ไม่น่าประหลาดใจ

กับปรากฏการณ์ที่ตัวแทนกลุ่มไทยภักดีและเครือข่าย

เข้าแจ้งความสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี

ในความผิด มาตรา 112

ตัวแทนกลุ่มไทยภักดีอ้างว่า

การแจ้งความในครั้งนี้

สืบเนื่องจากกรณีที่วอยซ์ทีวีถ่ายทอดสดการปราศรัยกิจกรรมชุมนุม “19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”

ที่จัดโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา

“เนื้อหาที่พูด จาบจ้วงสถาบัน ไม่ควรถ่ายทอดสด แต่วอยซ์ถ่ายทอดสด เราก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย”

ตัวแทนกลุ่มไทยภักดีอ้างกับผู้สื่อข่าว

การที่วอยซ์ทีวีตกเป็นเป้า ต้องทำให้ “จอดำ” นั้น

อย่างที่ทราบกัน

ตอนนี้วอยซ์ทีวีถือเป็นสถานีโทรทัศน์ “หลัก” ในการถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกและแนวร่วมไปแล้ว

ทำให้กิจกรรมของผู้ชุมนุมเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง และต่อเนื่อง

มีเรตติ้งสูงลิ่ว โดยเฉพาะในห้วงมีการชุมนุม

ถือเป็น “ซอฟต์เพาเวอร์” อันสำคัญของกลุ่มที่เคลื่อนไหว

นี่จึงเป็นเหตุที่ฝ่ายตรงข้ามต้องหาทางควบคุม หรือทำให้จอดำ

การกล่าวหาที่ดีที่สุดคงไม่พ้นเรื่อง 112

ระหว่างที่กำลังจับตาดูว่า ฝ่ายที่กุมกฎหมาย

จะเอาเรื่องกับ “วอยซ์ทีวี” ตามการถูกแจ้งความหรือไม่

กระแสที่เชื่อมโยงไปถึงคุณหญิงอ้อ พจมาน ชินวัตร

ว่ากำลังดำเนินยุทธวิธี สามัคคี “บน” – สามัคคี “ล่าง” ในประเด็นที่ละเอียดอ่อนหรือไม่

ก็ทำให้ “วอยซ์ทีวี” ซึ่งตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของ

ถูกจับตาเพิ่มขึ้นไปอีก

จับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอเนื้อหา

โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดฝ่ายม็อบปลดแอกหรือไม่

มีการให้ข้อสังเกตว่า หาก “วอยซ์ทีวี” เปลี่ยนท่าทีหรือจุดยืนไปหลังจากนี้

คือหากมีระยะห่างกับม็อบปลดแอก

ก็อาจถูกตีความไปในทางว่า ปฏิบัติการสามัคคี “บน” ของคุณหญิงอ้อ

ส่อเค้าแห่งความเป็นจริง?

ซึ่งนั่นคงต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมืองใหม่

กระแส “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่ปฏิเสธกันเสียงแข็ง

อาจอ่อนลง

กระนั้น ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผิดปกติที่วอยซ์ทีวี

และเชื่อว่าไม่มี

หรือถ้ามีกรณีจากคุณหญิงอ้อจริง

ผู้ปฏิบัติงานก็คงมีคำถามก่อนคนข้างนอก

เสียง (วอยซ์) อ๋อ เพราะอย่างนี้ถึงทำให้ “วอยซ์ทีวี” เปลี่ยนไป

ไม่น่าเกิดขึ้นอย่างที่มีคนเริ่มจับตา