จรัญ พงษ์จีน : “รัฐบาลแห่งชาติ” มาเล่นๆ หรือ เอาจริง?

จรัญ พงษ์จีน

หลังปรากฏการณ์ “คุณหญิงอ้อ-พจมาน ดามาพงศ์” ที่อัสดงลงหม้อ เก็บตัวเงียบเชียบมาเนิ่นนาน พลันโผล่ออกนอกกำแพง “จันทร์ส่องหล้า” มาถูกที่ถูกเวลา โดนพระอาทิตย์ส่องแสง แผ่ไออุ่น พลังไฟที่หายไป ก็คืนมาในบัดดล

แค่ไม่กี่ชั่วยาม สายลมแห่งโชคชะตาใน “พรรคเพื่อไทย” ถูกแคนนอน เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประกาศลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรค

กรรมการยุทธศาสตร์คนอื่นๆ ตบเท้าตามเป็นขบวน อาทิ “โภคิน พลกุล, พงศ์เทพ เทพกาญจนา, กิตติรัตน์ ณ ระนอง, วัฒนา เมืองสุข”

ยังมี “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค – “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ทิ้งเลขาธิการพรรค

“พรรคเพื่อไทย” ปรับทัพจัดขบวนกันใหม่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็นเชนคัมแบ๊กมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม ดัน “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา 5 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นแม่บ้าน

ยกเครื่องทั้ง “ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี” เพาเวอร์บาลานซ์กันระหว่าง “รุ่นเก่า-รุ่นใหม่” โละทิ้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคที่ “คุณหญิงหน่อย” กำกับดูแล ตั้งทีม “โปลิตบูโร” มีอำนาจเหนือสุด เร่งกอบกู้วิกฤตศรัทธากลับคืน

ดึงสาวกเก่ากลับบ้านเดิมจำนวนหลายคน โดยเฉพาะจาก “กลุ่มแคร์” ทั้ง “ภูมิธรรม เวชยชัย, หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, หมอเลี้ยบ-สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” เป็นต้น

ว่ากันว่า “คุณหญิงอ้อ” จะมาขัดตาทัพชั่วคราว โดย “ธงใหม่” ลดละผละวางความดุเดือดเลือดพล่าน หลีกเลี่ยงการปะทะทุกรูปแบบ

“เดินสายกลาง” เหมือนขึงสายพิณ แค่พอเหมาะ พอควร ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป เสียงพิณย่อมไพเราะน่าฟัง

สิ่งที่มองเห็น การปรากฏตัวของ “คุณหญิงอ้อ” ตามมาด้วยการปรับทัพใหม่ของ “เพื่อไทย” ทั้งการไขก๊อกของ “คุณหญิงหน่อย” และชาวคณะ ตลอดถึงการทลายห้างโครงสร้างเดิม จึงเกิด “เงา” จางๆ เป็นห้องเครื่องที่ถูกหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์ ไปกันไกล มากที่สุดคือ

การจับแพะมาชนแกะ ว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ”

ซึ่งต่อมา “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต่างปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่มี”

ข่าวลือเรื่องที่จะดึง “เพื่อไทย” มาร่วมกับ “พปชร.” ตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” ด้วยกัน จึงเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าหาทางขึ้นสวรรค์

” แต่…” นิยายบางเรื่องก็เป็นความจริงได้ การเมืองบางจังหวะไม่ต่างกับนิยาย ยิ่งชั่วโมงนี้ “เพื่อไทย” ตัดเหลี่ยมทิ้ง ใช้โลโก้หัวกลม เลิกชนปังตอ ในทางปฏิบัติอะไรก็เกิดขึ้นได้…

 

พูดถึงเส้นทางสู่ “รัฐบาลแห่งชาติ” มีอยู่สองคำตอบสำหรับคำถามนี้ องค์ประกอบหลักคือ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ที่คาบนี้มาตามกรอบรัฐธรรมนูญ ถูกต้องชอบธรรม ตาม “ช่องทางที่ 1” ด้วยเสียงข้างมาก จากสภาผู้แทนราษฎร

