หลังเลนส์ในดงลึก / ปริญญากร วรวรรณ/ ‘อาชีพ’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
นกเงือกหัวแรด - อาชีพของนกเงือก คือนักปลูกป่า บางตัวปลูกในบริเวณใกล้ๆ บางตัวนำเมล็ดพืชไปกระจายไกลๆ

หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ

‘อาชีพ’

 

…สัตว์ป่าทุกตัวเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ทำนุบำรุงป่า ทุกตัวมีอาชีพ ไม่มีตัวไหนว่างงาน ทั้งสัตว์ที่อยู่บนเรือนยอด ในน้ำ และใต้ดิน

มีพวกปลูก แพร่กระจายดูแลป่า

มีพวกทำหน้าที่ผสมเกสร มีตัวกำจัดซาก

และอื่นๆ และมีพวกนักล่า คอยดูแลปริมาณสัตว์เหล่านี้ให้มีจำนวนพอเหมาะ

ทุกๆ ตัวได้รับการออกแบบร่างกายมา รวมทั้งมีทักษะอย่างเหมาะสมกับหน้าที่ และเป็นไปอย่างสอดคล้องกับพวกนักล่า ตัวอย่างง่ายๆ เช่น พวกกินพืช มีกีบตีนซึ่งออกแบบมาให้วิ่งได้เร็วในระยะไกล  ส่วนนักล่าอย่างเสือ วิ่งเร็วได้ แต่ในระยะสั้นๆ

นักล่าซึ่งอยู่ร่วมกันเป็นฝูง ก็มีทักษะอย่างหนึ่ง นักล่าที่ใช้ชีวิตลำพัง จะมีทริกอีกแบบ

ไม่ผิดหรอก หากจะพูดว่า สัตว์ทุกตัวมีงานทำ

และทุกตัวก็ทำงานของพวกมันอย่างมืออาชีพ

 

ป่าในฤดูฝน

สิ่งที่เลี่ยงไม่พ้น นอกจากเส้นทางเละเทะลื่นไถล ยุง ริ้น เหลือบ มากมายแล้ว ทากเป็นอีกอย่างที่ต้องพบเสมอ

ในป่าทุ่งใหญ่ด้านตะวันตก เราไม่ได้พบกับทากเฉพาะเวลาเดินป่า แม้ขณะรถติดหล่ม ลงจากรถเพื่อแก้ไขปัญหา ก็เลี่ยงไม่พ้นที่จะโดนทากเกาะตามขา รวมทั้งเวลาเดินจากบ้านพักในหน่วยพิทักษ์ป่าเพื่อไปโรงครัว เดินไปซุ้มบังไพร อยู่ในแคมป์ นั่งนิ่งๆ ในซุ้มบังไพร

การจับทากที่คืบคลานขึ้นมา ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ม้วนทากให้กลม และโยนออกไป คือกิจกรรมที่ต้องทำเสมอ

การใส่ถุงกันทาก ช่วยได้ คือช่วยไม่ให้เท้าและข้อเท้าชุ่มเลือด เพราะทากจะคลานขึ้นมาดูดเลือดแถวๆ เอวและคอแทน

เสื้อผ้าที่ใช้ทำงานในป่า เปรอะเปื้อนเลือดราวกับกลับมาจากสมรภูมิรบ

แผลที่ทากกัด เลือดจะไม่แข็งตัว ไหลออกมาเรื่อยๆ สารฮิสตามินอันเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทากมี ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และเมื่อกัดจะมีสารที่เรียกว่าฮีรูดิน ต้านการแข็งตัวของเลือด จึงเป็นเรื่องปกติที่ถูกทากกัดแล้วเลือดจะไหลไม่หยุด เหมือนเป็นแผลใหญ่ ทั้งที่รอยนิดเดียว

ที่จริงคนในป่าไม่ค่อยกังวลกับทากสักเท่าไหร่ แผลทากกัดใช้ยาเส้นโปะไว้ช่วยได้มาก

เห็บในช่วงฤดูหนาวนั่นแหละมีฤทธิ์มากกว่า เพราะเห็บตัวเล็กมองไม่ค่อยเห็น อีกทั้งแผลที่เห็บกัดนั้นคันเรื้อรังไปนาน

ถาวร ผู้ช่วยนักวิจัย โครงการศึกษานิเวศวิทยาของเสือโคร่ง เป็นชายผู้กลัวเห็บอย่างมาก เขาหยุดเดินทันทีที่พบว่ามีเห็บเกาะ ตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน ถึงกับถอดเสื้อออกสบัด หรือใช้ไฟแช็กลนเลยทีเดียว

“กลัวเห็บ ไม่กลัวเสือนี่นะ” ผมขำกับท่าทีถาวร

“โธ่ แผลเห็บกัดน่ะ คันนะครับ คนที่แพ้อย่างผมนี่ ดูไม่จืดเลยล่ะ” ถาวรว่า

“และเสือน่ะ เวลาเราเข้าไปใกล้ๆ มันก็หนี หรือถ้าไม่หนี ร้องขู่ เราก็ถอยออกมาซะ เห็บมันไม่เตือนอะไร ฝังตัวดูดเลือดเราอย่างเดียว” ถาวรอ้าง

ผมได้แต่พยักหน้ายอมรับเหตุผลเขา

ผมเป็นเหมือนคนอื่นๆ ไม่กังวลกับทาก แต่ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกว่า ทากมีอาชีพอะไร…

