‘คน หรือ แมลงสาบ’ กว่าจะเป็น Airbnb ที่มีมูลค่ากว่า3หมื่นล้านเหรียญ มีที่มาที่ไม่น่าเชื่อ : ธุรกิจพอดีคำ

ปี2004 ชายหนุ่มชาวอเมริกัน “สองคน” เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย “การออกแบบ (Design)”

ชื่อว่า โรด ไอร์แลนด์ (Rhode Island)

ออกเดินทางตามหาความฝัน ที่จะเป็น “นักออกแบบ” และ “ผู้ประกอบการ”

ชายหนุ่มคนแรกพบว่า

“เก้าอี้เหล็ก” ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง นั่งไม่สบาย และบางครั้งทำให้ “สนิม” เลอะกางเกง

เขาจึงออกแบบ “ผลิตภัณฑ์” หนึ่งขึ้นมา

เป็น “เบาะรองนั่ง สีส้มฉูดฉาด” มีที่จับด้านข้างสุดเก๋

แล้วตั้งชื่อมันว่า “คริตบันส์” (CritBuns)

ราคาขายอยู่ที่ “19.99 เหรียญ” หรือประมาณ 700 บาท

เขานำเสนอเจ้าคริตบันส์ให้กับร้านหนังสือในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

และโดน “ปฏิเสธ” เป็นครั้งแรก อย่างไม่มีเยื่อใย

เขานำเสนอสินค้าตัวนี้หลายแห่ง จนแล้วจนรอด เขาขายมันได้ทั้งหมด 4 อันถ้วน

คริตบันส์ ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เขาคิด

แต่นี่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการครั้งแรกของชายหนุ่มผู้นี้

ขอบคุณภาพจากประชาชาติ

เขามีชื่อว่า “โจ เกบเบีย (Joe Gebbia)”

ในเวลาใกล้ๆ กัน ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งกำลังสับสนกับงานประจำที่ตัวเองทำอยู่ที่ “บริษัทออกแบบ” แห่งหนึ่ง

มันไม่ค่อยจะเข้ากับชีวิตของเขาเท่าไรนัก

เขาใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที จากบ้านไปที่ทำงานทุกวัน

บวกกับการทำงานแบบพนักงานประจำ ดูจะไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะทำ

ชายหนุ่มคนนี้ตัดสินใจทุบหม้อข้าว ลาออกจากงานประจำ

มาตามหาความฝันที่อยากจะเป็น “ผู้ประกอบการ” ที่ซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley)

ปลายทางแรก ณ เมืองซาน ฟรานซิสโก

คือห้องพักเล็กๆ ของ “โจ เกบเบีย”

ชายหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า “ไบรอัน เชสกี้ (Brian Chesky)”

ขอบคุณภาพจากประชาชาติ

วันที่ 22 กันยายน ปี 2007

เมืองซานฟรานซิสโก จะมีการจัดสัมมนาใหญ่ประจำปีของ “นักออกแบบ”

จะมีผู้คนหลั่งไหลกันเข้ามาหลายพันคนที่เมืองแห่งนี้

โรงแรมต่างๆ ถูกจองกันเต็มหมด ด้วยราคาสูงจนน่าตกใจ

ก่อนวันงานไม่กี่สัปดาห์

“โจ” ส่งอี-เมลฉบับหนึ่งให้ “ไบรอัน”

มีใจความว่า

“Brian,

I thought of the way to make a few bucks – turning our place into designer”s bed and breakfast – offering young designers who come into town a place to crash during the 4-day event,

complete with wireless internet, a small desk space, sleeping mat and breakfast each morning

Ha! – Joe”

 

(ไบรอัน, ชั้นนึกวิธีหาเงินออกละ เราจะเปลี่ยนห้องเราให้เป็นที่ที่พวกนักออกแบบเด็กๆ สามารถเข้ามานอนค้างได้ ในช่วงที่มีการประชุม 4 วัน โดยเราจะมีอินเตอร์เน็ต โต๊ะเล็กๆ เบาะนอน และอาหารเช้าให้ทุกเช้า เจ๋งมั้ย – โจ)

และนี่คือจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิมของ “โจ” และ “ไบรอัน”

ผู้ร่วมก่อตั้ง “แอร์บีแอนด์บี (Airbnb)” สตาร์ตอัพชื่อก้องโลก

ที่สร้างระบบให้ผู้คนสามารถเข้าไปนอนในบ้านของอีกคนได้ เหมือนห้องเช่า

ราวกับโรงแรมที่มีห้องพัก คือบ้านของผู้คนทั่วโลก โดยไม่ต้องลงทุนสร้างตึกเองสักแดงเดียว

