ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ /I’m Thinking of Ending Things

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

I’m Thinking of Ending Things

 

เธอจ๊ะ

I’m Thinking of Ending Things ความหมายคล้ายๆ แฮชแท็กในโซเชียลมีเดีย #ให้มันจบที่รุ่นเรา โดยบังเอิญ ฉันแค่คิดว่าแฮชแท็กที่เป็นภาษาไทยมักอ่านสนุก แต่พอเป็นภาษาอังกฤษ ความสนุกไม่ค่อยเทียบเท่า มักขึ้นต้นด้วย save, ban, boycott อะไรแบบนั้น ไม่ค่อยมีสีสัน

แต่ก็แหละ แฮชแท็กที่ฮิตๆ ก็เป็นคำง่ายๆ เช่น #love, #photooftheday, #breakfast เป็นต้น

เรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิต เขาจะ “จบ” อะไรบ้างก็ต้องมาดูกัน

 

หนังมันดึงดูดใจฉันเพราะ Charlie Kaufman พี่เขากำกับการแสดงและเขียนบทเอง พี่เขามีชื่อเสียงมาตั้งแต่ Being John Malkovich, Adaptation และ Eternal Sunshine of the Spotless Mind หนังที่ฉันดูซ้ำดูซากได้ไม่มีเบื่อ

เรื่องนี้พี่เขาสร้างจากหนังสือนิยายชื่อเดียวกันนี้ เขียนโดย Iain Reid (อ่านว่า เอียน รี้ด)

นิยายมีคำโปรยติดตัวมาว่า You will be scared. But you won’t know why… เราจะกลัวแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงกลัว… ก็เพราะนิยายเป็นแนว psychological thriller หรือเขย่าขวัญสั่นประสาททางจิตใจ ไม่มีผี ไม่มีวิญญาณ

จิตใจมนุษย์เรานั่นแหละที่น่าสะพรึงกลัว

 

เรื่องก็เริ่มที่หญิงสาวนางหนึ่ง จะบอกว่าชื่ออะไรพูดยาก เพราะตลอดเรื่องชื่อเปลี่ยนไปตลอด

หนังเขาให้หญิงสาวคนนี้เป็นคนเล่าเรื่อง โดยพูดออกมาดังๆ บ้าง คิดในใจบ้าง

I’m thinking of ending things.

ฉันกำลังคิดจะจบเรื่องราวต่างๆ

หญิงสาวคิดในใจระหว่างรอชายหนุ่มมารับ เพื่อเดินทางไปพบพ่อ-แม่ของชายหนุ่มที่ต่างเมือง

Once this thought arrives, it stays.

It sticks, it lingers, it dominates.

พอเราได้คิด มันก็อยู่อย่างนั้น

มันติดอยู่อย่างนั้น อ้อยอิ่ง ครอบงำ

หญิงสาวทบทวนในใจ ว่าใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก็ราวๆ 7 สัปดาห์ ถึงคราเลิกกันได้แล้วไหม?

แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรดังใจคิด เจคก็มาชวนไปเยี่ยมพ่อ-แม่ของเจคด้วยกันเสียก่อน

ระหว่างทางไป หิมะตกหนักไป ขับรถกันไป สองคนสนทนากันเชิงปรัชญาลุ่มลึกกันไปตลอดทาง

เจคดูเป็นห่วง คะยั้นคะยอให้หญิงสาวแวะระหว่างทางหาอะไรรองท้องก่อนไปถึงบ้าน

Don’t want to spoil my appetite.

เดี๋ยวอิ่มแล้วกินอะไรไม่อร่อยสิ

appetite หมายถึง ความรู้สึกอยากอาหาร

to spoil my appetite หมายถึง ทำให้ความรู้สึกอยากอาหารลดลง

appetite ใช้กันบ่อยๆ แบบเราพูดว่า I haven’t got much of an appetite. แทน I am not hungry. ได้

แต่ถ้ากินได้กินดี แต่ไม่ได้ตะกละนะ เราก็ใช้ have healthy appetites หรือ have good appetites แทน eat a lot ได้

เจคคะยั้นคะยอ และเฉลยว่าแม่ไม่ค่อยสบาย

I’m just saying that

there might not be much of a spread,

ผมแค่จะบอกว่า

มันจะไม่มีอาหารเต็มโต๊ะแบบนั้น

a spread หมายถึง อาหารหลายอย่างเต็มโต๊ะ

They really are looking forward

to meeting you.

I don’t want to give you

the wrong impression.

พ่อกับแม่อยากเจอคุณมาก

ผมก็ไม่ได้อยากทำให้คุณหลงเข้าใจผิด

to give (someone) the wrong impression เป็นสำนวน หมายถึง หลงเข้าใจผิด เข้าใจไขว้เขว บางบริบทก็กินความหมายไปถึง หลอกลวง บิดเบือน (ความจริง)

เรื่องราวในรถมันฟังหลอนๆ หลายโมเมนต์ โดยเฉพาะมีอยู่หลายที เวลาหญิงสาวคิดในใจ เจคก็ชอบถามขึ้นว่า What are you thinking? คิดอะไรอยู่?

