อ่านประวัติความเป็นมาของ มุน แจ อิน ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้

เหมือนกับเป็น “เงาสะท้อน” ของการเมืองไทย

เขาก็เหมือนกับคนหนุ่มสาวไทยในห้วงก่อนและหลังสงคราม โลกครั้งที่ 2

เกิดในครอบครัวที่อพยพจาก “เกาหลีเหนือ”

ศึกษามหาวิทยาลัยคยองฮี เอกวิชากฎหมาย และเคลื่อนไหวต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหาร ปาร์ค จุง ฮี

ถูกจับติดคุกในทศวรรษ 2510

ออกจากคุกก็เป็นทหาร หลังปลดประจำการก็สอบเนติบัณฑิตและเข้าอบรมที่สถาบันวิจัยและฝึกฝนฝ่ายตุลาการแต่ไม่สามารถเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการได้เนื่องจากประวัติเก่า

จึงเลือกเป็น “ทนาย” และเป็นทนายด้านสิทธิมนุษยชน

 

อ่านแล้วบางคนอาจนึกถึง นายธีรยุทธ บุญมี บางคนอาจนึกถึง นายจาตุรนต์ ฉายแสง

บางคนอาจนึกถึง นายรังสิมันต์ โรม

เพราะ นายธีรยุทธ บุญมี ก็เคยถูกจับก่อนสถานการณ์เดือน ตุลาคม 2516

เพราะ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็ถูกยึด”พาสปอร์ต”

เพราะ นายรังสิมันต์ โรม ก็ถูกจับไปขังและ ณ วันนี้ ก็ยังต่อสู้คดีอยู่ในชั้นศาล

นายธีรยุทธ บุญมี ได้ชื่อเป็น”นักวิชาการเสื้อกั๊ก”

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมัคร ส.ส.และได้รับเลือกตั้งจากชาวฉะเชิงเทรา

เคยเป็น “รัฐมนตรี” และ “รองนายกรัฐมนตรี”

 

เมื่อใดที่ มุน แจ อิน เดินทางมาเยือนประเทศไทย เมื่อนั้นเงาร่างในอดีตของเขาก็ปรากฏ

ปรากฏในการต้านรัฐบาล “ทหาร”

ปรากฏในการเป็น “ทนายความ” ให้กับประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อสู้กับอำนาจอันไม่ชอบ

แล้วก็ทำให้นึกถึงคนอย่าง นายธีรยุทธ บุญมี

แล้วก็ทำให้นึกถึงคนอย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และรวมไปถึงคนอย่าง นายรังสิมันต์ โรม

ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า มุน แจ อิน