การ์ตูนที่รัก / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ / Abominable

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Abominable

 

หนังการ์ตูนปี 2019 ของดรีมเวิร์กส์และเพิร์ลสตูดิโอ เหตุเริ่มต้นเกิดในจีน ตัวละครเป็นคนจีนเกือบทั้งหมด ดังนั้น ดูด้วยการเปิดเสียงจีนจะดีมาก

ดูภาพหนังก็พอเดาได้ว่าเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดน่ารักขนยาวสีขาว น่ารักขนาดนี้จะเรียกว่าอะโบมิเนเบิลได้อย่างไร

คำศัพท์คำนี้แปลว่าไม่น่าพอใจ ร้ายกาจ ไปจนถึงเลวมาก (unpleasant, terrible, very bad) เป็นคำศัพท์ที่ใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 รากศัพท์มาจากคำว่า ab แปลว่าไปจาก (away from) และ homine หมายถึงมนุษย์ (homo, human being) แปลง่ายๆ ว่าไม่ใช่มนุษย์ เป็นสัตว์ หรือสัตว์ร้าย ขนาดนั้นเลย

ตัวอย่างการใช้คำนี้ในพจนานุกรมออกซ์ฟอร์ด เช่น the uprising was suppressed with abominable cruelty การก่อจลาจลถูกปราบด้วยความโหดร้ายผิดมนุษย์ เป็นต้น

ชื่อหนังการ์ตูนเรื่องนี้จึงมีสองความหมาย

ความหมายแรกหมายถึงเจ้าสัตว์หน้าขนนี้ มันไม่ใช่คน

อีกความหมายหนึ่งคือพฤติกรรมของทีมนักล่าและนายทุนของหนังเรื่องนี้ที่ทำกับมันและเด็กจีนสามคนเหมือนพวกเขาไม่ใช่คน

เด็กสาวชาวจีนนางเอกของเรื่องชื่อยี ตั้งชื่อสัตว์หน้าขนสีขาวนี้ว่าเอเวอเรสต์ เพราะทั้งสองสื่อสารกันได้ด้วยภาษามือว่ามันต้องการกลับบ้านที่ยอดเขาเอเวอเรสต์

เขียนถึงตรงนี้หรือดูหนังถึงตรงนี้เราก็จะมีข้อกังขาว่าควรเรียกมันว่า “มัน” หรือ “เขา” กันแน่

ยีพบในเวลาไม่นานว่าเขาเป็นเด็ก เพราะเขาชอบเล่นและพูดกับเด็กชายชาวจีนที่ชื่อว่าเผิงรู้เรื่อง

คำถามที่น่าสนใจคือ เขาเป็นคนที่ตรงไหน

 

นิยามของคนหรือมนุษย์มีมากมาย

แต่ถ้าดูเฉพาะบริบทของหนังเรื่องนี้ เอเวอเรสต์มีอะไรที่สัตว์อื่นไม่มี คำตอบคือมันร้องเพลง โอ๊ะ ไม่ใช่สิ เขาร้องเพลง แต่ที่จริงเขามิได้ถึงกับร้องเป็นเพลง เขาแค่ฮัมเสียงดนตรีบางอย่างออกมาได้ เพียงเท่านั้นต้นไม้ก็งอกงาม ดอกไม้ก็เบิกบาน

พอไปถึงกลางเรื่องเสียงฮัมนั้นสามารถสร้างคลื่นน้ำและคลื่นหญ้าได้อีกด้วย

ความหมายคือดนตรีที่เขาสร้างขึ้นเปลี่ยนโลกได้

มีแต่มนุษย์กระมังที่ใช้ดนตรีเปลี่ยนโลกได้

ยีเป็นเด็กสาวชาวจีนที่อยู่ไม่ติดบ้าน หลังจากพ่อตาย เธออยู่กับยายและแม่ เธอหายตัวออกไปจากบ้านทุกวัน ยายคิดว่าเธอไปเที่ยวแบบวัยรุ่นมือถือทั่วไปในเซี่ยงไฮ้

แต่ที่จริงแล้วเธอไปทำงาน รับจ้างเลี้ยงหมา รับจ้างเก็บขยะ รับจ้างทำทุกอย่างไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสหรือเป็นงานสกปรกน่าขยะแขยงเพียงใด

เรียกว่าลักษณะงานหลายอย่างที่เธอทำตอนต้นเรื่องนั้นอะโบมิเนเบิลเลยทีเดียว

เธอทำเพื่อเงิน

 

เธอตั้งใจเก็บเงินเพื่อเที่ยวทั่วจีน ไปตามโปสการ์ดที่พ่อสะสมไว้

เธอมีไวโอลินตัวหนึ่งที่พ่อชอบเล่นให้เธอฟังและเธอเรียนไวโอลินกับพ่อจนชำนาญ เธอไม่ยอมเล่นไวโอลินให้ใครฟังตั้งแต่พ่อตาย มีบ้างที่เธอแอบเล่นคนเดียวบนดาดฟ้า

หนังเผยฉากนี้ครั้งแรกทำเอาคนดูถูกสะกดไปชั่วขณะเพราะเสียงดนตรีนั้นไพเราะนัก

คือฉากที่เธอสร้างสัมพันธ์กับเอเวอเรสต์เป็นครั้งแรก ดนตรีเป็นภาษาสากลของสิ่งมีชีวิตระดับสูง