แต่กรณีมีอันเป็นไป รับประทานของแข็งขนานหนึ่งขนานใดเข้าไป ต้องพ้นจากตำแหน่ง หาก “สภาล่าง” โหวตเลือกผู้นำคนใหม่กันไม่ได้ ต้องเข้าสู่กระบวนการ ตาม “ช่องทางที่ 2” ใช้บริการ “คนนอก” เสียงเกิน 3 ใน 4 ของรัฐสภา จาก 500 เสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ 250 เสียงของ “วุฒิสมาชิก” เท่ากับ 500 เสียงอัพ

หาก “นายกฯ” ลงเอยตามช่องทางที่ 2 จะเรียกว่าขานว่าอะไรก็ได้ เป็น “รัฐบาลแห่งชาติ” ก็ได้ ตำรวจไม่น่าจะออกหมายจับ

“อำนาจ” นะมายา หมายถึงไม่มั่นคงถาวร มีความบุบสลายไปตามกาลเวลา “พล.อ.ประยุทธ์” พุทธศักราช 2563 กับ “บิ๊กตู่” พ.ศ.2557 คือคนคนเดียวกัน แต่ “แต้มบุญ” และต้นทุนไม่เท่าเดิม

“บิ๊กตู่” ใน พ.ศ.ปัจจุบัน จึงมีเรื่องชวนเสียว มีสิทธิสลบเหมือดได้เหมือนกัน โดยมีเรื่องค้างท่ออยู่ในเกม 2-3 ปมเงื่อน

1. กรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพันธมิตรจากฝ่ายค้าน 56 คน ยื่นร้องต่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” กล่าวโทษ “พล.อ.ประยุทธ์” เจตนากระทำความผิดร้ายแรง เจตนาฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ -ใช้อำนาจโดยมิชอบ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป.ป.ช. -มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง

ห้องเครื่องของการยื่นร้องมาจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ถูกโจมตีว่า เกษียณอายุจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.มา 5 ปีกว่าแล้ว แต่ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักหลวง ในค่ายทหาร ไม่ยอมย้ายออกไปอยู่บ้านส่วนตัว

เข้าข่ายจงใจฝ่าฝืนมาตรา 184 และ 186 รัฐมนตรีรับเงิน หรือรับผลประโยชน์อื่นใดจากหน่วยราชการ ทั้งโดยอ้อมและโดยตรง

เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับประโยชน์อื่นใดซึ่งคำนวณมูลค่าเกิน 3,000 บาทขึ้นไป

หาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยชี้ผิด “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที และต้องถูกตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปีด้วย

เรื่องนี้ รอลุ้นระทึกกันอยู่ แต่ข่าวว่า งวดเข้ามาเต็มที ใกล้เข้ามาแล้ว

2. มูลเหตุจาก “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทนายส่วนตัวยื่นฟ้อง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี กรณีออกคำสั่งย้ายโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว แต่กลับไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนความผิด ตามกระบวนการที่ควรจะเป็น ถ้าไม่มีความผิด ก็มีสิทธิกลับต้นสังกัดได้ แต่จนขณะนี้ยังไม่มีการออกคำสั่งแก้ไขคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เสียโอกาสที่จะทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม การที่ “บิ๊กโจ๊ก” กล้าสวมบท “แจ๊กผู้ฆ่ายักษ์” ดูเหมือนจะยาก เพราะมวยคนละชั้น กระดูกคนละเบอร์

ชื่อชั้นห่างกันหลายลี้ แต่ที่กองเชียร์ “บิ๊กตู่” ไม่กล้าส่งเสียงหัวเราะเยาะ

คิดสะระตะว่าหมากกระดานนี้จะไม่ง่ายเหมือน “ตบแมลงวันหรือตบยุง” ตรงที่ การออกมาชนโครมอย่างไม่หวั่นไหวอะไร

มีใครอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำ หรือคอยปกป้อง “บิ๊กโจ๊ก” หรือไม่

ถ้าไม่มี ไฉนปลาซิวปลาสร้อยตัวน้อยๆ คิดว่าตัวเป็นฉลาม-ปลาวาฬ กล้าวิ่งชนเรือ

ถ้ามีก็น่าขนหัวลุก

สรุป “พล.อ.ประยุทธ์” ชั่วโมงนี้ ประมาทไม่ได้เหมือนกัน

“รัฐบาลแห่งชาติ” ก็อย่ามองข้าม