รายงานพิเศษ / ‘บิ๊กแก้ว’ นำทัพไทยสู่ยุคเป๊ะ! จับตา ‘3 ดาวรุ่ง-บิ๊กอ๊อบ’ จับทาง ‘บิ๊กบี้-บิ๊กแดง’ เช็กขุมกำลัง ตท.27 และหมากเกม ‘มานัต’ ในมือ ‘แอร์บูล’

รายงานพิเศษ

 

‘บิ๊กแก้ว’ นำทัพไทยสู่ยุคเป๊ะ!

จับตา ‘3 ดาวรุ่ง-บิ๊กอ๊อบ’

จับทาง ‘บิ๊กบี้-บิ๊กแดง’

เช็กขุมกำลัง ตท.27

และหมากเกม ‘มานัต’

ในมือ ‘แอร์บูล’

พลันที่บิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ คนที่ 34 แต่เป็นคนแรกที่เป็น “ทหารคอแดง” ผู้ปฏิบัติหน้าที่ใน ฉก.ทม.รอ.904

ทหารในกองทัพไทยก็เริ่มจับตามองแล้วว่า ผบ.ทหารสูงสุดคนต่อไปจะเป็นคนในหรือคนนอก และจะต้องเป็นทหารคอแดงอีกหรือไม่

แม้ พล.อ.เฉลิมพลจะเกษียณกันยายน 2566 ก็ตาม แต่ในช่วง 3 ปี ยุคบิ๊กแก้วนี้ คงจะได้เห็นผู้นำเสือป่า แจ้งวัฒนะคนต่อไป

แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวสะพัดเรื่อง “สัญญาใจ” ระหว่างบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุดคนปัจจุบัน กับบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ว่าจะให้บิ๊กแก้วนั่งแค่ 2 ปี แล้วในปีสุดท้ายจะข้ามห้วยไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม

เพื่อเปิดทางให้บิ๊กไก่ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ที่โผนี้ขึ้นเป็นเสนาธิการทหาร Westpointet นักรบเหรียญรามา ได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคนใหม่สัก 1 ปี เพราะมีอายุราชการถึง 2566 พร้อมบิ๊กแก้ว

แต่ที่สุด ประเด็นนี้ก็เป็นแค่กระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นในกองทัพไทย ไม่มีสัญญาใจ หรือสัญญาสุภาพบุรุษ

 

สอดคล้องกับข่าวจากกองทัพบกที่ว่า บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่กำลังจะเกษียณราชการ และไปปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการพระราชวัง เล็งที่จะวางตัวบิ๊กอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24) ที่หลุดไลน์สายคุมกำลังทัพภาคที่ 1 ไปเป็นพลโท รอง เสธ.ทบ. หลัง 30 กันยายนนี้นั้น ให้ข้ามไปโตที่ บก.กองทัพไทย เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุดต่อจาก พล.อ.เฉลิมพลในอีก 3 ปีข้างหน้า

เพื่อที่จะเป็นนายทหารคอแดงคนที่ 2 ที่จะมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุด และมีอายุราชการถึงกันยายน 2568

แต่ก็ต้องรอดูว่าโยกย้ายครั้งต่อๆ ไปจะมีการจัดวางตำแหน่ง พล.ต.ทรงวิทย์อย่างไร โดยเฉพาะโยกย้ายใหญ่ปลายปี 2564 และจะได้ลุ้นข้ามจากรอง เสธ.ทบ. กลับไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ได้หรือไม่ เพื่อเตรียมชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ.อีกครั้งหนึ่ง

เพราะในโผโยกย้ายนี้ พล.อ.พรพิพัฒน์ก็ดันนายทหารคนในกองทัพไทย เตรียมขึ้นมาจ่อหลายคน

 

ทั้งบิ๊กจ่อย พล.ท.ธิติชัย เทียนทอง (ตท.24) เจ้ากรมยุทธการทหาร ที่ขยับขึ้นพลเอก รองเสนาธิการทหาร และถูกจับตามองเพราะอายุราชการถึง 2568 เลยทีเดียว

