เครื่องเคียงข้างจอ/สามเณรปลูกปัญญาธรรม ปี 6

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

สามเณรปลูกปัญญาธรรม ปี 6

เป็นอีกหนึ่งรายการเรียลลิตี้ที่ทำติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 แล้ว สำหรับรายการ “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” ทาง true visions ซึ่งได้รับความนิยมชื่นชมว่าเป็นรายการน้ำดีรายการหนึ่งของจอทีวีไทย

ไม่เท่านั้น รายการนี้ยังได้รับรางวัลจากการประกวดงานเทศกาลเมืองคานส์มาแล้วด้วยถึง 2 ปีซ้อน คือในปี 2556 และ 2557 แสดงว่าของเขาต้องดีจริง และดีระดับอินเตอร์ด้วย ซึ่งก็สอดรับกับกระแสความสนใจของโลกตะวันตกที่มีต่อศาสนาพุทธมากขึ้นๆ

อย่างน้อยในขณะที่จะรบไม่รบ จะเกิดสงครามโลกหรือไม่ แต่สำหรับชาวพุทธแล้วเรามีหลักคิดหลักยึดมั่นที่ปรับใช้ได้กับทุกเหตุการณ์ของโลก

รายการ “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” ในปีนี้ มีสโลแกนเก๋ๆ ว่า “ความรักจักรวาล”

ฟังดูยิ่งใหญ่แบบลึกซึ้งดีนะครับ

เพราะความรักนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข และความสันติสุข หากเรารู้จักรักตั้งแต่ตนเองแล้วแผ่ขยายออกไปจนถึงจักรวาลได้ เราก็จะสามารถอยู่ร่วมกับคนทั้งโลกได้อย่างมีความสุข

Mood & Tone ของรายการในปีนี้จะออกแนวผจญภัย เพราะด้วยโลเกชั่นคือที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี มีสถานที่หลากหลายทั้งเป็นถ้ำ เป็นเขา มีน้ำตก มีลำธาร มีลานดินลานทราย มีทุ่งทานตะวัน

จึงสามารถให้เหล่าสามเณรได้ทำกิจกรรมที่สนุกสนานหลากหลายและได้ข้อคิดทางธรรมไปด้วยอย่างดี

จะว่าไปแล้วการที่คนเรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ และเที่ยวท่องไปไกลหรือผจญภัยไปหาทรัพย์สินเงินทองลาภยศต่างๆ นั้นดูเหมือนสำคัญและยิ่งใหญ่ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ “การผจญภัยในใจเราเอง”

บางคนเกิดมาจนจะแก่ตายแล้ว ยังไม่รู้จักตนเองดีพอเลยว่าเป็นคนยังไง มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะควบคุมความคิดและอารมณ์ของตนเองยังไง ปล่อยให้ความอยากได้อยากมีครอบงำ

ดังนั้น การผจญภัยครั้งนี้ที่เหล่าสามเณรจะได้เรียนรู้ ก็คือการผจญภัยเข้าไปในจิตใจของสามเณรเอง เพื่อให้ได้เรียนรู้ถึงการที่จะรู้จัก “รักตน” ซึ่งเป็นบทเรียนของสัปดาห์แรก และเมื่อรู้จักรักตนเองเป็นแล้ว ในสัปดาห์ที่สองก็จะเป็นสัปดาห์ของการ “รักคน” คือการรู้จักรักคนอื่นๆ นอกจากตัวเรา

ส่วนในสัปดาห์ที่ 3 ก็จะกว้างไปถึงขั้น “รักโลก” คือรักทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ หมายรวมถึงธรรมชาติและเหล่าสัตว์ทั้งหลายด้วย ซึ่งตอนที่มติชนสุดสัปดาห์นี้วางแผง เป็นช่วงท้ายของสัปดาห์ที่ 3 นั่นเอง

ส่วนสัปดาห์สุดท้ายที่จะถึงก็เป็น “รักจักรวาล” คือการรู้จักรักแบบไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีข้อแม้ใดๆ

รวมเป็น 4 ความรักใน 4 สัปดาห์ “รักตน” “รักคน” “รักโลก” “รักจักรวาล”

สําหรับสามเณรน้อยทั้ง 12 รูปในปีนี้ ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครหลายพันคน จนเหลือ 12 รูป ซึ่งก็มาจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ แต่ละรูปมีพื้นเพมีที่มาแตกต่างกัน มีอุปนิสัยไม่เหมือนกัน บางรูปเป็นเณรดื้อเงียบ บางรูปดื้อโวยวาย บางรูปขี้งอน ขี้ใจน้อย บางรูปมีความเป็นผู้นำ บางรูปชอบแข่งขัน ชอบเป็นผู้ชนะ

ไม่ว่าเณรรูปไหนเป็นอย่างไร พระอาจารย์จะพยายามขัดเกลาพวกเขาให้มีการพัฒนา จนสามารถก้าวข้ามความอ่อนด้อย หรืออุปสรรคในการดำรงชีวิตได้ ให้รู้จักคิดเป็น มีสติ มีความอดทน และมีความรักในเพื่อนมนุษย์

แต่ด้วยความเป็นเด็กผู้ชาย ก็ต้องมีซุกซน แตกแถว และไม่อยู่นิ่ง จึงมีเรื่องให้พระอาจารย์ต้องได้ใช้สติเข้าข่ม และใช้ปัญญาในการจัดการปัญหาเสมอ