ปัจจุบัน “แอร์บีแอนด์บี” มีมูลค่าประเมินไว้สูงถึงสามหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ “หนึ่งล้านล้าน” บาททีเดียว

มูลค่าสูงกว่าโรงแรมแบรนด์ดังๆ หลายแห่ง เช่น ฮิลตัน (Hilton) หรือ แมร์ริออต (Marriott) เสียอีก

หากแต่ว่า เรื่องราวที่ดูสวยงาม และสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกนั้น

แน่นอน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป

ก้าวกระโดดแรกๆ ของแอร์บีแอนด์บี

คือ การที่ผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสองได้มีโอกาสเข้าไปนั่งเรียนเรื่อง “สตาร์ตอัพ” เป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม

ที่มหาวิทยาลัย “สแตนฟอร์ด”

จอห์น แม็กอะดู (John McAdoo) จากบริษัท Venture Capital ชื่อดัง นามว่า “เซควอย่า (Sequoia)”

บรรยายเกี่ยวกับการทำสตาร์ตอัพให้ประสบความสำเร็จ โดยเขาเล่าว่า

“สตาร์ตอัพที่ดีนั้น เหมือนการเล่นกระดานโต้คลื่น คุณจะต้องมีความสามารถในการดูว่า คลื่นลูกใหญ่กำลังจะมา โดยที่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็น เมื่อคุณเห็นมันแล้ว คุณจึงเริ่มสร้างทีม สร้างกระดานโต้คลื่นที่เจ๋งที่สุด เพื่อโต้กับคลื่นนั้น ให้ผู้คนได้เห็น เป็นที่จดจำ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะมีทีมที่ดี สร้างกระดานโต้คลื่นชั้นดี แต่ไม่มีคลื่นให้คุณได้แสดงฝีมือ ก็เหมือนกับการสร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทตัวเอง โดยที่ไม่มีตลาดขนาดใหญ่รองรับ ทำให้ดีอย่างไร ก็คงไม่น่าสนใจที่จะลงทุน”

แอร์บีแอนด์บี เลือกเจาะตลาดที่ใหญ่มากๆ นั่นคือ ตลาดโรงแรมทั่วโลก

อาจจะดูบ้าบอ และใหญ่เกินตัวในตอนแรก

ถ้าทำได้สำเร็จ นั่นคือ ธุรกิจที่จะเปลี่ยนโลก

นี่แหละ ธุรกิจสตาร์ตอัพในแบบที่นักลงทุนระดับโลกมองหา

ใครที่อยากจะทำสตาร์ตอัพระดับโลก

อย่าลืมมอง “ตลาด” ก่อน ว่าใหญ่แค่ไหน

คลื่นลูกใหญ่ อยู่ที่ไหน รีบสร้าง “กระดาน” ไปโต้คลื่นลูกนั้น

“คลื่น” สำคัญไม่แพ้ “กระดาน”

คนที่โต้คลื่นระดับโลกเท่านั้น

ถึงจะเป็นบริษัทระดับโลกได้

ก้าวกระโดดอีกก้าวที่สำคัญสำหรับ “แอร์บีแอนด์บี”

คือ การได้เข้าร่วมโรงเรียนผู้ประกอบการอันดับต้นๆ ของโลก ชื่อว่า “Y Combinator”

ที่น่าสนใจคือ Paul Graham ผู้ร่วมก่อตั้ง Y Combinator ไม่เชื่อในธุรกิจของแอร์บีแอนด์บีเลยแม้แต่น้อย ในช่วงแรกๆ

แต่เขาประทับใจทั้งสองคนจากการสัมภาษณ์

ในความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะทำสิ่งนี้อย่างจริงจัง

ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทุบหม้อข้าว ทำทุกอย่างเพื่อพัฒนา “บริการ” ของตนเอง

จนเผลอหลุดปากให้คำชม ที่ “ยิ่งใหญ่” มากๆ สำหรับ Paul Graham

“พวกคุณนี่มันเป็นแมลงสาบชัดๆ”

แมลงสาบ ทู่ซี้ ตายยาก

คุณสมบัติแรกๆ ของ “ผู้ประกอบการ” ที่จะประสบความสำเร็จ

ถามว่า แล้วแอร์บีแอนด์บี สตาร์ตอัพชื่อก้องโลก เริ่ม “เหาะ” ได้อย่างไร

โกรว์ธ แฮ็กกิ้ง (Growth Hacking) ที่พวกเขาทำคืออะไร

ติดตามได้ในฉบับหน้าครับ