 

“ทากอาจเป็นตัวช่วยควบคุมปริมาณหญ้านะครับ” สิทธิศักดิ์ ชายหนุ่มผู้หลงรักงูและสัตว์เลื้อยคลาน ให้ความเห็น

ช่วงนั้นเขาอยู่ฝ่ายวิชาการในป่าทุ่งใหญ่ ก่อนจะรับตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ในป่าเมืองกาญจน์ เวลาพูดถึงงู ดวงตาเขาเป็นประกายราวกับกำลังพูดถึงสาวที่รัก

“ยังไงครับ” ผมสงสัย

“ก็ทากจะคอยรบกวนไม่ให้สัตว์กินพืชอยู่แถวนั้นนานๆ ไงครับ เก้ง กวาง กระทิง วัวแดง กินหญ้าแล้วเดินไปเรื่อยๆ ถ้าหยุดนาน หญ้าแถวนั้นก็หมดสิครับ”

ผมคิดตาม อาจจะจริงอย่างที่เขาบอก

“แต่งูพิษอย่างงูจงอาง ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณงูอื่นๆ นะครับ” เขาตอบเรื่องงู โดยผมไม่ได้ถาม

“งูอย่างงูสิงน่ะ นอกจากไม่มีพิษแล้วยังน่าสงสารด้วย เพราะมันรัดเหยื่อไม่ได้ โครงสร้างกระดูกสันหลังมันได้รับการออกแบบมาให้งอตัวได้ไม่มาก ฉะนั้น เวลาล่าเหยื่ออย่างกบ เขียด ต้องใช้วิธีเอาตัวเบียดเหยื่อกับคันนาให้เหยื่ออึดอัดตายแล้วจึงขยอกเหยื่อเข้าปากได้” เขาอธิบาย

ผมขอตัวเดินห่างออกมา ก่อนต้องฟังเรื่องงูอีกยาว

ในป่าไม่ได้มีเพียงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ไม่ได้มีเฉพาะสัตว์สวยงามน่าเอ็นดู หรือสัตว์โหดร้าย

แต่คือที่ทำงานของชีวิตจำนวนมาก ชีวิตที่มีหน้าที่สำคัญแตกต่างกันไป

 

ถึงกลางเดือนตุลาคม

สายฝนชุดสุดท้ายเตรียมลาจาก บางครั้งฝนทิ้งช่วงห่างไปหลายวัน ตอนเช้าท้องฟ้าสีเข้มราวกับฤดูหนาว

สายฝนยังไม่พร้อมจากไปหรอก แต่สายลมหนาวก็เดินทางมาถึงแล้ว

อุณหภูมิในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 800 เมตร ช่วงเช้า ผมอยู่กับอุณหภูมิ 16 องศาเซลเซียส

ละอองหมอกหนาลอยระเรี่ยเหนือยอดไม้ นกเงือกกรามช้าง ฝูงละ 9-10 ตัว บินปีกแหวกอากาศดัง “ฟืด! ฟืด!”

เป็นช่วงเวลาที่นกเงือกจะรวมฝูง

หน่อไม้ไผ่รวกแทงหน่อสูง กระทิงเริ่มกลับมาที่โป่ง เสือโคร่งตัวผู้เดินสำรวจอาณาเขตของมันตามปกติ มันทิ้งรอยตีนไว้บนทางที่เป็นโคลนหมาดๆ กลิ่นฉี่ที่มันสเปรย์ไว้ หอมไปไกล

สายฝนจางลง แต่เสือยังพ่นฉี่ไว้ใต้ใบไม้ เพื่อให้กลิ่นติดนานๆ ไม่ให้สายฝนชะล้างง่ายๆ

หลังจากอยู่ในสภาพชื้นแฉะใต้ท้องฟ้า มืดทึบมานาน

ไม่นาน ความสดใสแห่งท้องฟ้าจะมาถึง

 

กิจวัตรประจำหลังกลับจากซุ้มบังไพร คือ เอาเสื้อที่เปรอะเปื้อนเลือดราวกับกลับจากสมรภูมินั้น ขึ้นผึ่งข้างๆ กองไฟ ถอดรองเท้าเขย่า เอาทากที่อิ่มตัวบวมเป่งออก

ตลอดฤดูฝน ผมเฝ้ารอสมเสร็จในป่าดิบชื้น

นั่งในซุ้มบังไพร จับทากที่คืบคลานบนขา ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ม้วนทากเป็นก้อนกลมๆ

เพื่อจะพบกับสมเสร็จ การอยู่กับทากให้ได้ จำเป็น

 

ผม ไม่แน่ใจนักหรอกว่า อาชีพของทากคืออะไร

แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้จากสัตว์ป่า คือ พวกมันเป็นมืออาชีพ พวกมันรู้ดีและอยู่กับสิ่งที่มากับอาชีพของพวกมัน

ความเป็น “มืออาชีพ” ของสัตว์ป่า

สอนให้รู้ว่า ในงานย่อมมีทั้งช่วงเวลาแห่งความทุกข์ และสุข

ช่วงเวลาที่พบกับความยากเข็ญ ย่อมไม่ใช่เวลาที่จะโอดครวญ

มีหลายสิ่งที่มาพร้อมกับ “อาชีพ”

ที่ผมต้องพยายามเรียนรู้ และยอมรับ…