หากจำได้ หนังปี 1977 ของสตีเฟ่น สปิลเบิร์ก Closed Encounters of the Third Kind เป็นหนังต่างดาวที่ใช้ประเด็นนี้ในการดำเนินเรื่อง หากเอเลี่ยนจะติดต่อเราหรือเราจะติดต่อมนุษย์ต่างดาว เป็นไปได้ว่าดนตรีจะถูกใช้เป็นสื่อกลางเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราศิวิไลซ์และมีอารยธรรม ยีและเอเวอเรสต์จึงเป็นผู้เจริญ

จิน พี่ชายของเผิงเป็นหนุ่มเซี่ยงไฮ้สมัยใหม่ แต่งตัวโก้ สาวๆ ตอม มือกำไอโฟนตลอดเวลา แล้วเซลฟี่ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

การ์ตูนวาดภาพเขาเป็นวัยรุ่นสมัยใหม่ไม่เอาไหนด้วยรูปลักษณ์ที่เห็นและคนแก่อย่างผู้เขียนตีความไปล่วงหน้าว่าเขาไม่ได้เรื่อง

จินพยายามหว่านล้อมยีและเผิงให้ล้มเลิกความคิดบ้าๆ ที่จะพาสัตว์หน้าขนตัวหนึ่งเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ไปถึงหิมาลัยและเอเวอเรสต์

แต่พอเขาพบว่ายีไม่สบายใจเรื่องอะไร เขาก็สามารถลดอีโก้ลงและสร้างความสัมพันธ์แบบเอ็มพาธี (empathetic relationship) กับยีได้อย่างไม่ขัดเขินและไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง

เป็นว่าผู้เขียนเองที่เหมารวมเด็กมือถือพวกนี้ผิดไป

 

มากกว่านี้เมื่อจินพบความลับของ ดร.ซาร่าและนายทุนเบอร์นิชว่ามิได้หวังดีกับเอเวอเรสต์จริงๆ เขาก็เปลี่ยนใจร่วมเดินทางไปกับยี เผิง และเอเวอเรสต์เพื่อหลบหลีกการตามล่าของพวกมัน

เช่นนี้จีนจึงมิใช่วัยรุ่นอะโบมิเนเบิลแต่อย่างใด

เซี่ยงไฮ้สมัยใหม่และไอโฟนมิใช่เรื่องน่ากลัว ที่น่ากลัวยังคงอยู่ในใจคนเสียมากกว่า

ฉากที่คนทั้งสี่ (รวมเอเวอเรสต์) ปีนพระใหญ่เล่อซานคงต้องลืมความเป็นจริงไปชั่วขณะแล้วดูการ์ตูนแบบการ์ตูน ยีเดี่ยวไวโอลินที่หน้าตักพระใหญ่เล่อซานเป็นฉากอลังการที่น่าดูทั้งภาพและเสียง แม้ว่าไม่สามารถทำได้ในความเป็นจริงก็ตาม มีแต่การ์ตูนที่ทำได้

เอเวอเรสต์ใช้เสียงฮัมของเขาเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมหลายครั้ง ส่วนใหญ่แล้วเสียงดนตรีของเขามีผลกับสิ่งมีชีวิตเสียมาก เช่น ดอกไม้ ทุ่งหญ้า ผลไม้ ฯลฯ มีผลกับธรรมชาติ เช่น คลื่นน้ำ น้ำแข็ง หิมะ

แต่มีฉากหนึ่งที่ใช้ได้ผลกับกระป๋องโคคา-โคลาสีแดงสดที่เราคุ้นเคยด้วย

ถ้าเสียงของเขาใช้บังคับกระป๋องโคคา-โคลาได้มากมายขนาดนั้นทำไมจึงใช้กับปืนหลายกระบอกของพวกนักล่าไม่ได้ คือวิวาทะที่มีเสมอมาว่า แม้ดนตรีจะเป็นสื่อสันติภาพในหลายๆ กรณีหรือหลายๆ เวที แต่ดนตรีอย่างเดียวไม่สามารถสยบจิตใจที่โหดร้ายอะโบมิเนเบิลได้ง่ายๆ

ข้อเขียนประเภทดนตรีชนะปืนได้จึงเป็นจริงเพียงบางกรณีหรือบางเวทีหรือบางประเทศเท่านั้น

หนังมีฉากโหดนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเด็กเห็นเอเวอเรสต์ถูกยิงจนพรุนจะรู้สึกอย่างไร ไม่นับว่าเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่เล่นกันถึงตายในตอนท้าย

 

มีเกร็ดเล็กๆ ที่คนดูส่วนใหญ่คงจะดูไม่ทัน ผู้เขียนก็ดูไม่ทันเหมือนกัน

ว่ากันว่ามีฉากแผนที่ประเทศจีนครอบคลุมทะเลจีนใต้ซึ่งนานาชาติไม่ยอมรับว่าเป็นของจีน

หนังจึงถูกแบนในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ขณะเขียนต้นฉบับนี้ก็มิได้ย้อนกลับไปดูใหม่ว่าเป็นฉากไหน เพราะจะว่าไปเพิร์ลสตูดิโอ (และดรีมเวิร์กส์) ก็คงจะตั้งใจทำให้เนียนและเนียนได้ผลจริงๆ นั่นคือผู้ถูกยึดครองไม่รู้ตัวเลย

เขาว่ากันว่า บ้านเรากำลังเผชิญสภาวการณ์เช่นนั้น