยวหาสายสัมพันธ์กับแม่และพ่อ เพราะที่แท้แล้วสายสัมพันธ์เส้นแรกคือสายรกที่เพิ่งจะถูกตัดขาดตอนคลอดนั้นเอง
ทิมถูกไทม์เอาต์ในห้องถ่านหิน แต่ที่จริงแล้วไทม์เอาต์มิใช่การขังหรือทำโทษ ไทม์เอาต์เป็นเพียงการนำเด็กที่กำลังควบคุมตัวเองมิได้ออกจากสภาพแวดล้อมเดิมไปสภาพแวดล้อมใหม่ที่สงบกว่าเพื่อให้เขาควบคุมตัวเองได้
พ่อ-แม่ที่ทำไทม์เอาต์จะไม่ทิ้งเขาและไม่ขังเขา ไม่แม้กระทั่งมีนัยยะหรือบรรยากาศของการทำโทษ แค่เปลี่ยนที่ เปลี่ยนแล้วพ่อ-แม่เองที่จิตใจและอารมณ์ควรสงบเป็นคนแรกก่อนที่อารมณ์ของเด็กจะสงบตามแล้วเริ่มควบคุมตนเองได้ เช่นนี้จึงเรียกว่าไทม์เอาต์
ตำราสมัยใหม่บางเล่มเรียกว่าไทม์อิน จะเรียกอย่างไรก็เป็นไปตามความหมายนี้ นั่นคือมิใช่การขังห้องน้ำ ห้องนอน หรือห้องถ่านหิน และมิใช่การทำโทษ
เมื่อแรกทิมเข้าห้องถ่านหิน คนดูจะเห็นรอยขีดนับวันบนผนังที่มีมาก่อนแล้วหลายสิบครั้ง
แปลว่าที่เห็นมิใช่ครั้งแรก เขาถูกทำโทษด้วยวิธีนี้มาตลอด ที่เห็นเข้าข่ายละเมิดเด็กชัดแจ้ง
หนังไม่เป็นไปตามทฤษฎีพัฒนาการ พ่อ-แม่ยิ้มระรื่นในสิ่งที่ทำ เด็กสี่คนยิ้มแย้มแจ่มใสพอสมควรในสิ่งที่ถูกทำ ทั้งที่พวกเขาควรพัฒนาพฤติกรรมและบุคลิกภาพที่ไม่ปกติหลายข้อจากการถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการดูแล ส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่รักและไม่เป็นที่ต้องการ ตามด้วยการละเมิด แต่เหล่านี้คือธีมของการ์ตูน นั่นคือไม่มีอะไรเป็นไปตามที่ควรจะเป็น
ทิมเป็นตัวเอก เป็นไปได้อยู่บ้างว่าหากพี่ชายคนโตเติบโตได้ดีพอสมควร เขาจะเป็นเสาหลักของพัฒนาการให้น้องๆ ที่ติดตามมายึดเกาะได้แม้ว่าพ่อ-แม่จะไม่เอาไหนได้ขนาดที่เห็นในหนัง แต่หนังมิได้พูดถึงทิมในวัยเด็ก ไม่ทราบเหมือนกันว่าหนังสือต้นฉบับได้พูดถึงทิมในวัยเด็กบ้างหรือไม่ว่าเติบโตมาได้ดีขนาดนี้อย่างไร
หนังให้บรรยากาศแบบหนังสือของโรอัล ดาห์ล บางส่วนคือมืดหม่นแต่มีความหวัง โดยไม่รู้ตัวคนดูเอาใจช่วยเด็กสี่คนหนีออกจากบ้านให้ได้ ผจญภัยไปในโลกกว้างอย่างปลอดภัย ได้พบพ่อ-แม่บุญธรรมที่ใส่ใจพวกเขาเพราะเจ้าฝาแฝดน้อยบาร์นาบี้น่ารักจับใจ เจนมีบุคลิกภาพแบบเด็กหญิงที่โตแล้ว ทิมเป็นเด็กชายที่ทุกข์ทรมานมานานมาพอแล้ว
คนดูอีกหลายคนคงแช่งชักหักกระดูกพ่อ-แม่คล้ายๆ กับเวลาที่อ่านหนังสือของดาห์ลเช่นกัน
นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ ทำไมเราชอบอ่านงานของโรอัล ดาห์ล เหตุผลหนึ่งคือเราสามารถปลดปล่อยความเกลียดชังต่อผู้ใหญ่รวมทั้งพ่อ-แม่ได้โดยไม่ผิดบาป เพราะเนื้อเรื่องนำทางเอาไว้เช่นนั้น เด็กๆ ที่อารมณ์ขุ่นมัวได้อ่านแล้วก็สบายใจ การ์ตูนเรื่องนี้ก็น่าจะทำงานแบบเดียวกัน
วันหนึ่งเด็กสี่คนพบทารกถูกทิ้งไว้ที่หน้าบ้านกลายเป็นตัวละครเด็กถูกทอดทิ้งคนที่ห้า พวกเขาเรียกทารกมาใหม่ว่าเด็กกำพร้า พวกตัวเองก็เสมือนเด็กกำพร้าเหมือนกัน พวกเขาช่วยกันดูแลและปกป้องทารกที่มาใหม่
ในขณะที่พ่อ-แม่เมื่อทราบเข้าแสดงอาการจงเกลียดจงชังไปจนถึงขยะแขยงเช่นเดิม
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่านี่เป็นการ์ตูนที่เดินเรื่องบนความขัดแย้งต่อสิ่งที่ควรจะเป็น
กล่าวคือ พ่อ-แม่ที่ไม่รักลูก และจะไม่สามารถมอบความสามารถรักคนอื่นให้แก่ลูกได้
แต่เรื่องนี้มียกเว้น
หนังไม่เหมือน Addams Familly ที่ตรงนี้ พ่อ-แม่ตระกูลแอดดัมส์รักลูกแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนผี และลูกๆ มีพฤติกรรมผิดปกติตั้งแต่แรก เด็กๆ ของตระกูลแอดดัมส์จึงมีความสามารถที่จะสร้างสัมพันธ์กับโลกได้รวมทั้งโลกสมัยใหม่ โครงเรื่องอีกโครงหนึ่งของวิลโลบี้เป็นเช่นเดียวกัน นั่นคือการออกจากบ้านของเด็กสี่คนและเด็กกำพร้าอีกหนึ่งคนไปในโลกสมัยใหม่
เมื่อพ่อ-แม่เป็นพิษ เราอาจจะต้องหนีจริงๆ ท่านที่สนใจลองหาดูนะครับ
เดาว่าหลายท่านคงไม่สนุก