เผยแพร่ |
---|
การศึก ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการศึกอันเริ่มต้นในความ ลึกลับ หากเปรียบเทียบกับการศึกโดย”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”ที่ผ่านมา
อย่างน้อยเมื่อเอ่ยถึง”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”ก็นึก เห็น”เพนกวิน” นึกเห็น”รุ้ง”
หรือแม้กระทั่ง ทนายอานนท์ นำพา ในฐานะ”แนวร่วม”
แต่ในเมื่อไม่ว่า”เพนกวิน” ไม่ว่า”รุ้ง” หรือแม้กระทั่ง ทนายอานนท์ นำพา ก็อยู่ในเรือนจำ มิอาจออกมาเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดโปร่งโล่งใจ
แล้วใครกันเล่าที่มาโพสต์ข้อความแจ้งโน่นแจ้งนี่ว่าจะเป็นเช่นนั้นจะเป็นเช่นนี้ในวันที่ 30 หรือในวันที่ 31 ตุลาคม ณ มหาวิทยา ลัยธรรมศาสตร์
ใครเป็นผบ.ตร. ใครเป็นผบ.ทบ. ใครเป็นผบ.ทร. ใครเป็นผบ.ทอ.ก็ย่อมจะต้องกุมขมับเป็นธรรมดา
กุมขมับเพราะเท่ากับประสบเข้ากับลักษณะ”จรยุทธ์”
ถามว่าความปั่นป่วนเกิดขึ้นหรือไม่ หากไปติดตามการเคลื่อนไหว และสนธิกำลัง ทั้งบนบก ทั้งทางน้ำ ทั้งทางอากาศ และทั้งด้านของมวลชนก็จะสัมผัสได้
เป็นการเคลื่อนไหวโดยมิอาจคาดเดาได้เลยว่า กำลังของอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนและจะดำเนินการอย่างไร
เพราะเห็นเด่นชัดแต่เพียงโพสต์ที่”ประกาศ”ออกมา
ผลก็คือ บรรดาผู้คนที่จะเข้าร่วมงาน ณ มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นอุกฤษฎ์ ทั้งในทางกายภาพ ทั้งในทางจิตวิเคราะห์
ความหงุดหงิดย่อมบังเกิด ความไม่พอใจย่อมกรุ่นอยู่ในหัวใจและความรู้สึก คำถามก็คือเป็นความหงุดหงิดต่อใคร เป็นความไม่พอใจต่อใคร
ตำรวจ ทหารที่อยู่ในพื้นที่ย่อมเป็นด่านแรกที่ต้องประสบ
นี่ย่อมเป็นการสู้รบที่แม้จะมี “สมรภูมิ” แต่ก็ไม่สามารถค้นหาและเสาะพบ”กำลัง”ของอีกฝ่าย
ไม่ว่าในที่สุดแล้วรายละเอียดตามคำ”ประกาศ”จะปรากฏออกมาว่าดำเนินไปอย่างไร แต่ก็ยากเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถขุดไปถึงรากและต้นตออย่างแท้จริง
นอกจากความหงุดหงิด นอกจากความไม่พอใจ
เมื่อผ่านวันที่ 31 ตุลาคมไปแล้วก็น่าจะได้”บทสรุป”ออกมา