อย่างสามเณรเตเต้ จาก จ.มุกดาหาร ที่มักเอาแต่ใจตัวเอง ถ้าไม่พอใจอะไรก็จะออกแนวต่อต้านทันที จนพระอาจารย์ต้องใช้ความเมตตาเข้าสะสาง จนอ่อนโยนลง และยอมทำตามกิจกรรมหมู่มาก

และสามเณรเตเต้นี่เอง เมื่อเข้าในสัปดาห์ที่สอง ก็ได้เรียนรู้ถึงการรักคนอื่นมากขึ้น การขอโทษ การเสียสละ การให้อภัย เมื่อมีเรื่องกระทบกระทั่งกับสามเณรเจแปน ก็รู้จักเข้าไปขอโทษ และปลอบโยน ถึงกระนั้นด้วยความเป็นเด็ก สามเณรเจแปนก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้ ร้อนจนสามเณรต้องใช้ไม้เด็ด พูดว่า

“…เห็นใจพี่เถอะนะ พี่มาจากบ้านไกล ลำบาก ต้องช่วยตาช่วยยายทำงาน ต้องทำโน่นทำนี่ ไม่สบายเลย พี่ต้องตื่นเช้าหาปลามากินเอง…” เท่านี้ก็เริ่มดึงความเห็นใจจากสามเณรเจแปนได้ไม่น้อย แล้วสามเณรเตเต้ก็ยื่นข้อเสนอว่า

“…ถ้าพี่ได้กลับบ้าน พี่จะเอาปลา เอาตัวด้วงมาฝากเจแปนนะ”

เท่านั้นแหละ สามเณรเจแปนก็ยิ้มออกและบอกกลับว่า

“เจแปนจะเอาหุ่นยนต์ของเจแปนมาให้เล่นนะ ตัวแพงๆ ด้วยละ”

แล้วสามเณรน้อยทั้งคู่ก็ยิ้มออก ให้อภัยซึ่งกันและกัน กลับมาคืนดีกันเช่นเดิม

พระอาจารย์ให้ข้อคิดว่า ดูเถอะ…เด็กๆ โกรธกัน แป๊บเดียวก็ให้อภัย และกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ แต่ผู้ใหญ่บางคนนี่สิ โกรธกันผูกใจเจ็บอีกฝ่าย จนตายก็ยังไม่รู้จักให้อภัย ชีวิตก็มีแต่ความรุ่มร้อน สู้เด็กๆ ก็ไม่ได้

นี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ เป็นเรียลลิตี้ที่ให้แง่คิดและปัญญากับผู้ชมได้อย่างดี เพราะมีพระอาจารย์มาเชื่อมโยง ชี้แนะ ตลอดรายการ เป็นห้องเรียนธรรมะที่ถ่ายทอดสดถึงบ้านคุณเลย

หากใครเคร่งปฏิบัติหน่อยก็สามารถนั่งสวดมนต์ที่หน้าจอทีวีไปกับสามเณรได้ เพราะจะมีการทำวัตรเช้าและเย็นพร้อมบทสวดขึ้นที่หน้าจอด้วย

ผู้ชมทางบ้านหลายคนเป็นแฟนคลับสามเณรเหล่านี้ พอวันเสาร์อาทิตย์ก็จะเดินทางมาร่วมใส่บาตรสามเณรแต่เช้า ด้วยความปีติอิ่มเอมที่ได้เห็นสามเณรตัวจริงๆ บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดเลยทีเดียว

ที่ต้องชื่นชมคือ พ่อแม่ผู้ปกครองของสามเณรเหล่านี้ ที่ยินดีและสนับสนุนให้บุตรหลานของคุณได้มีโอกาสมาใช้เวลา 31 วันในการขัดเกลา เรียนรู้ธรรมะ เพื่อเป็นปัญญาในการดำรงชีวิตให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไป

คิดดูว่าลูกอายุ 7-11 ขวบ โตมาไม่เคยจากกันนานขนาดนี้ ต้องมาจากอก เดินทางห่างไกลจากบ้านมากินนอนอาศัยอยู่ที่วัด ต้องพยายามเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อร่วมเป็นสามเณร บางคนทานอาหารวันละ 4 มื้อ ก็ต้องฝึกอดทนให้ทานแค่ 2 มื้อเท่านั้น

แต่สิ่งที่ทุกคนจะได้กลับไปจากการผจญภัยในครั้งนี้นั้น มันเหมือนขุมทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาล เป็นขุมทรัพย์แห่งปัญญาที่จะทำให้เขารู้จักหลักในการดูแลชีวิตของเขาและคนรอบข้างให้มีความสงบสุข

ต้องขอชื่นชมบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อย่างยิ่งที่ได้นำเสนอรายการนี้มาอย่างต่อเนื่อง และขออนุโมทนาสาธุกับผู้เป็นต้นคิดคือ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดรายการนี้

เบื้องหลังของความอิ่มเอิบอิ่มเอมและสุขใจยิ่งนั้น เป็นทีมงานด้านต่างๆ ร่วมร้อยชีวิต ที่ได้คลุกวงในผลักดันสร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นภาพและเสียง พร้อมเรื่องราวที่สวยงามสมบูรณ์ เพื่อสะท้อนถึงสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของปัญญามนุษย์

นั่นก็คือ “หลักธรรมของพุทธศาสนา”

โดยมีเหล่าสามเณรทั้ง 12 รูป เป็นพาหนะนำพาสู่ผู้ชมนั่นเอง อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ…สาธุ