พล.ท.ธิติชัยเป็นเหล่าทหารปืนใหญ่ ระดับหัวกะทิ สอบได้ที่ 1 ได้ไปเรียนชั้นนายพันเหล่าทหารปืนใหญ่ที่ Fort Sill สหรัฐอเมริกา แถมได้รับรางวัล Master Warfighter เรียน รร.เสธ.ทบ. สหรัฐ (Fort Leavenworth) แถมยังจบปริญญาโท สาขาการระหว่างประเทศและการทูต จากธรรมศาสตร์

และบิ๊กจุ๊ฟ พล.ต.ชิดชนก นุชฉายา (ตท.26) รองเจ้ากรมยุทธการทหาร ขึ้นเป็นพลโท เจ้ากรมยุทธการทหาร ที่จบจากมหาวิทยาลัย Webster University แล้วไปเรียนเสนาธิการทหารบก สหรัฐอเมริกา

และยังมี พล.ท.นที วงศ์อิศเรศ เจ้ากรมข่าวทหาร ก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของทัพไทย ในการขึ้นสู่ผู้นำทัพไทยได้ เพราะมีดีกรี The Westpointer จบจากนายร้อยทหารบก ผ่านมาแล้วทั้ง US Army Airborne School, Benning USA 1987 และ Air Assault School, 101st Airborne (Air Assault) Division USA 1988 และจบปริญญาโท การบริหารจัดการ, ADFA, University of New South Wales, Australia ด้วย

ทั้งยังเคยเป็นรองผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร กรุงบราซิเลีย

เป็นนายทหารโตมาจากสายวงศ์เทวัญ จาก ร.1 พัน. 2 รอ. และ พล.1 รอ. เทียบรุ่น ตท.24 โดยมีอายุราชการถึง 2567

 

อีกไม่นานความชัดเจนจะมากขึ้น จากกรณีของ พล.ต.ทรงวิทย์ แล้วจะรู้ว่า จะกระทบทายาทอำนาจในกองทัพไทยหรือไม่

เพราะคาดกันว่า พล.อ.เฉลิมพลจะสร้างทายาทของตนเองด้วยเช่นกัน ทั้งการดึงนายทหารม้ามาช่วยงาน จากเดิมที่มี พล.ต.สมบัติ ธัญญะวัน ที่โผนี้เป็น ผอ.สำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารแล้ว

ยังดึงตัวรองบุ๋ม พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี (ตท.24) รองแม่ทัพภาคที่ 1 ทหารม้า อดีต ผบ.พล.ม.2 รอ. มาอยู่ บก.ทัพไทย ติดยศพลโท ในตำแหน่ง ผบ.วิทยาลัย เสธ.ทหาร

และดึงเพื่อน ตท.21 อย่างบิ๊กโจ้ พล.อ.ณตฐพล บุญงาม ที่ปรึกษาพิเศษ มาช่วยงาน ระหว่างรอต่อคิวไปเป็นเลขาฯ สมช.

ขณะที่กองทัพบกนั้น บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่ กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก ในฐานะทายาทอำนาจ ที่จะขึ้นมาคุม ทบ.แทน พล.อ.อภิรัชต์

หลังจากที่ประกาศคำสัญญา ลั่นกองทัพบก ต่อหน้า พล.อ.พรพิพัฒน์ ผบ.ทหารสูงสุด และ พล.อ.อภิรัชต์ และ 266 นายพลเกษียณ ในพิธีเทิดเกียรติที่ บก.ทบ.ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ที่ดูขึงขัง

ในการจะยึดมั่นในอุดมการณ์ทหารพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตย ความสงบเรียบร้อยของชาติและผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ

ปกป้องค้ำจุนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดีอย่างสูงสุด และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ และยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ จะดำรงไว้ซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรีของการเป็นหลักด้านความมั่นคงของชาติและเป็นที่พึ่งของประชาชน

