วิถีแห่งกลยุทธ์ / เสถียร จันทิมาธร / ภาระ หน้าที่ ของนักวางแผน (67)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งกลยุทธ์/เสถียร จันทิมาธร

ภาระ หน้าที่ ของนักวางแผน (67)

การทำงานของนักวาง “กลยุทธ์” มากด้วยความสลับซับซ้อน คดเคี้ยววกวนอยู่ภายในเขาวงกตแห่งการโน้มน้าวและจูงใจอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ถนัดจะ “แทงตรง” อย่างเซียวจิ่งเหยียน

การเน้นย้ำผ่านประโยคที่ว่า ไม่ว่า 1 รัชทายาท ไม่ว่า 1 อวี้หวัง “ไม่ว่าคนไหน ข้าล้วนไม่อยากยืนด้วย” แม้ว่าจะมาจากบิดาคนเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นพี่น้องลดหลั่นกันมา

จึงจำเป็นที่เหมยฉางซูจักต้องชี้แจง

“แม้อยากจะฝืนใจอยู่บ้าง แต่กระหม่อมรับรองจะไม่ให้องค์ชายกระทำเรื่องที่ผิดต่อมโนธรรมในใจแน่นอน อีกอย่างท่านถูกกดขี่ตำแหน่งมานานปีทุกคนคงพอเข้าใจได้”

“ข้าไม่ใส่ใจสักนิดว่าคนบนโลกจะมองข้าอย่างไร”

จิ้งหวังขบกรามแน่น สายตาวูบไหว “แต่คนที่ตายไม่อาจจะรับรู้ได้ ข้าไม่อยากให้พวกเขาเห็นสภาพเช่นนี้”

นี่คือตัวตนของเซียวจิ่งเหยียน นี่คือพันธะและความผูกพันภายในมโนสำนึก

 

ไม่เพียงแต่เซียวจิ่งเหยียนหรอก แม้กระทั่งเหมยฉางซู ความรู้สึกร้อนระอุขุมหนึ่งก็ทะลักท่วมทั้งทรวงอก จำเป็นต้องสะกดกลั้นอยู่เนิ่นนานค่อยเปล่งเสียง”

วิญญาณไม่มีวันมองดูแต่ภายนอก

พวกเขาเข้าใจถ่องแท้ในจิตใจท่าน มิหนำซ้ำทั้งหมดนี้ก็แค่แผนอุบายชั่วคราวเท่านั้น”

“ความจริงข้าเข้าใจดี ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเลือกของข้าเอง พูดไม่ได้ว่าเป็นการฝืนใจ” จิ้งหวังพูดพลางสูดหายใจลึก

“ข้าจะทำตามที่ท่านวางแผนไว้ วางใจเถอะ”

รอยยิ้มของเหมยฉางซูสว่างโพลง สะท้อนให้รับรู้ว่าเส้นทางที่กรุยวางเอาไว้ราบรื่นอย่างยิ่ง สมหวังอย่างยิ่ง จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะข้าม “ช็อต” ไปยังเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้

“พระประสงค์ของฝ่าบาท คือให้องค์ชายเลือกผู้ร่วมไต่สวนจาก 3 หน่วยงานด้วยตัวเอง”

“ท่านซูโปรดชี้แนะ” คำพูดนี้ของจิ้งหวังยังไม่สิ้นกระแสความ เหมยฉางซูก็ล้วงเอากระดาษแผ่นหนึ่งที่พับครึ่งไว้อย่างดีจากอกเสื้อ

สะท้อนให้เห็นว่าได้ผ่านการตระเตรียมมาเป็นอย่างดี

 

เซียวจิ่งเหยียนเปิดอ่านอย่างละเอียดก่อนจ่อมจมลงสู่ภวังค์คิดเนิ่นนาน พลันที่ได้รับคำถามจากเหมยฉางซูว่า “หลายคนนี้องค์ชายมีความเห็นอย่างไร” ก็สำนองตอบอย่างรวบรัดยิ่ง

“ดีมาก”

“คนเหล่านี้คบหากับองค์ชายอย่างลึกซึ้ง” เหมยฉางซูหัวเราะออกมาเบาๆ “ทว่าภายหน้าพวกเขากลับไม่มีวันเป็นแขนขาให้องค์ชายอย่างแน่นอน”

จิ้งหวังมิได้แสดงอาการประหลาดใจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับผงกศีรษะเห็นด้วย

“ที่ปรึกษาวางแผน องค์ชายมีกระหม่อมคนเดียวก็เพียงพอ ฝ่ายทหารยิ่งไม่มีอันใดให้หนักใจ ในวังมีองค์จิ่งหนิง นางแม้ไม่เป็นที่สังเกตแต่กลับเป็นผู้ช่วยที่ดี ส่วนในราชสำนัก คงไม่จำเป็นต้องมีแขนขา

เพราะยิ่งมีแขนขาเร็วขึ้นเท่าใดก็ยิ่งสร้างความระแวงให้กับรัชทายาทและอวี้หวังเร็วขึ้นเท่านั้น

สิ่งที่องค์ชายต้องการมีเพียงขุนนางมือสะอาด ขุนนางมือสะอาดยิ่งมาก การขัดแข้งขัดขาก็ยิ่งน้อย องค์ชายจะได้มีช่องว่างสำหรับรักษาธาตุแท้ของตัวเองมากขึ้น

ยิ่งกว่านั้น การคบหาคนเหล่านี้ก็ไม่ทำให้ท่านรู้สึกอึดอัดด้วย”

 

เหมือนกับทุกอย่างจะราบรื่น ไม่ว่าจะมองในด้านที่ปรึกษาวางแผน ไม่ว่าจะมองผ่านด้านการทหาร ไม่ว่าจะมองผ่านเครือข่ายภายในราชสำนัก กระนั้น ประเด็นที่จิ้งหวังเสนอในประเด็นขุนนางมือสะอาด

คือ “คนเหล่านี้ยากที่จะเลื่อนตำแหน่ง”

“ถ้าอยู่กับรัชทายาทและอวี้หวังกลับเป็นเช่นนั้นจริง กระหม่อมจึงหวังว่าองค์ชายจะเปลี่ยนแปลงให้แตกต่างได้ คนเหล่านี้ไม่อ่อนด้อยความสามารถและไม่บกพร่องสติปัญญา เพียงแต่ขาดแคลนโอกาส

ด้วยอุปนิสัยของพวกเขา ภายหน้าแม้ไม่ยินดีเอนเอียงเลือกข้าง

แต่กลับรู้จักสำนึกบุญคุณ องค์ชายแค่ต้องใช้ความจริงใจในการเข้าหาเท่านั้นเอง หากคิดลงมืออันใดกับคนเหล่านี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่กระหม่อม นี่เป็นหน้าที่ของนักวางแผน

หากให้องค์ชายไปกระทำเรื่องตลบตะแลง กระหม่อมกลับไม่วางใจ”