เหมือนเจคได้ยิน เหมือนเจคอ่านใจออก…

หรืออย่างเวลามองออกไปนอกหน้าต่าง หญิงสาวเห็นบ้านร้างรก แต่ไหงมีชิงช้าใหม่เอี่ยมอยู่หน้าบ้าน

That seems like an unlikely

sequence of events.

เหมือนลำดับเหตุการณ์

ที่ไม่น่าเป็นไปได้

 

ครั้นพอไปถึงบ้าน ลงจากรถมาก็พบว่าแม่ยืนมองมาจากหน้าต่างชั้นบน โบกมือต้อนรับ เห็นได้ชัดว่ายินดีต้อนรับ แต่ก็โบกมืออยู่อย่างนั้น โบกมือมา โบกกลับไป หญิงสาวกับแม่โบกมือกันไปกันมา แม่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลงมา ได้แต่โบกมืออยู่อย่างนั้น

เจคเลยจะพาเดินเที่ยวรอบบ้าน

They know I like to stretch my legs.

Come on, I’ll show you around.

เขารู้ว่าผมต้องยืดแข้งยืดขา

มา ผมพาดูรอบๆ

เขาไปในโรงนา มีแกะตาย มีรอยเลือดหมูถูกฆ่า โรงนาก็ดูมืดๆ อับๆ

Life isn’t always pretty on a farm.

Something you should know.

ชีวิตในฟาร์มไม่น่าพิสมัยนักหรอก

คุณควรรู้ไว้

อ้าว แล้วไหงพามาดูชม

พอเข้าบ้านไป ก็ต้องรออีกนาน กว่าพ่อ-แม่จะลงมาจากชั้นบน

Jake tells me you’re studying

quantum psychics at the university.

เจคบอกฉันว่าที่มหาวิทยาลัย

หนูเรียนพลังจิตควอนตัม

ฟิสิกส์ควอนตัมต่างหาก ไม่ได้เรียนนั่งทางใน หรือ psychic!

ขำดีตรงนี้ แต่ไม่กล้าขำมาก บรรยากาศมันไม่เอื้อ

Im Thinking Of Ending Things. David Thewlis as Father, Jessie Buckley as Young Woman in Im Thinking Of Ending Things. Cr. Mary Cybulski/NETFLIX © 2020

 

พ่อ-แม่ให้เล่าเรื่องว่าเจอกันอย่างไร หญิงสาวก็เล่าเรื่องที่เจคชักช้า แต่สุดท้ายก็ขอเบอร์โทร.จนได้

And the rest was history.

ที่เหลือก็รู้กันอยู่แล้ว

The rest is/was history. เป็นสำนวน ใช้เวลาเราเล่าเรื่องมาเรื่อยๆ ในสมัยที่คนอื่นไม่รู้เรื่องเรา จนมาถึงตอนที่คนอื่นๆ รู้กันทั่วแล้ว เราก็ค่อยพูดประโยคนี้ จะได้ไม่น่าเบื่อ แบบในกรณีนี้ หญิงสาวเล่าถึงตอนที่ได้พบกันครั้งแรก แล้วก็ได้มาเป็นคู่กันตอนนี้ไม่ต้องเล่า เพราะก็ยังเป็นคู่กัน

เรื่องหลอนๆ มีมาให้พวกเราเหล่าคนดูได้เห็น ขณะที่หญิงสาวและเจคอยู่ที่บ้าน

ทำไมมีรูปหญิงสาวตอนเด็กๆ ใส่กรอบ แขวนอยู่ที่ฝาบ้าน?

ทำไมเดี๋ยวๆ พ่อ-แม่แก่มาก เดี๋ยวๆ กลับไปเป็นตอนสาวๆ เดี๋ยวๆ กลับมาปัจจุบัน?

ทำไมหญิงสาวโทรศัพท์หาตัวเองได้?

อีกทั้งในหนังทั้งเรื่องเขาตัดสลับไปมากับภารโรงที่โรงเรียนเก่าของเจค ภารโรงแก่ชรามากแล้ว แต่ก็ยังต้องมาทำงานงกๆ ในตอนกลางคืน ก็ทำความสะอาดนี่นะ จะทำตอนไหนได้อีกเล่า

ว่าแต่ ชายชราภารโรงนั้นเป็นใคร? เจคเป็นใคร? หญิงสาวเป็นใคร?

ท่ามกลางความหลอน ความโดดเดี่ยวเดียวดาย ชีวิตที่ล้มเหลวนั้น เราจะพบคำตอบ

พี่ชาร์ลีผู้กำกับฯ แกเก่ง เดี๋ยวไปหาหนังสือมาอ่านกัน เขาว่ากันว่าหนังสือก็เป็นเวอร์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้หนัง แต่ชอบชื่อเรื่อง I’m Thinking of Ending Things ไม่ว่าจะอะไรฉันจะให้มันจบลงตรงนี้

ฉันเอง