เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ”เยาวชนปลดแอก”เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎา คม ณ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร” ณ สนามหลวง
ด้านหนึ่ง สัมผัสได้ในลักษณะสร้างสรรค์ ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง สัมผัสได้ในลักษณะทำลาย
สร้างสรรค์มิติใหม่ให้กับการเคลื่อนไหว”สาธารณะ”
ทำลาย “ปฏิมา” อันเป็นภาพและความเคยชินเดิมๆของการ เคลื่อนไหวในกาลอดีต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตของการเคลื่อนไหวก่อนรัฐประหารเมื่อ เดือนกันยายน 2549 อดีตของการเคลื่อนไหวก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ที่ออกมาตำหนิติฉิน วิพากษ์วิจารณ์ สกัดขัดขวาง อย่างเซ็งแซร่อึงมี่อยู่ในขณะนี้ก็ล้วนเป็น”ท่าน”เหล่านั้นส่วนใหญ่
เนื่องจากกระทบกระแทกตรงต่อ”ปฏิมา”แห่งความเชี่ยวชาญ
หลังผ่านพ้นจากการเคลื่อนไหว”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”บทสรุปที่ว่าเป็นม็อบมุ้งมิ้ง บทสรุปที่ว่าเป็นม็อบฟันน้ำนม บทสรุปที่ว่าเป็นม็อบวูบวาบ
หรือแม้กระทั่งการชี้นิ้วกล่าวหาว่าเป็น”ม็อบไม่ได้มาตรฐาน” จากบรรดาผู้มากด้วยความจัดเจน
ได้พังทลายลง ณ เบื้องหน้าสังคมอย่างชนิดแหลกละเอียด
ไม่ว่าจะเป็นรากที่มาแห่งการแปรเปลี่ยนเป็น”บังเกอร์”กลายเป็น”บังเก้อ” ไม่ว่าจะเป็นรากที่มาแห่งการเปลี่ยนแปลงจากบุก”ทำเนียบรัฐบาล”เป็นรุดไปยัง”ทำเนียบองคมนตรี”
สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการของ”19 กันยา ทวงอำนาจ คืน ราษฎร” มิได้เป็นการเคลื่อนไหวประเภท”ทารกในบู๊ลิ้ม”เหมือนที่ถูกหมิ่นหยามต่อไปอีกแล้ว
เพราะเด่นชัดว่าบรรดา”ผู้ใหญ่”ทั้งหลายล้วน”ถูกแกง”ครบถ้วน
ไม่ว่าจะมองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ยิ่งมีความหงุดหงิดต่อ”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร” มากเพียงใด ยิ่งสะท้อนให้ประจักษ์ผลสะเทือนอันเป็นพลานุภาพจาก
ไม่ว่าต่อรุ้ง ไม่ว่าต่อเพนกวิน ไม่ว่าต่ออานนท์ ไม่ว่าต่อไมค์
ควันแห่ง”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”ยังไม่ทันจางหายก็ต้องเตรียมรับมือกับการชุมนุมในวันที่ 24 กันยายน ณ รัฐสภา อีก