เผยแพร่ |
---|
การเคลื่อนไหวของ”คณะราษฎร 2563” ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 14 ตุลาคม ดำเนินไปในลักษณะสัมพันธ์ในทางประวัติศาส ตร์อย่างทรงความหมายยิ่ง
แน่นอน ความบันดาลใจอันเป็นพื้นฐานยิ่งในทางความคิดคือสถานการณ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475
อันเป็นที่มาแห่ง”คณะราษฎร 2475”
ขณะเดียวกัน เมื่อกำหนดเอาวันที่ 14 ตุลาคม จึงเป็นจุดร่วมแห่งการรวมพลังนั่นย่อมโยงไปยังสถานการณ์การเคลื่อนไหวเมื่อเดือนตุลาคม 2516
จุดร่วมเมื่อเดือนตุลาคม 2516 จุดหนึ่งคือความเรียกร้องต้อง การรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อถูกสกัดและขัดขวางด้วยการจับกุมคุมขังก็กลายเป็นข้อเรียกร้องเพื่อขับไล่รัฐบาล
รัฐบาลอันประกอบด้วย จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประ ภาส จารุเสถียร พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร
ขณะที่สถานการณ์”คณะราษฎร 2563”ก็ใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง
ใกล้เคียงกันเพราะว่าปรากฏการณ์ของ”เยาวชนปลดแอก”อันมีจุดเริ่มเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมคือ หยุดการคุกคามประชาชน และจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย
แต่จากเดือนกรกฎาคม ผ่านเดือนสิงหาคม ผ่านเดือนกันยายน มายังเดือนตุลาคมมีความเด่นชัด
เด่นชัดว่าการคุกคามประชาชนยังคงมีอยู่และรุนแรงยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแต่จะโดยพรก.ฉุกเฉิน หากแต่ยังพ่วงมาตรา 116 และคิดจะพ่วงมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และไม่เพียงแต่เงื้อง่าราคาแพงด้วยกฎหมายสารพัด
หากแต่ยังเตะถ่วงหน่วงเวลาของการจัดการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยการจัดตั้ง”คณะกรรมาธิการวิสามัญ”ชุดแล้วชุดเล่าออกมาเพื่อซื้อเวลา
เป็นการซื้อเวลาท่ามกลางการคุกคามอย่างไม่ขาดสาย
ในที่สุดจากข้อเรียกร้องในประเด็น”รัฐธรรมนูญ”ก็ขยายไปสู่การขับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าสถานการณ์วันที่ 14 ตุลาคม 2563 เป็นไปเช่นเดียวกับผลอันเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 หรือไม่
คำตอบมิได้อยู่ที่ปฏิบัติการไอโอทางด้าน”การข่าว”
ตรงกันข้าม จำนวนคนที่จะเข้ามาร่วมต่างหากคือคำตอบอย่างแท้จริงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าควรจะทำอย่างไ