“พวกเราขอให้คำมั่นว่าจะสืบสานอุดมการณ์ของทุกท่านให้ดีที่สุดและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้สังคมมีความปกติสุข มีความรักความสามัคคีอันจะเป็นการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวหน้าไปข้างหน้าอย่างมั่นคงต่อไป” พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าว

ก่อนหน้านั้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ได้ปิดห้องคุยกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ อบรม ถ่ายทอดการรับมือนักข่าว และสงครามโซเชียล

“ผมกับบี้สนิทกัน คุยกันสัปดาห์ละ 2-3 วัน แล้วทำงานด้วยกันมาตลอด มีอะไรก็คุยกัน” พล.อ.อภิรัชต์กล่าว

 

พล.อ.ณรงค์พันธ์เสมือนเป็นเพื่อนรุ่นน้อง เพราะ พล.อ.อภิรัชต์มาสอบเข้าเรียน รร.เสธ.ทบ.ได้พร้อม ตท.22 และด้วยการเรียงชื่อตามตัวอักษร จึงทำให้ พล.อ.อภิรัชต์สนิทสนมกับบิ๊กโต้ง พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ หัวหน้าสำนักงานบิ๊กบี้ และแม่ทัพต้น ว่าที่ พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่ รวมทั้ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ด้วย

ผลของการที่เพื่อนรุ่นน้อง ตท.22 ช่วยติวให้ด้วย ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์เรียน เสธ.ทบ. จบแบบ Top Twenty เลยทีเดียว จน พล.อ.อภิรัชต์เปรยๆ ว่า สมัยเป็นเด็กไม่ค่อยเรียน และหนีโรงเรียนบ้าง พอมาตอนโตเลยต้องชดเชย เรียนมาก อ่านมาก ทำงานมาก

ดังนั้น ระหว่าง พล.อ.อภิรัชต์ และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จึงแนบแน่น แถมลงไปอยู่ยะลาด้วยกันอีก 1 ปี แม้บิ๊กแดงจะเกษียณไป แต่ก็ยังคงเป็นกำลังใจให้

“ถามว่า ห่วงมั้ย จะพูดว่าห่วงก็ไม่เชิง เพราะตัวเราเหมือนหมดภาระจากกองทัพ แต่ในฐานะทหาร เราก็ยังห่วงกองทัพอยู่” บิ๊กแดงเปรย

 

ขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์นั้นออกตัวกับนักข่าวแล้วว่า จะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องการเมือง

ส่วนคำถามประเพณีเมื่อขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.วันแรก ที่ว่า จุดยืนเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร

“เรื่องการเมือง ผมจะไม่ตอบ แต่จะตอบเฉพาะเรื่องภารกิจของ ทบ.เท่านั้น” คำตอบของ พล.อ.ณรงค์พันธ์

แต่การนั่งเป็น ผบ.ทบ. 3 ปี จะทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์มีพลังอำนาจมากขึ้น มากกว่าคนเป็น ผบ.ทบ.แค่ปีเดียว

จึงน่าจับตามองการจัดทัพในการโยกย้ายครั้งต่อไปของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ตั้งแต่โผผู้การ ผู้พัน ไปจนโผนายพล เมษายนปีหน้าเลยทีเดียว

พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน

ที่น่าจับตาคือ กองพล หน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 1 และหน่วยขึ้นตรง ทบ. ที่เป็นขุมกำลังรบหลัก คุมกรุงเทพฯ และชานเมือง และใกล้กรุงเทพฯ

ผบ.กองพลหลัก ขยับขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ทั้ง ผบ.หนุ่ย พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ (ตท.24) ผบ.พล.ร.2 รอ. เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ผบ.หลอด พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ (ตท.24) ผบ.พล.ร.9 ขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ผบ.รุณ พล.ต.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี (ตท.24) ผบ.พล.ม.2 รอ. ขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1

