ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 กันยายน - 1 ตุลาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
เห็น “ม็อบ” นักเรียน-นักศึกษาในวันนี้แล้ว
บรรดานักเคลื่อนไหวการเมืองรุ่นเก่าทั้งหลายต่างยอมรับว่าตำรา “ม็อบ” ในอดีตไม่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของเด็กยุคนี้
ฉีกทุกกฎ ทำลายทุกกติกา
ตั้งแต่การนำการวิ่ง “แฮมทาโร่” มาใช้ในการเคลื่อนไหว
หรือดึง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” มาร่วมด้วย
จนถึงการใช้เพลงเชียร์อย่างเพลง “แจว” มาเป็นเพลงในม็อบ
หรือ “ลามะลิลา” ก็ปรับเนื้อใหม่
เอามาใช้ในทางการเมือง
แกนนำ “ม็อบ” ในอดีตอย่าง “เสกสรรค์ ประเสริฐกุล-พล.ต.จำลอง ศรีเมือง-สนธิ ลิ้มทองกุล-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-สุเทพ เทือกสุบรรณ”
เจอ “ม็อบ 2020” เข้าไป
ถึงขั้น “งงในงง”
ถ้าแวดวงธุรกิจพูดถึงกระแส “ดิสรัปชั่น” ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
แวดวงการเมืองก็เจอคลื่น “ดิสรัปชั่น” เช่นเดียวกัน
วันที่นักเรียนนัดชู 3 นิ้วตอนเคารพธงชาติ และผูกริบบิ้นสีขาว
ไม่มีนักข่าวคนไหนรู้ล่วงหน้ามาก่อน
และที่สำคัญไม่ได้เกิดขึ้นเพียงโรงเรียนเดียว
แต่กระจายไปทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
ทั้งหมดใช้การประสานผ่านโซเชียลมีเดีย
หรือ “ม็อบเยาวชนปลดแอก” หรือ “กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” รูปแบบการเคลื่อนไหวก็ใช้ “โซเชียลมีเดีย” เป็นหลัก
ใช้กองทัพทวิตเตอร์พา “ทัวร์” ไปลงตามจุดต่างๆ
ถ้า กปปส.ใช้ “ม็อบ” ไปกดดันเป่านกหวีดตามที่ต่างๆ
เด็กยุคนี้ก็ชวนคนไปกดดันตามโซเชียลมีเดียของฝ่ายตรงข้าม
ตัวอยู่กับที่ ไม่ต้องไป
ไปแต่ “ความคิด”
แต่ที่เด็ดที่สุด คือ การระดมทุน
ถ้า “สตาร์ตอัพ” ใช้วิธีคิดโครงการแล้วนำไปพรีเซนต์กับนักลงทุนเพื่อระดมทุน
หรือทำ “คลาวด์ฟันดิ้ง”
“ม็อบ” ยุคนี้ก็เช่นกัน
ไม่ต้องมีท่อน้ำเลี้ยงจากพรรคการเมืองหรืองบฯ ลับจากใคร
แต่เปิดบัญชีอย่างเปิดเผยให้คนที่เห็นด้วยร่วมสนับสนุนทางด้านการเงิน
เหมือนกับ “คลาวด์ฟันดิ้ง”
“บ.ก.ลายจุด” หรือ “สมบัติ บุญงามอนงค์” เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้
แจ้งบัญชีของแกนนำ และกลุ่มต่างๆ อย่างเปิดเผย
ใครสนใจเป็น “แม่ยก” ก็โอนเงินได้เลย
เหมือน “สตาร์ตอัพ”
ถ้าเชื่อมั่นก็โอนมา
รูปแบบการเคลื่อนไหวของ “เด็กรุ่นใหม่” จึงเป็นเรื่องที่ยากจะคาดคะเน
ไร้กรอบ
และไร้ “เพดาน”