โดยมีนายทหารแกนนำรุ่น ตท.27 ขยับขึ้นมาแทน เช่น รองใหญ่ พ.อ.อมฤต บุญสุยา รอง ผบ.พล.1 รอ. น้องรักสายทหารเสือราชินี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นพลตรี ในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.2 รอ.) คุมบูรพาพยัคฆ์ ที่เป็นหน่วยทหารคอแดง

พ.อ.อุดม แก้วมหา รอง ผบ.พล.ม.2 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.ม.2 รอ. ที่เป็นขุมกำลังรบทหารม้า กลางกรุง และสระบุรี ที่เป็นทหารม้าคอแดง

และ พ.อ.บรรยง ทองน่วม รอง ผบ.พล.ร.9 เป็นพลตรีใหม่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 แม้จะไม่ใช่ทหารคอแดง แต่เป็นขุมกำลังหลัก ทัพ 1 ที่กาญจนบุรี

จากเดิมที่มีบิ๊กเนี้ยว พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน เป็น ผบ.พล.1 รอ.ต่อ เพราะทำหน้าที่สำคัญใน ฉก.ทม.รอ.904 และเป็นนายทหารที่โตมาจาก ร.31 รอ. เช่นเดียวกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จึงยิ่งน่าจับตามอง

รวมทั้งบิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ที่เป็น ผบ.มทบ.11 ที่เติบโตมาจากสายวงศ์เทวัญ จาก ร.11 รอ. มากับ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ก็จ่อคิวโตและมีอายุราชการถึง 2572 ลุ้นที่จะเป็น ผบ.ทบ.กับ พล.ต.ทรงพลที่เกษียณ 2571 เลยทีเดียว จึงถือเป็นนายทหารคอแดงดาวรุ่งสุดเป๊ะ

ขณะที่กองทัพเรือ บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผช.ผบ.ทร. ที่เตรียมขึ้นมาเป็น ผบ.ทร.คนใหม่นั้น อาจเจอผลพวงจากการโยกย้าย เพราะต้องมีทั้งคนสมหวัง และผิดหวัง จึงมีปฏิกิริยาอยู่บ้าง

แต่ด้วยบุคลิก ท่าทีและลักษณะของ พล.ร.อ.ชาติชายที่เป็นนายทหารอารมณ์ดี ยิ้มง่าย และคิดบวก ก็จะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ไปได้

เพราะในหมู่ทหาร จะรู้กฎข้อหนึ่งว่า เมื่อมีโปรดเกล้าฯ คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายออกมาแล้ว ถือว่าจบ

 

แต่ที่กองทัพอากาศ ไม่รู้ว่าจะจบ หรือมีผลพวงอะไรตามมาหรือไม่ จากการที่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. เสนอชื่อบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก

แถมงานนี้ทำให้มีนายทหารอากาศพลาดหวังหลายคน และส่งผลต่อการวางตัวทายาททัพฟ้าก่อนหน้านี้

เพราะเมื่อ พล.อ.อ.แอร์บูลขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. และมี เสธ.หนึ่ง พล.อ.ท.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) รอง เสธ.ทอ. จะขึ้นเป็นพลอากาศเอก ตำแหน่งเสนาธิการทหารอากาศ

ก็ถูกจับตามองว่าจะเป็นทายาทเสืออากาศ ที่ พล.อ.อ.มานัตได้วางตัวเป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป เอาไว้ต่อจาก พล.อ.อ.แอร์บูลที่จะนั่ง ผบ.ทอ.แค่ปีเดียว

แต่โผ ทอ.ครั้งนี้ มีแรงกดดันทำให้ พล.อ.อ.มานัตไม่สามารถจัดโผ 7 เสืออากาศได้ตามที่หวัง จนมีการแก้ไขบัญชีรายชื่อในส่วนของ ทอ.มาแล้วครั้งหนึ่ง

ดังนั้น ในระดับ 7 เสืออากาศ หลัง 30 กันยายนนี้ จะยังมีบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ที่ขึ้นมาเป็น ผบ.คปอ. และบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ที่ขึ้นมาเป็นประธานที่ปรึกษาพิเศษ ทอ.

ที่สำคัญ เป็นเพื่อน ตท.21 ของ พล.อ.อ.แอร์บูลอีกด้วย โดยเฉพาะความสนิทสนมกับ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์

อีกทั้งไม่มีใครที่ไม่อยากรู้ว่า ระหว่าง พล.อ.อ.มานัต กับ พล.อ.อ.แอร์บูล มีสัญญาสุภาพบุรุษกันหรือไม่ ที่ว่า จะเสนอชื่อว่าที่ พล.อ.อ.ชานนท์เป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป

แม้ พล.อ.ท.ชานนท์ นักบิน F16 Callsign Canon จะเป็นดาวเด่นนับจากนี้ แต่ก็ต้องผ่านด่านรุ่นพี่ ตท.21 ที่เป็นนักบิน F16 อย่าง Stallion พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ และ Snowy พล.อ.อ.นภาเดชไปให้ได้

ไม่แค่นั้น จากโผนี้ มีการมองข้ามช็อตไปถึงทายาทรุ่นต่อไป เพราะโผนี้มีการเปลี่ยนรองเสนาธิการทหารอากาศใหม่ทั้ง 5 คน และเจ้ากรมใหม่ทั้ง 5 กรม

ทั้ง พล.อ.ท.ชากร ตะวันแจ้ง (ตท.23) นักบินลำเลียง Merlin เจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ ที่ขึ้นเป็นรองเสนาธิการทหารอากาศ

บิ๊กไก่ พล.อ.ท.พันธ์ภักดี พัฒนกุล (ตท.24) นักบิน F16 เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ บิ๊กจ๋า พล.อ.ท.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร (ตท.23) นักบิน F16 เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ และบิ๊กโอม พล.อ.ท.ชนะยุทธ รัตนกาล (ตท.22) นักบิน Normad เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ และบิ๊กเปิ้ล พล.อ.ท.ตรีพล อ่องไพฑูรย์ (ตท.22) นักบิน L39 เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทอ. ที่ล้วนขึ้นเป็นรองเสนาธิการ ทอ.

รวมทั้งเจ้ากรมใหม่ อย่างบิ๊กเจ๋ง พล.อ.ต.มนัท ชวนะประยูร (ตท.25) นักบิน F16 Callsigh Maverick ที่ขยับจากรองเจ้ากรมยุทธการ ทอ. แต่ไม่ได้เป็นเจ้ากรม ยก.ทอ. แต่ไปเป็นเจ้ากรมข่าวทหารอากาศ

แต่ พล.อ.อ.มานัตได้ดัน พล.อ.ต.ไวพจน์ เกิงฝาก (ตท.25) นักบิน F5 Callsign “Pirate” อดีตผู้การกองบิน 21 และอดีต ผช.ทูต ทอ.ที่ญี่ปุ่น ให้ขยับจาก ผบ.รร.การบิน ทอ. ที่มาเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ

จนกล่าวกันใน ทอ.ว่า พล.อ.อ.มานัตที่เป็นนักบิน F5 ดันนักบิน F5 ด้วยกัน มาปาดหน้านักบิน F16

หากทุกอย่างเป็นไปตามที่ พล.อ.อ.มานัตวางเอาไว้ จาก พล.อ.อ.แอร์บูล จะเป็น พล.อ.อ.ชานนท์ และต่อด้วย พล.อ.ท.พันธ์ภักดี และ พล.อ.ท.ไวพจน์

แต่หากจาก พล.อ.อ.แอร์บูลแล้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์เป็น ผบ.ทอ. ก็จะต่อด้วย พล.อ.ต.มนัทนั่นเอง

รอวัดใจ พล.อ.อ.แอร์บูลใน 1 ปีต่อจากนี้เลยทีเดียว

   ผลกระทบจากโผทหารคราวนี้ สั่นสะเทือนไปทุกหัวระแหงของเหล่าทัพเลยทีเดียว